ดิโน่ บราโว่ : นักมวยปล้ำที่หมดแพชชั่น จนต้องหันไปเดินบนเส้นทางมาเฟีย
"หมดแพชชั่นกับการทำงาน" นี่คือความรู้สึกที่ใครหลายคนบนโลกใบนี้เคยพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเราต้องเจอหัวหน้าที่ห่วยแตก หรือ งานแต่ละวันที่ซ้ำซากจำเจ ความน่าเบื่อเหล่านี้ทำให้ใครหลายคนยอมยื่นซองขาว และเลือกจะเป็นคนตกงานอยู่บ้านเฉย ๆ
ดิโน่ บราโว่ นักมวยปล้ำชาวแคนาดาที่โด่งดังในยุค 80s คือหนึ่งคนที่ผ่านความรู้สึกแบบนี้มา เมื่อเขาถูกใช้งานไม่ต่างจากตัวตลกในสมาคมมวยปล้ำหมายเลขหนึ่งของโลก เขาตัดสินใจหันหลังให้กับสังเวียนและเลือกเดินบนเส้นทางใหม่ที่ไม่มีใครคาดคิด
นี่คือเรื่องราวของคนที่สถานการณ์พาไป จนต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวงการมาเฟีย ก่อนพบกับจุดจบอันน่าเศร้า ในเหตุฆาตกรรมปริศนาที่ยังหาผู้กระทำผิดไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้
ฮัลค์ โฮแกน แห่งแคนาดา
อดอลโฟ่ เบรสซิอาโน่ หรือที่แฟนมวยปล้ำรู้จักกันในนาม ดิโน่ บราโว่ เขาเป็นชาวอิตาเลียนที่เติบโตขึ้นมาในประเทศแคนาดา หลังครอบครัวอพยพจากบ้านเกิดในเขตอิตาลีใต้ สู่นครมอนทรีออล และนับตั้งแต่เขาเริ่มฝึกฝนมวยปล้ำสมัครเล่นเมื่ออายุ 12 ปี เส้นทางของดิโน่บนสังเวียนการต่อสู้ก็มีแต่คำว่ารุ่ง
เมื่ออายุ 22 ปี ดิโน่ เริ่มต้นการเดินทางของเขาในวงการมวยปล้ำอาชีพ ด้วยการจับคู่กับ โดมินิค บราโว่ และขึ้นปล้ำในนาม บราโว่ บราเธอร์ส (Bravo Brothers) ซึ่งในเวลานั้นเขาได้รู้จักกับ จิโน่ บริโต้ (Gino Brito) นักมวยปล้ำรุ่นเก๋าฝีมือดีที่โลดแล่นบนสังเวียนมาตั้งแต่ปี 1961 ดิโน่จึงฝากตัวเป็นศิษย์กับบริโต้และพัฒนาเป็นคู่แท็กทีมในเวลาต่อมา
Photo : facebook.com/DinoBravoUnofficial
การได้เคียงข้างนักมวยปล้ำรุ่นใหญ่ของแคนาดาอย่าง บริโต้ ช่วยพัฒนาชื่อเสียงของดิโน่ให้โด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เหตุผลสำคัญจริง ๆ ที่ทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของมวยปล้ำแคนาดาคือตัว ดิโน่ เอง
เพราะหากคุณมองไปยังรูปร่างของดิโน่ เขาคือชายสูง 180 เซนติเมตร หนักมากกว่า 100 กิโลกรัม เขาคือภาพสะท้อนของชายหนุ่มในอุดมคติที่มีความแข็งแกร่ง และมีเสน่ห์ล้นเหลือ แฟนมวยปล้ำที่ทันดูเขาในเวลานั้น กล่าวว่า ดิโน่ บราโว่ ไม่ต่างจาก แอ็กชั่น ฟิกเกอร์ ที่มีชีวิตและเดินได้
ดิโน่ บราโว่ จึงถูกผลักดันให้เป็นพระเอกของสมาคม International Wrestling ค่ายมวยปล้ำอันดับหนึ่งในรัฐควิเบก ประเทศแคนาดา ในช่วงต้นทศวรรษ 80s ซึ่ง ดิโน่ กลายเป็นคำตอบที่ใช่ของสมาคมในเวลานั้น
เขาคือซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของค่ายที่สามารถดึงดูดแฟนจำนวนมากให้มาตีตั๋วเข้าชมการแข่งขัน ความสำเร็จตรงนี้เองทำให้เขากลายเป็นคนโปรดของ โทนี่ มูลี่ (Tony Mule) โปรโมเตอร์แห่ง International Wrestling
Photo : facebook.com/DinoBravoUnofficial
"มีคนเกือบ 2 ล้านคนดูรายการของเราในช่วงเช้าวันอาทิตย์ เราคือค่ายมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่มากในเวลานั้น เพราะในช่วงพีคของ International Wrestling เรามี ริค มาร์เทล, คิง ทองก้า, พี่น้องรูโชส์, เดอะ ไจแอนท์ แต่ฟังนะ ดิโน่ บราโว่ เขาคือนักมวยปล้ำเบอร์หนึ่งของเราในยุค 80s" มูลี่ ย้อนอดีตถึงวันอันยิ่งใหญ่ของบราโว่
ชื่อเสียงที่มากล้นในฐานะฮีโร่ของชาวแคนาดา บวกกับความสนิทสนมหลังฉากกับผู้มีอำนาจในสมาคม ทั้ง บริโต้ และ มูลี่ ส่งผลให้ บราโว่ ไม่เพียงแต่จะเป็นนักมวยปล้ำ เพราะเขายังก้าวไปทำงานในฐานะคนจัดแมตช์ ก่อนจะกลายเป็นเจ้าของร่วมของสมาคม International Wrestling ในเวลาต่อมา
การทำงานในฐานะคนจัดแมตช์ หรือ บุ๊กเกอร์ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากคุณจะต้องรับผิดชอบในการสรรค์สร้างเนื้อเรื่องทั้งหมดที่ปรากฏขึ้นบนเวที บุ๊กเกอร์ยังต้องระวังไม่ให้เขียนบทไปเข้าข้างนักมวยปล้ำคนใดคนหนึ่งมากเกินไป จนนักมวยปล้ำที่เหลือเละเทะและกลายเป็นตัวตลก ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่ค่ายมวยปล้ำในลักษณะนี้จะเละเทะจนล่มสลายในเวลาไม่นาน
ดิโน่ บราโว่ แสดงความเก่งกาจของเขาออกมาในเวลานี้ เพราะเขาเลือกฝ่าฝืนข้อห้ามในฐานะบุ๊กเกอร์ ด้วยการปั้นตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์ที่คอยปราบนักมวยปล้ำทุกรายที่ก้าวเท้าเข้าสู่สมาคม จนผงาดคว้าแชมป์แคนาดามาครองถึง 7 สมัย
Photo : facebook.com/DinoBravoUnofficial
อย่างไรก็ดีความนิยมของ International Wrestling กลับพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ ดิโน่ เข้าใจดีว่าสตาร์หมายเลขหนึ่งคือตัวเขาเอง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ดิโน่เลือกจะขับเคลื่อนและเดินหน้าเนื้อเรื่องทั้งหมดรอบตัวเขาเอง
"ฉันคิดว่าพ่อมีแพชชั่นกับกีฬามวยปล้ำมาก เขากระหายจะประสบความสำเร็จ และอยากจะมีชื่อเสียงมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ" เคลาเดีย เบรสซิอาโน่ ลูกสาวของดิโน่กล่าว
แต่อย่างที่บอกไปแต่ต้นว่าการผลักดันตัวเองของบุ๊กเกอร์ไม่ได้เป็นเรื่องดี เพราะในท้ายที่สุดจะมีนักมวยปล้ำจำนวนมากไม่พอใจ และพร้อมจะแทงข้างหลังอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นกับ ดิโน่ บราโว่ เมื่อนักมวยปล้ำของ International Wrestling ทยอยกันออกจากสมาคม เพื่อเดินทางไปค้นหาความสำเร็จใหม่ในสหรัฐอเมริกา และนำมาสู่จุดล่มสลายของ International Wrestling ในเวลาต่อมา
ฝันร้ายใน WWF
วงการมวยปล้ำเปลี่ยนไปแบบไม่มีวันหวนกลับในปี 1985 เมื่อสมาคมหมายเลขหนึ่งของโลก WWF (WWE ในปัจจุบัน) ประสบความสำเร็จในการจัดศึก WrestleMania นำมาสู่แผนการในการกว้านซื้อค่ายมวยปล้ำขนาดเล็กทั้งหมดในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่ง International Wrestling ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของ วินซ์ แม็คแมน
