ต้องยอมจำนน "โจ ณัฐวุฒิ" รับ "ชิงกิซ" แรงจริง พร้อมเชียร์ "สิทธิชัย" เข้าวิน

ต้องยอมจำนน "โจ ณัฐวุฒิ" รับ "ชิงกิซ" แรงจริง พร้อมเชียร์ "สิทธิชัย" เข้าวิน

ต้องยอมจำนน "โจ ณัฐวุฒิ" รับ "ชิงกิซ" แรงจริง พร้อมเชียร์ "สิทธิชัย" เข้าวิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“โจ ณัฐวุฒิ" นักชกพูดน้อยต่อยหนักจากเมืองย่าโม หลังโดนคู่แข่งชาวเบลารุส  “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” สอยร่วงตั้งแต่ยกแรกในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึก ONE: ONLY THE BRAVE เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด นักชกชาวไทย ก็ออกมายอมรับแบบลูกผู้ชายว่าคู่แข่งเหนือกว่าตนในทุกด้าน ถึงจะแพ้แต่ไม่เสียใจ เตรียมกลับไปพักผ่อนก่อนมาสู้ต่อ พร้อมเชียร์ "สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง" ให้คว้าแชมป์กลับประเทศ

jo-nattawut-chingiz-allazov-o_1
แม้จะโชคดีถูกส้มหล่นใส่ได้เป็นตัวจริง ในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ แต่ โจ กลับไม่ได้ไปต่อเพราะต้องเจอกับคู่แข่งที่ถือว่าเป็นงานหินอย่าง ชิงกิซ โดยเจ้าตัวเผยว่าตนเสียเปรียบทั้งเรื่องน้ำหนักและแรงปะทะ อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนศีรษะโดนกระแทกอย่างแรงจากลูกเตะสูงจากฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวจนไปต่อไม่ไหว

แม้ใจจริงตนจะรู้สึกเสียดายบ้างที่พลาดโอกาสที่ตกมาใส่มือ แต่เขาก็ยังรู้สึกพอใจในผลงานของตัวเองเพราะได้สู้อย่างเต็มร้อยเหมือนทุกไฟต์ที่ผ่านมา

“ผมต้องยอมรับว่า ชิงกิซ เขาเก่งกว่าในทุกด้านเลยครับ หนึ่งคือ เขาเชี่ยวชาญในกติกาคิกบ็อกซิ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่างจากผมที่มาจากสายมวยไทย เขามีสปีดหมัดเร็วกว่าและก็ยังได้เปรียบเรื่องรูปร่าง น้ำหนัก ความรุนแรงและความหนักหน่วงครับ”

jo-nattawut-chingiz-allazov-o
“สำหรับไฟต์นี้ ใจจริงก็รู้สึกเสียดายนะครับ แต่ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร เพราะผมคิดว่าคนที่เก่งกว่าก็ต้องชนะไปเป็นธรรมดาอยู่แล้ว สำหรับผม ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ผมถือว่าทำเต็มร้อยแล้ว งานเราจบแล้วครับ"

นอกจากนี้ โจ ยังแสดงความยินดีกับนักชกเพื่อนร่วมชาติ สิทธิชัย ที่ลอยลำเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเรียบร้อย โดยจะเข้าไปเผชิญหน้ากับ
ชิงกิซ ที่เพิ่งเอาชนะเขาไปนั่นเอง ซึ่ง โจ ก็เชียร์ สิทธิชัย เต็มที่โดยมองว่าแม้ ชิงกิซ จะแข็งแกร่งและรวดเร็วแค่ไหน ตัวท็อปคิกบ็อกซิ่งอย่าง สิทธิชัย  เอาอยู่แน่นอน

โดยจากนี้ โจ ขอเวลาไปพักผ่อนและใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในเมืองไทยก่อนเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่นั่น โจ มีโครงการจะขยายกิจการยิมของตัวเองควบคู่ไปกับการทำงานเป็นเทรนเนอร์สอนมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook