เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ : ดาวเตะญี่ปุ่นลูกศิษย์อิเนียสต้า ผู้เป็นขวัญใจชาวสกอตแลนด์

เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ : ดาวเตะญี่ปุ่นลูกศิษย์อิเนียสต้า ผู้เป็นขวัญใจชาวสกอตแลนด์

เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ : ดาวเตะญี่ปุ่นลูกศิษย์อิเนียสต้า ผู้เป็นขวัญใจชาวสกอตแลนด์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากกล่าวถึงนักเตะชาวญี่ปุ่นที่มาแรงที่สุดในยุโรป วินาทีนี้คงไม่มีใครเกิน เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ ดาวยิงวัย 27 ปี ของ กลาสโกว์ เซลติก ที่เพิ่งเป็นฮีโร่พาทีมความแชมป์ลีกคัพเมื่อปลายปีที่แล้ว

ทั้งที่ย้ายมาเล่นในสกอตแลนด์ได้ไม่ถึงหนึ่งฤดูกาล กองหน้ารายนี้ได้กลายเป็นที่รักของแฟนบอลท้องถิ่นจากความทุ่มเทในสนามของเขา รวมถึงทัศนคติอันยอดเยี่ยมนอกสนาม จนสำนักข่าว BBC ยังกล่าวว่า เขากลายเป็นตำนานของเซลติกไปเป็นที่เรียบร้อย

นี่คือเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของนักเตะคนหนึ่งที่ไม่เคยอยู่ในอคาเดมีสโมสรอาชีพ และเคยเกือบถอดใจเลิกเตะฟุตบอลเพราะเครียดจนอาเจียนเกือบทุกวัน จนถึงวินาทีที่เขาเรียนรู้ศาสตร์ฟุตบอลกับ อันเดรส อิเนียสต้า และนำความรู้เหล่านี้มาโลดแล่นบนแผ่นดินยุโรปอยู่ในปัจจุบัน

 

ติดตามเรื่องราวของเขาไปพร้อมกับ Main Stand

เกือบเลิกตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม

ทุกวันนี้ เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ ถือเป็นนักเตะชาวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดในสกอตแลนด์ และอาจเป็นแข้งเอเชียที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในยุโรป แต่กว่าเขาจะก้าวมาถึงวันนี้ ฟุรุฮาชิ เกือบถอดใจและหันหลังให้กับวงการฟุตบอลอาชีพ ตั้งแต่ยังไม่ทันจะได้เซ็นสัญญาฉบับแรกของตัวเองด้วยซ้ำ

เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ เริ่มต้นเส้นทางนักกีฬาของตนเองในฐานะนักฟุตบอลประจำโรงเรียนมัธยมโคโกคุ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ก่อนเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยชูโอะ สถานศึกษาเอกชนในกรุงโตเกียว ซึ่งตั้งแต่ปีแรกที่ฟุรุฮาชิเข้าสู่ทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัย ฝีเท้าของเขาโดดเด่นมากจนถูกเลือกไปติดทีม All Japan University หรือทีมออลสตาร์ของผู้เล่นในระดับมหาวิทยาลัย

 

"นักเตะที่เลี้ยงบอลด้วยความเร็วสูงได้ดี และมีเทคนิคอันยอดเยี่ยม" นี่คือคำอธิบายถึงความสามารถของฟุรุฮาชิในเวลานั้น เขาจึงถือเป็นดาวเด่นของวงการฟุตบอลสมัครเล่นในญี่ปุ่นตลอดช่วงชีวิตวัยมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเมื่อฟุรุฮาชิมีอายุได้ 21 ปี ขณะนั้นเขากำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 ซึ่งเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างชีวิตการเรียนกับชีวิตการทำงาน นี่จึงเป็นเวลาที่เขาต้องเลือกว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้กับเส้นทางสายฟุตบอล

ฟุรุฮาชิเลือกคำตอบที่ใจใฝ่ฝัน นั่นคือ ... ไปต่อ และเนื่องจากไม่ได้ผ่านการฝึกฝนจากอคาเดมีของสโมสรอาชีพเหมือนนักเตะรายอื่น เขาจึงตระเวนไปคัดตัวกับทีมต่าง ๆ ในระดับล่างของเจลีก และ เจทู แต่ผลปรากฏว่าไม่มีทีมใดที่สนใจหรือมองเห็นพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวของฟุรุฮาชิเลย เขาท้อแท้ใจมากและบอกกับตัวเองว่าเส้นทางการค้าแข้งของตนคงจบลงเพียงเท่านี้

"ตอนผมเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4  ของมหาวิทยาลัย ผมไปคัดตัวกับหลายทีมมาก ทั้ง โชนัน เบลล์มาเร่, มัตสึโมโตะ ยามางะ, มอนเตดิโอ ยามางาตะ, มิโตะ ฮอลลี่ฮ็อค และอีกหลายสโมสร แต่เนื่องจากแผนการทำทีมของพวกเขา มันจึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะเลือกนักเตะอย่างผมเข้าไป"

"ผมเครียดมากในตอนนั้น ทุกครั้งที่ผมกลับมาที่โรงแรมหลังจากฝึกซ้อมเสร็จ ผมจะอ้วกโดยไม่มีเหตุผลอยู่เสมอ (ยิ้มเจื่อน)" 

"เพราะอย่างนั้นผมจึงคิดกับตัวเองว่า เราควรล้มเลิกความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้แล้ว หลังจากนั้นผมก็บอกพ่อแม่ของผม พวกเขาก็โอเคนะถ้าผมจะเลิก แต่พวกเขาก็แอบบอกว่า ความพยายามทุกอย่างที่ผมทำมาจนถึงวันนี้จะสูญเปล่า"

 

"ผมจึงตัดสินใจทุ่มเททุกอย่างที่ผมทำได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในท้ายที่สุด ผมมองว่าถ้าเรายังคงเดินทางไปฝึกซ้อมและคัดตัวกับสโมสรอาชีพต่อไปเรื่อย ๆ สักวันหนึ่งโอกาสของเราจะมาถึง"

ในวินาทีสุดท้ายของการเซ็นสัญญาเพื่อลงสู้ศึกฤดูกาล 2017 ฟุรุฮาชิ ได้รับข้อเสนอจาก เอฟซี กิฟู ทีมระดับกลางค่อนไปทางล่างของเจทู ลีกฟุตบอลระดับรองของประเทศญี่ปุ่น เขาตอบรับข้อเสนอนี้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อพาต้นสังกัดที่กล้าให้โอกาสนักเตะสมัครเล่นอย่างเขาจบอันดับเลขตัวเดียวในเจทูเป็นครั้งแรกให้ได้

"ผมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้สมกับที่ทุกคนคาดหวัง มาสู้ไปด้วยกันครับ" ฟุรุฮาชิ ประกาศต่อผู้สื่อข่าวหลังเซ็นสัญญากับเอฟซี กิฟู

กระทบไหล่บีย่า เรียนรู้จากอิเนียสต้า 

แม้ ฟุรุฮาชิ จะไม่สามารถทำเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนเปิดฤดูกาลได้สำเร็จ เนื่องจาก เอฟซี กิฟู จบด้วยอันดับที่ 18 ของเจทู ฤดูกาล 2017 แต่ผลงานส่วนตัวของเขาก็ถือว่าน่าประทับใจ เพราะถึงแม้จะเป็นนักเตะหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในลีกอาชีพมาก่อน ฟุรุฮาชิได้รับความไว้วางใจจาก ทาเคชิ โอกิ ผู้จัดการทีมรุ่นเก๋าที่เพิ่งเข้ามาคุมทีมในปี 2017 และถูกส่งลงเป็นศูนย์หน้าตัวจริงตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาล

ผลงานตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ฟุรุฮาชิ ทำงานหนักแค่ไหนเพื่อจะเอาชนะใจเฮดโค้ชในสนามฝึกซ้อม ซึ่งท้ายที่สุดเขาก็ทำมันได้สำเร็จ เพราะฟุรุฮาชิสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงครบถ้วน 42 นัดในฤดูกาลดังกล่าว และถึงแม้เขาจะยิงประตูได้เพียง 6 ลูก แต่ความมุ่งมั่นตั้งใจทำให้ฟุรุฮาชิยังคงถูกเลือกเป็นศูนย์หน้าตัวหลักของทีมในปีถัดมา

