ตัวเลขไม่โกหก! เปิดสถิติฤดูกาลนี้ของ "หลุยส์ ดิอาซ" ที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องกระชากมาเสริมทัพ

ลิเวอร์พูล กำลังจะมีบิ๊กดีลประจำหน้าหนาวอีกครั้ง หลังมีรายงานว่า หลุยส์ ดิอาซ ปีกของ ปอร์โต้ กำลังจะย้ายเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้เกมรุกอันจัดจ้านของ เยอร์เกน คล็อปป์

ไม่เพียงแต่ที่เขากำลังจะได้โยกมาค้าแข้งในแอนฟิลด์เท่านั้น แต่อันที่จริงเขาได้รับข้อเสนอจาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ มาก่อนด้วย และมันแสดงให้เห็นว่าแข้งวัย 25 ปี ได้รับความสนใจจากกุนซือระดับท็อปถึงสองคนเป็นอย่างน้อย

แต่อะไรกันที่ทำให้ ดิอาซ เนื้อหอมขนาดนั้น? เรามาดูตัวเลขเบื้องหลังผลงานของเขาในฤดูกาลนี้กัน

– ดิอาซ ทำไปแล้ว 14 ประตู และ 5 แอสซิสต์ในลีกโปรตุเกส ฤดูกาลนี้ โดยมีผู้เล่นเพียง 9 คนในลีกใหญ่ของยุโรปเท่านั้นที่ทำได้มากกว่าเขา และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นผู้เล่นจากพรีเมียร์ลีกเพียงคนเดียวที่ยิงและแอสซิสต์มากกว่า ดิอาซ (25)

– 14 ประตูในลีก ทำให้เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับสองในลีกโปรตุเกส ทั้งๆที่ประจำการในตำแหน่งตัวริมเส้น มีเพียง ดาร์วิน นูเนซ ของ เบนฟิก้า ซึ่งเป็นกองหน้าที่ทำประตูได้มากกว่าและมากกว่า ดิอาซ เพียงประตูเดียวอีกด้วย ซึ่งหากไม่นับลูกโทษ ดิอาซ จะเป็นดาวซัลโวของลีกทันที จากการที่ทั้ง 14 ประตูของเขาไม่ได้มาจากลูกโทษเลยแม้แต่ประตูเดียว
– การเลี้ยงลูกเป็นส่วนสำคัญในเกมของ ดิอาซ และเขามีอัตราการเลี้ยงบอลสำเร็จถึง 2.91 ครั้งต่อ 90 นาที

– ดิอาซ โหม่งพังประตูไป 3 ลูกในฤดูกาลนี้ และเอาชนะการดวลกลางอากาศโดยเฉลี่ย 1.01 ครั้งต่อแมตช์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งของเขา

– ปีกชาวโคลอมเบียมีค่าเฉลี่ยในการมีส่วนร่วมกับ 1.08 ประตูต่อ 90 นาที ซึ่งหมายความว่านั่นสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 0.88 ประตูของ บรูโน แฟร์นันเดส ในฤดูกาล 2019/20 ก่อนที่เขาจะย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียอีก หนำซ้ำมันยังมากกว่า 0.47 ของ ซาดิโอ มาเน และ 0.64 ของ ดิโอโก โชต้า ด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังน้อยกว่า 1.26 ที่น่าเหลือเชื่อของ ซาลาห์

– นอกจากประตูในลีกของเขาแล้ว ดิอาซ ยังยิงได้สองประตูในยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ จากการพบกับ เอซี มิลาน เกมละลูก ดังนั้น โดยรวมแล้วเขาจึงทำประตูได้ 16 ลูก จาก 28 แมตช์ในทุกรายการ

– สถิติของเขาใน โคปา อเมริกา ปีที่แล้วก็น่าประทับใจเช่นกัน เขาช่วย โคลอมเบีย จบที่ 3 โดยลงเอยด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี ด้วยจำนวน 4 ประตู แต่มีค่าเฉลี่ยนาทีต่อประตูที่ดีกว่า (92 นาทีต่อลูก) และเลี้ยงบอลสำเร็จสูงสุดเป็นอันดับ 2 ต่อนัด ที่ 5.2 ครั้ง