"นพนนท์" ถึง "ฟาอิก" : "เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชาย"
เขาถูกจับตามองในฐานะ นักเตะร่ำรวยที่สุดของโลกด้วยเช่นกัน (จากการจัดอันดับของ Marca เมื่อปี 2018) เนื่องจากมีฐานะบุตรของเจ้าชายเจฟรี โบลเกียห์ พระอนุชาองค์เล็กของสุลต่านฮัสนัล โบลเกียห์ กษัตริย์ราชวงศ์บรูไน ที่มีทรัพย์สินราว 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6 แสนล้านบาท)
คุณลุงของเขามีของสะสมส่วนตัวอีกหลายอย่าง ซึ่งมีมูลค่านับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรถหรูกว่า 2,300 คัน จากแบรนด์ดังทั้ง เบนท์ลีย์, โรลส์-รอยซ์, เฟอร์รารี, เมอร์เซเดส รวมถึงยังเป็นเจ้าของเรือยอชต์, นาฬิกา, ปากาทองคำขาวหายาก รวมถึงอสังหาริมทรัพย์อีกมากมายในการครอบครอง แต่ผิดกับ "ฟาอิก เจฟรี โบลเกียห์"
หลังจากเขาได้ออกรายการ สุขศศิศ ประเด็นที่เขาบอกว่า ให้มองเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีสิ่งที่พิเศษหรืออยู่ในฐานะหลานชายกษัตริย์บรูไน เพราะเขามาเล่นฟุตบอลกับ ชลบุรี เอฟซี เท่านั้น โดยคนที่ขี้เล่นกับเขาตั้งแต่วันแรก ก็คือ "กัปตันก้อง"เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ นพนนท์ คชพลายุกต์ ซึ่งสปีคอิงลิชคอยช่วยเหลือเขานั้น
"อ๊อฟ สุดเกียร์" แบ็คขวาของ "ฉลามชล" เปิดใจถึงเพื่อนซี้ต่างแดน ที่หลายคนเรียกเขาว่า "เจ้าชายฟาอิก" ในหลายด้าน "จริงๆแล้ว เขาเป็นนักฟุตบอลที่มีความอัธยาศัยดีคนหนึ่งเลยครับ และเขาก็อยากให้พวกเรามองว่าเขาเป็นนักเตะอาชีพเท่านั้นครับ ซึ่งเขาชอบทักทายทุกคนครับ แต่เขาเองก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนที่น่ารักคนหนึ่งครับ"
"นอกจากนี้เขาอยากให้พวกเราเป็นกันเองครับ เขามองว่าเขามาทำหน้าที่ในฐานะการเป็นนักเตะอาชีพ ช่วงแรกน้องๆก็แซวว่าเขาเป็นเจ้าชายบ้างครับ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีครับ และผมขอยืนยันเลยว่าเขาอยู่แบบสมรรถะ ไม่พูดเรื่องส่วนตัวเลย หรือโอ้อวดสมบัติของเขา อย่างที่บอก น้องๆอาจจะแซวเรื่องเจ้าชายบ้าง แต่เขาก็อมยิ้มนะครับ แม้เขาจะเป็นคนยิ้มยากก็ตาม"
เห็นแบบนี้แล้ว มิน่าทำไมแฟนบอลของ "ฉลามชล" ถึงส่งเสียงเชียร์ "ฟาอิก เจฟรี่ โบลเกียห์" ทุกครั้งที่สัมผัสบอล แล้วพาบอลไปด้วยตัวเอง ยิ่งมารู้ว่าเขาอยากจะเป็น "สามัญชนคนธรรมดา" ทำให้รู้เลยว่า ... สโมสรตัดสินใจถูกที่ได้เขามาร่วมทีม