ฤดูกาล 2018 จึงถือเป็นปีที่ ฟุรุฮาชิ ฉายแสงความเป็นซูเปอร์สตาร์ออกมาอย่างแท้จริง ด้วยสภาพทีมที่ไม่ได้ดีขึ้นกว่าปีก่อน เขาสามารถถล่มประตูไปได้ถึง 11 ลูก จากการลงเล่นในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมที่เขาฟอร์มร้อนแรงสุด ๆ จัดการซัดไป 5 ประตู ส่งผลให้ ฟุรุฮาชิ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนไปครอบครอง

ผลงานที่โดดเด่นขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเวทีเจทูจะเล็กเกินไปสำหรับ ฟุรุฮาชิ เสียแล้ว และเป็นสโมสรชื่อดังในเจลีกอย่าง วิสเซล โกเบ ที่มองเห็นศักยภาพในตัวดาวยิงความเร็วสูงรายนี้ จึงตัดสินใจจ่ายเงินราว 20 ล้านเยน หรือประมาณ 5.5 ล้านบาท เพื่อคว้านักเตะรายนี้มาเป็นอะไหล่ในเจลีก ฤดูกาล 2018

 

"ผมต้องการใช้ความเร็วและทักษะการเลี้ยงบอลของผมเพื่อช่วยเหลือทีม ผมจะทุ่มเต็มที่ตลอด 90 นาที ผมจะวิ่งอย่างสุดกำลัง เพราะฉะนั้นโปรดสนับสนุนผมด้วยนะครับ" ฟุรุฮิชิ กล่าวในบทความแนะนำตัวกับวิสเซล โกเบ

ฟุรุฮาชิ ได้รับโอกาสลงสนามให้กับต้นสังกัดใหม่ด้วยฐานะตัวจริงเป็นครั้งแรกในเกมที่ วิสเซล โกเบ เปิดบ้านพบ จูบิโล อิวาตะ แต่แมตช์ดังกล่าวสปอตไลท์ไม่ได้ไปจับที่นักเตะหน้าใหม่ที่เพิ่งเลื่อนขั้นขึ้นมาจากเจทู เพราะนี่คือเกมแรกที่ อันเดรส อิเนียสต้า ตำนานนักฟุตบอลชาวสเปน สามารถทำประตูได้ในศึกเจลีกนับตั้งแต่เขาหมดสัญญากับ บาร์เซโลน่า และย้ายเข้าสู่ วิสเซล โกเบ

แต่ อิเนียสต้า ไม่ใช่นักเตะของโกเบเพียงคนเดียวที่ยิงประตูได้ในเกมนี้ เพราะหลังจากสัมผัสเกมเจลีกเพียง 15 นาที ฟุรุฮาชิ ก็สามารถยิงประตูแรกของตัวเองบนลีกสูงสุดได้สำเร็จ และรางวัลของความสำเร็จนี้คืออ้อมกอดจากตำนานโลกลูกหนังอย่าง อิเนียสต้า นี่คือวินาทีที่ฟุรุฮาชิได้การยอมรับจากแข้งระดับโลก ทั้งที่หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้นเขายังเป็นนักเตะลีกรองของญี่ปุ่นอยู่เลย

 

"ในช่วงฝึกซ้อม อิเนียสต้า เดินมาพูดกับผมว่า 'มันเป็นเรื่องดีหากนายจะแสดงจุดเด่นของตัวเองออกมาให้มากกว่านี้' ซึ่งจุดเด่นของผมคือการวิ่งไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นผมจึงคิดว่าคงเป็นเรื่องดีมาก หากผมทำตามคำแนะนำของเขาได้" ฟุรุฮาชิ กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเขากับอิเนียสต้า