ไม่มีใครอยากสูญเสียค่ายมวยปล้ำของตน ดิโน่ บราโว่ ก็เช่นเดียวกัน เขาพยายามทุกทางที่จะต่อต้านอำนาจของ วินซ์ แม็คแมน และ WWF แต่การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ต่างจากแมวที่ต้องฟัดกับเสือ เนื่องจากเงินมหาศาลที่มากเกินกว่าใครจะจินตนาการ
Photo : facebook.com/DinoBravoUnofficial
WWF สามารถหว่านล้อมและดูดนักมวยปล้ำฝีมือดีของ International Wrestling มาได้ ทั้ง ริค มาร์เทล, คิง ทองก้า, พี่น้องรูโชส์ และ เดอะ ไจแอนท์ อันที่จริงต้องเรียกว่า WWF ซื้อนักมวยปล้ำเกือบทั้งหมดของ International Wrestling ก็น่าจะเป็นคำพูดที่เหมาะสมกว่า
ดิโน่ คือ หนึ่งในไม่กี่คนที่ยืนหยัดอยู่กับ International Wrestling แต่ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เขามีทางเลือกอยู่สองทาง ระหว่างต่อสู้กับสมาคมเบอร์หนึ่งของโลกจนลมหายใจสุดท้าย หรือตัดสินใจเข้าร่วมกับศัตรู ท่ามกลางภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลภรรยาและลูก บราโว่ เลือกทางที่ดีที่สุดกับครอบครัว เขาจึงยอมเซ็นสัญญากับ WWF และปิดฉาก International Wrestling ไปตลอดกาล ในปี 1987
"เช่นเดียวกับชาวอิตาเลียนทุกคน หัวหน้าครอบครัวมีหน้าที่ต้องดูแลครอบครัว ต้องช่วยเหลือครอบครัว และต้องปกป้องครอบครัวของตัวเอง" ดิอาน่า ริเวสต์ ภรรยาของดิโน่กล่าว หลังสามีตัดสินใจรับเงิน 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ จากการเซ็นสัญญากับ WWF
ดิโน่ เจอเพื่อเก่ามากมายหลายคนในห้องแต่งตัวของ WWF แต่เขาไม่เคยให้อภัยคนเหล่านั้นที่หันหลังให้แก่ International Wrestling มันเห็นได้ชัดเจนว่า ดิโน่ ยังไม่พร้อมจะเปิดรับสภาพแวดล้อมใหม่กับสมาคมใหม่ และยังยึดติดอยู่กับวันคืนอันหอมหวานที่เคยมี ซึ่งความสุขของเขากำลังจะลดน้อยลงไปอีก
เมื่อสุดยอดนักมวยปล้ำชาวแคนาดา ต้องถูกปรับแต่งคาแร็กเตอร์ให้เข้ากับโลกการ์ตูนของ WWF เขาถูกจับย้อมผมบลอนด์ และพลิกบทบาทให้ไปเป็นนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรมชาตินิยมจากรัฐควิเบก แทนจะเป็นฮีโร่ขวัญใจคนดูเหมือนแต่ก่อน
Photo : facebook.com/DinoBravoUnofficial
"ทุกคนคิดว่าผมบลอนด์ของเขามันตลกมาก เมื่อดิโน่เดินผ่านห้องแต่งตัวทุกคนล้อเลียนผมของเขา และดิโน่โมโหมาก เพราะเขาคือผู้ชายที่ภูมิใจในตัวเอง เขาอับอายมากนะ แต่เขาจะเป็นต้องทำมัน เพราะนี่คือสิ่งที่คนข้างบนต้องการ" แจ็คส์ รูโชส์ (Jacques Rougeau) อดีตนักมวยปล้ำของ International Wrestling และ WWF กล่าว
"มันคืออะไรที่แตกต่างออกไป เพราะวันที่คุณอยู่ในสมาคมเล็ก ๆ แบบ International Wrestling คุณจะเชื่อมั่นในตัวเอง คุณจะสร้างสรรค์ตัวเองขึ้นมา แต่เมื่อคุณย้ายมาอยู่กับ WWF คุณเป็นแค่คาแร็กเตอร์ คุณเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการแสดง"
เช่นเดียวกับนักมวยปล้ำอธรรมส่วนใหญ่ในวงการมวยปล้ำเวลานั้น ความแตกต่างทางเชื้อชาติถูกใช้เป็นจุดขายของ ดิโน่ บราโว่ ถูกนำเสนอในฐานะนักมวยปล้ำที่พูดภาษาอังกฤษไม่ชัด และแน่นอนที่สุดเขากลายเป็นตัวตลกในสายตาคนดู
เมื่อเวลาหมุนผ่านสู่ปี 1990 ดิโน่ ปรากฏตัวบนจอทีวีเพื่อพ่ายแพ้นัดแล้วนัดเล่า จนนักมวยปล้ำไม่เชื่อมั่นในตัว ดิโน่ บราโว่ อีกต่อไป แต่ที่ย่ำแย่ที่สุดคือ แม้แต่ ดิโน่ บราโว่ ก็เริ่มจะไม่เชื่อมั่นในตัวเองเสียแล้ว
ก้าวย่างสู่เส้นทางมาเฟีย
ปลายปี 1992 ดิโน่ บราโว่ ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ WWF และเลือกจะปิดฉากอาชีพนักมวยปล้ำของตนไว้เพียงเท่านี้ ซึ่งถ้าพิจารณากับสถานการณ์ที่เขาเผชิญอยู่ตอนนั้น การตัดสินใจของดิโน่ไม่ต่างจากพนักงานออฟฟิศในยุคปัจจุบันที่หมดไฟกับการทำงาน และขอยื่นใบลาออกไปนอนอยู่บ้านเฉย ๆ
แต่ด้วยวัฒนธรรมของชาวอิตาลี ที่หัวหน้าครอบครัวต้องดูแลและปกป้องสมาชิกทุกคนจนถึงลมหายใจสุดท้าย ดิโน่ จึงไม่สามารถนอนอยู่บ้านและเมินเฉยกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของภรรยาและลูก เขาต้องเริ่มมองหาอาชีพใหม่ที่จะนำรายได้มาจุนเจือครอบครัว
Photo : facebook.com/DinoBravoUnofficial
"เขารู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยและเป็นกังวลกับอนาคตของตัวเอง เพราะบ้านเรามีขนาดใหญ่ จึงมีค่าใช้จ่ายมากมายรออยู่เบื้องหน้า คุณอาจพูดได้ว่า เราต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด" ดิอาน่า ริเวสต์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของสามี
"ดิโน่ คือใครสักคนที่ผูกพันกับกีฬามวยปล้ำมาทั้งชีวิต และถึงวันหนึ่งมันเหมือนกับว่า ฉันจะเป็นอะไรในเช้าวันพรุ่งนี้ ? ฉันต้องทำอะไรในวันต่อไป ? ฉันจะทำอาชีพอะไรเพื่อมีชีวิตรอดต่อไป ? เขาอยู่ในสภาวะที่ต้องเอาชีวิตรอด และเขาต้องการหาเงินจำนวนมาก เพราะฉะนั้น ..."
"มาเฟีย" คือ อาชีพที่ ดิโน่ เลือกต่อจากการเป็นนักมวยปล้ำ เนื่องจากคอนเน็กชั่นที่เขามีอยู่รอบตัว บวกกับความรุ่งเรืองของวงการมาเฟียในรัฐควิเบกขณะนั้น มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ ดิโน่ จะเริ่มต้นก้าวเดินบนเส้นทางสีดำ ด้วยการเข้าไปเป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊งคอโตรนี่ (Cotroni Family) มาเฟียอิตาลีจากเกาะซิซิลี และเป็นแก๊งอาชญากรรมที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐควิเบก
แก๊งคอโตรนี่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับดิโน่ เนื่องจาก วิค คอโตรนี่ หัวหน้าตระกูลคอโตรนี่มีศักดิ์เป็นลุงของดิโน่ และตระกูลคอโตรนี่ก็ถูกนับเป็นครอบครัวเดียวกับตระกูลเบรสซิอาโน่มาเสมอ ที่สำคัญที่สุด วิค คอโตรนี่ ยังเคยเป็นนักมวยปล้ำในนาม วิค วินเซนต์ จึงไม่ต้องบอกเลยว่า เดอะ ก็อดฟาเธอร์แห่งแก๊งคอโตรนี่ จะเอ็นดู ดิโน่ บราโว่ มากแค่ไหน
Photo : ewrestlingnews
สำหรับตำแหน่งของดิโน่ในแก๊งคอโตรนี่คือ เอ็นฟอร์ซเซอร์ หรือ สมาชิกระดับล่างของแก๊งที่มีหน้าที่ในการใช้กำลังทำร้ายผู้คนเป็นหลัก โดยงานของ ดิโน่ คือการคอยไล่เช็คบิลบรรดาลูกหนี้ของแก๊งที่เบี้ยวไม่จ่ายเงินตามกำหนด มันเป็นงานที่อันตรายและสกปรก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับดิโน่ แม้เขาจะไม่มีประวัติอาชญกรรมมาก่อน แต่ถ้าคุณเป็นอดีตนักมวยปล้ำที่มีร่างกายกำยำและมีแก๊งมาเฟียหนุนหลัง ดิโน่ สามารถเป็นนักเลงที่ทุกคนหวาดกลัวได้สบาย ๆ
"เขาเริ่มจะมีเพื่อนใหม่ คนที่เราไม่รู้จักมาก่อนตลอดชีวิตที่ผ่านมา ซึ่งฉันไม่คิดว่าความรู้สึกแบบนี้เป็นเรื่องที่ดีเลย เพราะพวกเขาไม่ใช่เพื่อนที่แท้จริงของคุณ แต่เป็นแค่คนที่ถือวิสาสะมาตีสนิทเพราะอยากทำธุรกิจกับคุณ" ดิอาน่า ริเวสต์ กล่าว
"มันไม่ใช่บรรยากาศที่ดีเลย เขากำลังถลำเขาไปในโลกที่เขาไม่รู้จัก ฉันจึงเริ่มเป็นกังวลมาก ๆ เกี่ยวกับตัวเขา ชีวิตของเขา และชีวิตของเราด้วยเช่นกัน"
โลกของมาเฟียคือโลกที่อันตราย เพราะเมื่อไหร่ที่คุณไม่เดินไปตามกฎระเบียบ คุณจะเจอกับปัญหาใหญ่ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ดิโน่ บราโว่ เมื่อเขาละเมิดกฎบางอย่างที่ยากเกินจะแก้ไขความผิด และต้องจ่ายค่าเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยชีวิตของตัวเอง
วันสุดท้ายของดิโน่ บราโว่
วันที่ 10 มีนาคม ปี 1993 ดิโน่ บราโว่ ถูกพบเป็นศพอยู่ในบ้านของตัวเอง หลังจากภรรยาเดินทางกลับบ้านพร้อมกับลูกสาว เมื่อเวลา 00:30 นาฬิกา โดย บราโว่ เสียชีวิตเนื่องจากถูกยิงถึง 11 นัดทั่วร่างกาย และมี 7 นัดเป็นการยิงเข้าไปบริเวณศีรษะ อาวุธก่อเหตุทั้งปืนสั้นและปืนกลถูกพบในที่เกิดเหตุ
การเสียชีวิตของ ดิโน่ มีอะไรที่น่าสงสัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการเสียชีวิตที่เขานั่งอยู่บนโซฟาและเปิดทีวีทิ้งไว้ ราวกับรอให้ใครสักคนเดินเข้ามาปลิดชีวิต, การปราศจากร่องรอยของการบุกรุกเข้ามาของฆาตกร และไม่มีร่องรอยการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว
นี่ดูเหมือนว่าดิโน่เปิดประตูทิ้งไว้เพื่อให้ผู้ลงมือเดินเข้ามาสังหารตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นนักมวยปล้ำหลายคนที่รู้จักกับดิโน่เปิดเผยว่า ดิโน่เคยพูดเป็นนัยหรือแสดงออกให้เห็นว่า เขากำลังตกอยู่ในอันตรายและเวลาของเขากำลังจะหมดลง
Photo : facebook.com/DinoBravoUnofficial
ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นเห็นตรงกันว่า นี่คือการลงมือของ "มืออาชีพ" เนื่องจากมีกระสุนเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่พลาดเป้ายิงไปโดนกระจก เมื่อบวกรูปแบบการสังหารที่คล้ายกับการล้างแค้นของเหล่ามาเฟีย ผู้คนจึงสรุปกันได้ชัดเจนว่า ดิโน่ บราโว่ ถูกสั่งเก็บโดยผู้มีอำนาจในแก๊งอาชญากรรมของรัฐควิเบก
ถึงแม้คนทั่วไปจะสรุปไปว่า ดิโน่ ถูกมาเฟียสั่งเก็บ แต่ก็ไม่มีใครตอบได้อย่างแน่ชัดว่า เขาถูกสังหารโดยสมาชิกจากแก๊งใด ? และทำไมเขาถึงถูกสังหาร ? เวลาผ่านไปเกือบ 30 ปี คดีฆาตกรรม ดิโน่ บราโว่ ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากตำรวจไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้พบ
หลักฐานเดียวที่พอจะวาดสาเหตุการสังหาร ดิโน่ ให้เป็นรูปร่าง คือ จำนวนเงิน 55,000 ดอลลาร์สหรัฐ และบุหรี่ผิดกฎหมายจำนวนหนึ่งที่ถูกค้นพบในบ้านของเขา ซึ่งในขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า บุหรี่ผิดกฎหมายจำนวนหนึ่งที่แก๊งมาเฟียลักลอบขนข้ามแดน ได้หายไปเป็นมูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสื่อถึงการยักยอกสินค้าของดิโน่
มีการขุดค้นในภายหลังและพบว่า ดิโน่ เข้าไปมีส่วนร่วมกับธุรกิจค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยเขามีหน้าที่เป็นนายหน้าเข้าไปรับของจากชาวพื้นเมืองที่ลักลอบขนบุหรี่เข้าสู่ประเทศ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเฟื่องฟูเป็นอย่างมากในแคนาดา เนื่องจากราคาถูกกว่าบุหรี่ถูกกฎหมายถึงเท่าตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขาจะกระโดดลงสู่ธุรกิจนี้และหวังกอบโกยเม็ดเงินมหาศาลเข้ากระเป๋า
ดิโน่ ยังใช้ข้อได้เปรียบของตัวเองที่เป็นอดีตนักมวยปล้ำชื่อดัง ผูกมิตรกับชาวพื้นเมืองจนกลายเป็นายหน้าผู้ร้อนแรงในวงการค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย ด้วยเหตุนี้เองบรรดามาเฟียใหญ่จึงต้องการทำธุรกิจกับเขา แต่แล้วการขนย้ายบุหรี่ครั้งหนึ่งเกิดผิดพลาด ตำรวจพบของกลางมูลค่า 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ และจับกุมผู้กระทำผิดได้สำเร็จ
เมื่องานผิดพลาดย่อมต้องมีใครสักคนต้องถูกลงโทษ และใครคนนั้นคือ ดิโน่ บราโว่ ไม่ว่าเขาจะถูกสังหารเพราะถูกจับได้เรื่องแอบขโมยบุหรี่จำนวนหนึ่งมาขายเอง หรือเพราะทำงานผิดพลาดจนมาเฟียสูญเงินมหาศาล แต่ที่แน่ชัดคือ เขาถูกสั่งเก็บโดยแก๊งอาชญากรรม ซึ่งเจ้าตัวเองยอมรับความตายนั้นแต่โดยดี
Photo : facebook.com/DinoBravoUnofficial
เรื่องราวของ ดิโน่ บราโว่ จึงถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมปริศนาที่เกิดขึ้นในวงการมวยปล้ำ ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นเช่นไร สิ่งหนึ่งที่เป็นบทเรียนจากเรื่องราวนี้ได้คือ โลกของธุรกิจผิดกฎหมายเป็นเส้นทางที่อันตราย หลายคนอาจได้สัมผัสเม็ดเงินมหาศาลเป็นของรางวัล แต่ในไม่ช้าความโหดร้ายของวงการนี้จะไล่ล่าทุกคนจนทัน
แม้ ดิโน่ จะไม่ใช่คนที่เลวร้าย และมีความรักต่อกีฬามวยปล้ำอย่างหาอะไรมาเปรียบไม่ได้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่บังคับและความรู้สึกที่กำลังหลงทาง คนดี ก็สามารถกลายเป็นผู้กระทำผิดและเหยื่อของความเลวร้ายในสังคมได้ทุกเมื่อ นี่คือเรื่องราวของ ดิโน่ บราโว่ ที่สะท้อนชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งที่มีทั้งด้านดีและร้ายในหลายแง่มุมที่สุด