"อิเนียสต้าจึงถือเป็นอาจารย์ พี่ชาย และสมาชิกในครอบครัวของผม ผมเคารพเขามาก เพราะเราผ่านอะไรร่วมกันมามากมายในโกเบ และถึงแม้เขาจะเป็นคนเงียบ ๆ แต่ผมเรียนรู้อะไรได้มากมายจากเขา ผมรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่พิเศษกับเขา และมีความสุขมากที่ได้โอกาสเล่นฟุตบอลร่วมกับอิเนียสต้า"

ความสัมพันธ์ที่แน่บแน่นของ ฟุรุฮาชิ กับ อิเนียสต้า ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อดีตกองหน้าเจทูก้าวสู่ลีกยุโรปอย่างในปัจจุบัน เขาตั้งเป้าหมายกับตัวเองไว้ว่า สักวันจะต้องไปเล่นฟุตบอลในจังหวะเดียวกันกับอิเนียสต้า และสามารถเป็นเป้าหมายหลักที่กองกลางชาวสเปนจะจ่ายบอลให้ ฟุรุฮาชิจึงพยายามฝึกฝนการเคลื่อนที่ให้พร้อมรับบอลของอิเนียสต้าเสมอ และเขายังตั้งมั่นที่จะยิงประตูที่อิเนียสเป็นคนแอสซิสต์บอลให้ได้อีกด้วย

อิเนียสต้า ไม่ใช่ตำนานนักฟุตบอลเพียงคนเดียวที่ฟุรุฮาชิมีความสัมพันธ์อันยอดเยี่ยม แต่ยังรวมไปถึง ดาบิด บีย่า กองหน้าระดับตำนานชาวสเปนที่ย้ายมาอยู่ วิสเซล โกเบ ในฤดูกาล 2019 ซึ่งการเข้ามาของอดีตดาวยิงบาร์เซโลน่า ทำให้ ฟุรุฮาชิ ต้องกลับไปนั่งบนม้านั่งสำรองในช่วงต้นฤดูกาล แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อเล่นร่วมกับแข้งระดับโลกให้ได้ ฟุรุฮาชิ ก็ได้ก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงของทีมอีกครั้ง

"ผมมีโอกาสได้ดูการเล่นระดับโลกของดาบิดอย่างใกล้ชิด ซึ่งผมคิดถึงเรื่องการทดแทนช่องว่างของเขาด้วยตัวผมเอง มันมีประโยชน์นับไม่ถ้วนที่เราสามารถนำมาใช้ได้จากการดูการเล่นของเขา และผมคิดว่าถ้าผมลงเล่นโดยมีแนวคิดนี้อยู่ในใจ มันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะลงไปทำประตู" ฟุรุฮาชิ กล่าวชื่นชม ดาบิด บีย่า ที่เขายกย่องให้เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาเติบโตขึ้น

ฟุรุฮาชิ จึงถือเป็นผู้เล่นตัวรุกชาวญี่ปุ่นเพียงคนเดียวที่มีส่วนร่วมกับสามประสาน VIP ของวิสเซล โกเบ (ประกอบด้วย บีย่า, อิเนียสต้า และ โพโดลสกี) ซึ่งจากฝีเท้าที่เทียบเท่านักเตะระดับโลกเหล่านี้ ส่งผลให้เขาได้รับความสนใจจากทีมดังจากเนเธอร์แลนด์ อย่าง อาแซด อัลค์มาร์ ที่สนใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีม แต่ ฟุรุฮาชิ กลับปฏิเสธข้อเสนอของสโมสรจากยุโรปอย่างเหลือเชื่อ เพราะต้องการอยู่ช่วยเหลือต้นสังกัดต่อไป

เมื่อจบฤดูกาล 2019 ฟุรุฮาชิ จัดการยิงไป 12 ประตู จากการลงสนามให้วิสเซล โกเบ 36 นัด และพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ Emperor's Cup หรือ เอฟเอ คัพ ของญี่ปุ่นในซีซั่นดังกล่าวมาครอง ตามด้วยแชมป์ซูเปอร์ คัพ ในฤดูกาลถัดมา ซึ่งในปี 2020 เขายังระเบิดฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการยิง 17 ประตู จากการลงเล่น 40 นัด

ผลงานของฟุรุฮาชิมีแต่จะดีวันดีคืน ก่อนจะมาถึงจุดพีคในฤดูกาล 2021 เมื่อเขาลงเล่นในเจลีก 21 นัด และสามารถยิงได้ถึง 15 ประตู เรียกว่าใช้เวลาเพียงครึ่งฤดูกาลก็สามารถทำประตูได้มากกว่าเจลีกทุกซีซั่นก่อนหน้านี้ ถึงจุดนี้คงชัดเจนแล้วว่า ฟุรุฮาชิ คือนักเตะสัญชาติญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในเจลีก และเป็นตัวเต็งคว้าตำแหน่ง MVP ของเจลีกฤดูกาลดังกล่าว

น่าเสียดายที่ความสามารถของ ฟุรุฮาชิ ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะตัดสินด้วยรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกชั้นนำในเอเชีย เมื่อประตูของสโมสรฟุตบอลชั้นนำในยุโรปรออยู่เบื้องหน้า นี่จึงเป็นเวลาอันสมควรที่เขาจะก้าวไปหามันเสียที 

นักเตะผู้เป็นที่รักของชาวสกอตแลนด์

วันที่ 16 กรกฎาคม ปี 2021 เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ ก็ตัดสินใจโบกมือลาบ้านเกิด เพื่อย้ายไปเป็นส่วนหนึ่งของ กลาสโกว์ เซลติก ทีมฟุตบอลแถวหน้าของสกอตแลนด์ ด้วยค่าตัวราว 4.6 ล้านปอนด์ พร้อมกับเซ็นสัญญายาว 4 ปีเต็ม โดยเหตุผลที่เขาได้สัญญายาวขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะผู้จัดการทีมของเซลติก แองเจลอส พอสเตคูกลู เคยคุมทีม โยโกฮามา เอฟ มารินอส และรู้พิษสงของฟุรุฮาชิเป็นอย่างดี

"นี่เป็นการเซ็นสัญญาที่น่าตื่นเต้นของเซลติก หนึ่งในนักเตะชาวญี่ปุ่นที่ดีที่สุดจากเจลีก เขาเล่นบอลได้อย่างน่าตื่นตา, ยิงประตูคมกริบ และแน่นอนว่าเจ้าตัวน่าจะเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากอิเนียสต้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้"

ข้อความจาก แดน ออร์โลวิตซ์ นักข่าวต่างชาติที่คลุกคลีอยู่กับวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากความจริงที่ฟุรุฮาชิ แสดงถึงความสามารถของเขาในสนามฟุตบอล เพราะหลังจากเบิกสกอร์แรกในสีเสื้อเซลติกจากฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบคัดเลือก เขาก็เดินทางกลับมาซัดแฮตทริกในเกมที่พบกับ ดันดี ยูไนเต็ด ทั้งที่เพิ่งลงสนามในฐานะตัวจริงในสกอตติช พรีเมียร์ชิพ เป็นเกมแรก

ผลงานของ ฟุรุฮาชิ สร้างกระแสในวงการฟุตบอลสกอตแลนด์เป็นอย่างมาก เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับตำนานชาวญี่ปุ่นรุ่นพี่อย่าง ชุนสึเกะ นากามูระ สุดยอดกองกลางจอมปั่นฟรีคิกที่เคยค้าแข้งกับเซลติกในช่วงปี 2005-09 

ถ้าเป็นนักเตะรายอื่นที่ใจไม่นิ่งพอ เขาคงกดดันและฟอร์มหลุดไปแบบที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ ฟุรุฮาชิ ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะก่อนจะมาผจญภัยในสกอตแลนด์ เขาได้รับคำแนะนำจากนากามูระโดยตรง

"ผมบอกกับเคียวโงะว่า ทุกโอกาสที่เขาทำได้ แฟนบอลสกอตแลนด์จะเปรียบเทียบนายกับฉัน ผมจึงบอกเขาไปว่า ไม่ต้องไปสนใจเรื่องพวกนั้น แค่มีความสุขให้เต็มที่กับเซลติกก็พอ" นากามูระ ให้สัมภาษณ์กับ Scottish Sun ถึงบทเรียนที่เขาสอนแข้งรุ่นน้อง


ฟุรุฮาชิ ยังได้รับคำแนะนำจากอิเนียสต้า ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์ลงเล่นในเซลติก พาร์ก ขณะรับใช้บาร์เซโลน่าในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดยกองกลางชาวสเปนยืนยันว่า แฟนบอลของเซลติกเปี่ยมไปด้วยพลัง และพร้อมจะสนับสนุนนักเตะทุกคนของพวกเขาที่กำลังโลดแล่นอยู่ในสนาม

ดาวยิงชาวญี่ปุ่นตื่นเต้นมากที่จะได้สัมผัสแรงสนับสนุนนั้นด้วยตัวเอง และทันทีที่เขาระเบิดฟอร์มในสีเสื้อเซลติก เขาก็กลายเป็นที่รักของแฟนบอลชาวสกอตแลนด์ ซึ่งนั่นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ ฟุรุฮาชิ ยังคงทำผลงานที่ดีออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องปรับตัวกับฟุตบอลสไตล์เข้าหนักแบบชาวสก็อตต์ ซึ่งนั่นทำให้เขามีปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยกว่าตอนเล่นที่ญี่ปุ่นพอสมควร

ไม่ใช่แค่ผลงานในสนามที่ทำให้เขาเป็นที่รักจากแฟนบอลชาวสกอตแลนด์ แต่รวมถึงความรับผิดชอบตามสไตล์ชาวญี่ปุ่นที่สร้างความประหลาดใจให้คนยุโรปได้เสมอ โดยเมื่อครั้งที่ ฟุรุฮาชิ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม เขาได้เดินเก็บเศษขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อยข้างสนามอย่างจริงจัง จนแฟนบอลประทับใจถ่ายคลิปลงทวิตเตอร์และมีผู้รับชมไปแล้วกว่า 7 แสนครั้ง

ฟุรุฮาชิ ประกาศความยอดเยี่ยมส่งท้ายปี 2021 ด้วยการซัดสองประตูรวดให้เซลติกพลิกแซง ฮิเบอร์เนียน ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศสกอตติช ลีกคัพ เขาจึงไม่เพียงคว้าแชมป์ร่วมกับทีมตั้งแต่ฤดูกาลแรกแต่ยังเป็นฮีโร่ของทีมอีกด้วย หลังจบเกม BBC สำนักข่าวชื่อดังของสหราชอาณาจักร จึงยืนยันว่า ฟุรุฮาชิ กลายเป็นตำนานของเซลติกไปแล้ว ทั้งที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมเพียงครึ่งฤดูกาลเท่านั้น

นี่คือเรื่องราวทั้งหมดของนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ไม่เคยผ่านอคาเดมีฟุตบอลอาชีพ และเกือบจะถอดใจเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้วด้วยซ้ำ แต่จากความพยายามและความทุ่มเทอย่างเต็มที่ เขาจึงก้าวจากนักเตะของทีมระดับล่างในลีกรองของญี่ปุ่นขึ้นมาเคียงข้างนักเตะระดับโลกหลายคน และตอนนี้เขาก็กลายเป็นนักเตะอันเป็นที่รักของชาวสกอตแลนด์ไปแล้ว

เคียวโงะ ฟุรุฮาชิ คือแรงบันดาลใจของนักเตะชาวเอเชียทุกคนที่มีความฝันอยากประสบความสำเร็จในโลกฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้าวไปเล่นในยุโรป เรื่องราวของเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า แค่พรสวรรค์ไม่เพียงพอที่จะพาเขามาถึงจุดนี้ แต่ความขยัน, ความใฝ่รู้, ทัศนคติที่ดีทั้งในและนอกสนาม รวมถึงความมุ่งมั่นในการลงเล่นเพื่อต้นสังกัดมากกว่าตัวเองคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ ฟุรุฮาชิ ประสบความสำเร็จอย่างในทุกวันนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook