ดอนเต สตอลเวิร์ธ : อนาคตผกผันของนักอเมริกันฟุตบอลเพราะชนคนข้ามถนนเสียชีวิต
"ดราฟต์รอบแรก" คำ ๆ นี้มีความหมายและสามารถอธิบายความสามารถของนักกีฬาคนหนึ่งได้เป็นอย่างดี เพราะนี่คือสิ่งที่จะบอกว่าพวกเขาคือคนที่ดีที่สุดในอันต้น ๆ ของประเทศ พวกเขาจะถูกเลือกจากทีมที่พร้อมจะจ่ายเงินจำนวนมาก และบันดาลชื่อเสียงให้กับพวกเขาได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามการเป็นคนดังบางครั้งก็ทำให้คนเราเปลี่ยนไป จากบางสิ่งที่เคยง่ายกลับกลายทำให้เป็นเรื่องยาก กับเรื่องที่ไม่ควรใส่ใจก็กลับหงุดหงิดและทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
หากยับยั้งชั่งใจได้ก็ดีไป แต่ถ้าปล่อยใจไปกับชื่อเสียงเงินทองโดยไร้ซึ่งสติ … ต่อให้ดังหรือรวยแค่ไหน สักวันมันก็หมดไปได้ง่าย ๆ เหมือนกัน
นี่คือเรื่องราวของ ดอนเต สตอลเวิร์ธ อดีตปีกนอกฝีมือดี ที่อนาคตผกผันเพราะขับรถเร็วกว่ากำหนดและเมาแล้วขับจนมีผู้เสียชีวิต
ติดตามเรื่องราวของเขากับ Main Stand ได้ที่นี่
ปีศาจชัด ๆ
ดอนเต สตอลเวิร์ธ เกิดในเมืองซาคราเมนโต้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ในตอนที่เป็นเด็กเป็นคนที่โตเร็วกว่าเด็กคนอื่น ๆ เขาตัวสูงใหญ่ร่างกายแข็งแรง และมันทำให้เขาได้เปรียบใคร ๆ ในการเป็นนักอเมริกันฟุตบอล แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันไม่ใช่สิ่งเดียวที่เขาสนใจ เขาเล่นกีฬาชนิดนี้เพราะความสนุกเท่านั้น ไม่ได้หวังไกลเป็นนักมืออาชีพอะไร เพราะในอีกด้านหนึ่ง ดอนเต คือ เนิร์ด หรือหนอนหนังสือตัวยง
ดอนเต เล่าผ่าน The Washington Post ว่าตอนที่เขาอายุ 11 ปี เขาให้ความสนใจและหาหนังสืออ่านเกี่ยวกับเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางเชื้อชาติในอเมริกา สิทธิและเสรีภาพที่แท้จริง และคอยตั้งคำถามต่อสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ชอบมาพากลในรัฐบาล
"ทุกครั้งที่ผมเจอกับเขาผมต้องถามเขาทุกครั้งว่า นี่เอ็งพูดอะไรของเอ็งวะ แกจะมาชวนฉันคุยเรื่องของผู้ใหญ่แบบนี้ทำไม" ไนล์ส พอล อดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยมัธยม เล่าถึงการเป็นเนิร์ดของดอนเต
อย่างไรก็ตามเมื่อมีพรสวรรค์ด้านร่างกายและด้านกีฬา ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ลองเดินทางสายนี้ดู เพราะปลายทางของการเป็นนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพคือเงินจำนวนมากที่ครอบครัวยากจนครอบครัวหนึ่งจะใช้ได้ไปตลอดชีวิต
ดังนั้นเขาจึงเริ่มเอาจริงเอาจังในด้านนี้และกลายเป็นดาวเด่น ไม่เพียงแค่ในกีฬาอเมริกันฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกรีฑาด้วย โดยเจ้าตัวสามารถวิ่งระยะ 100 เมตร ด้วยเวลาเพียง 10.49 วินาที และกระโดดได้ไกลถึง 7.16 เมตร เลยทีเดียว
เขาเล่นตำแหน่งไวด์รีซีฟเวอร์ หรือ ปีกนอก และได้รับการติดต่อจากหลายมหาวิทยาลัยที่พร้อมจะมอบทุนการศึกษาให้กับเขา เขาเลือกเล่นให้มหาวิทยาลัยเทนเนสซี สานต่อความโหดด้านร่างกาย พัฒนาเรื่องการรับบอลจนได้ฉายาว่า "Hands" เพราะลูกที่ควอเตอร์แบ็กขว้างมายากแค่ไหน แต่เจ้าตัวก็รับได้อย่างสบาย ๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติ
ตลอดการเล่นระดับมหาวิทยาลัย ดอนเต รับบอลรวมระยะได้ถึง 1,747 หลา ซึ่งถือเป็นสถิติอันดับ 9 ตลอดกาลของสถาบัน
เท่านี้ก็มากพอแล้วที่จะทำให้หลายทีมระดับ NFL ติดต่อเขา ดอนเต ตัดสินใจเข้าดราฟต์ในปี 2002 และกลายเป็นทีมนิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ที่ได้ตัวเขาไป ด้วยการเลือกเขาตั้งแต่การดราฟต์รอบแรก และเส้นทางความมั่งคั่งของเขาก็เริ่มขึ้น
เช้าวันนั้นที่ไมอามี
เส้นทางอาชีพใน NFL ของ ดอนเต ถือว่าไปได้เรื่อย ๆ แม้จะออกแนวจอมพเนจรอยู่บ้าง เพราะหลังจากอยู่กับ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ภายใต้สัญญารุกกี้ 4 ปี เจ้าตัวก็ย้ายทีมแทบทุกปี เริ่มจากถูกเทรดไปอยู่กับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ เมื่อปี 2006 ก่อนไป นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ในปี 2007 และ คลีฟแลนด์ บราวน์ส เมื่อปี 2008
7 ฤดูกาลแรก ดอนเต รับบอลรวม 296 ครั้ง รวมระยะ 4,383 หลา ทำ 32 ทัชดาวน์ อาจไม่ถึงกับเป็นปีกนอกตัวท็อป แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องที่เจ้าตัวเจออาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้งก็ถือว่ามีฟอร์ม ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมนักรบกู้ชาติ ชุด "เกือบ" เพอร์เฟ็กต์ ซีซั่น ชนะ 16 เกมรวดในฤดูกาลปกติ และทุกเกมในรอบเพลย์ออฟ ก่อนเสียท่า นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ในเกมชิงแชมป์ซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 42
เรื่องดังกล่าวทำให้ คลีฟแลนด์ บราวน์ส ยอมทุ่มเงินค่าจ้าง 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับสัญญา 7 ปีให้กับ ดอนเต โดยเฉลี่ยแล้วเจ้าตัวจะได้ค่าเหนื่อยปีละ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว ทว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2009 ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
7 นาฬิกา 15 นาที ดอนเต กำลังขับรถ Bentley Continental GT สีดำ เพื่อออกไปหาอะไรกินยามเช้าริมชายหาดไมอามี หลังผ่านปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนมาอย่างหนักหน่วง เขาขับรถกลับถึงบ้านแล้วหลับไปเพียง 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ก่อนหน้านี้
นั่นคือเวลาเดียวกับที่ชายอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกันชนชั้นแรงงานอย่าง มาริโอ เรเยส ที่แม้อายุอานามจะล่วงเลยสู่วัย 59 ปี แต่ยังคงต้องหาเลี้ยงชีพ เพิ่งทำงานจบกะของตัวเองมาหมาด ๆ และกำลังจะวิ่งไปขึ้นรถเมล์กลับบ้าน
ทั้งคู่มาเจอกันบนถนน และ Bentley สีดำคันงามของ ดอนเต ก็ชนใส่ เรเยส อย่างจัง
"นั่นคือความผิดพลาดอย่างมหันต์เลย ผมรู้ตัวว่าผมต้องดื่ม เพราะนั่นเป็นปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน แต่ก็ยังขับรถออกมา ผมเคยเมาแล้วขับมาก่อน แต่ถึงความรู้สึกของคุณจะบอกว่า 'ฉันยังไม่เมาหมดสภาพ ขับรถได้น่า' มันก็เป็นปัญหาอยู่ดี การขับรถหลังจากที่ดื่มมามันไม่เคยโอเคเลย"
"มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ผมมองไปที่หน้ารถ เห็นชายคนหนึ่งนอนอยู่ไม่ขยับเขยื้อน นั่นคือภาพที่ผมจำติดตามาตลอดชีวิตจนถึงทุกวันนี้" ดอนเต กล่าว
ดอนเต โทรหา 911 อธิบายทุกอย่างอย่างละเอียด และเล่าความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ครั้งนั้น เขายอมรับว่าเขาดื่มมาตลอดคืน และขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด (เจ้าตัวขับด้วยความเร็ว 50 ไมล์ต่อชั่วโมง บนถนนที่จำกัดความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมง)
เขาบอกว่าตอนที่เขาเห็น เรเยส กำลังเดินข้ามถนน เขาพยายามกระพริบไฟใส่เพื่อเตือนแล้ว แต่ด้วยความที่มันเกิดขึ้นในระยะกระชั้นชิดมาก และ เรเยส ก็เป็นคนอายุ 59 ปี ที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งคืน เขาไม่มีแรงที่จะกระโดดหนีหรือหลบการชนครั้งนี้ได้แน่อน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก และ เรเยส ก็เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
Photo : mcall
การสอบสวนเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดของ ดอนเต และแน่นอนว่ามันเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (พบในร่างกาย 0.12 แต่กฎหมายของรัฐฟลอริดากำหนดว่าต้องไม่เกิน 0.08) อาชีพของเขาแทบจะจบลงตั้งแต่วันนั้น 1 เมษายน ในปีเดียวกัน ดอนเต ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท เขารับสารภาพข้อกล่าวหาและยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวด้วยเงิน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนั้นไม่นานศาลก็แถลงบทลงโทษเขา … เขาต้องถูกจำคุก 30 วัน ทำงานบริการชุมชน 1,000 ชั่วโมง ควบคุมความประพฤติ 8 ปี และยึดใบขับขี่ในรัฐฟลอริดาถาวร
สาเหตุที่โทษดูไม่รุนแรงอย่างที่ใครหลายคนคิด เพราะว่าตัวของ ดอนเต ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี และยังเข้าไปดูแลครอบครัวของ เรเยส คู่กรณีของเขา ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่าสินไหมทดแทนและจ่ายค่าทำขวัญก้อนโต รวมถึงการช่วยดูแลเรื่องการศึกษาของเด็ก ๆ ในครอบครัวเรเยสด้วย ซึ่งเจ้าตัวต้องแลกด้วยการยอมขายบ้านที่เขาตั้งใจซื้อให้คุณแม่เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามความดีทุกอย่างก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะได้ไปต่อบนเส้นทางผู้เล่นอาชีพ นี่คืออาชีพที่ต้องเป็นตัวอย่างของเยาวชน หลังพ้นโทษจำคุกและพ้นโทษแบนของ NFL แม้เจ้าตัวจะได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับหลายทีม ทั้ง บัลติมอร์ เรฟเวนส์, วอชิงตัน เรดสกินส์ และ นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ แต่ฟอร์มเก่งในอดีตดูเหมือนจะหลุดลอยไปพร้อมกับลมหายใจของ มาริโอ เรเยส แล้ว
แม้ฝั่งผู้เสียชีวิตจะให้อภัยและเรื่องของคดีความจะลุล่วงไปด้วยดี แต่ปัญหาคือต่อจากนี้ ดอนเต จะทำมาหากินอะไร ? นี่คือชีวิตใหม่หลังออกจากคุก และเขาก็ต้องเริ่มบทบาทใหม่ในชีวิตอีกครั้ง
จาก 35 ล้าน สู่ชั่วโมงละ 10 ดอลลาร์
ปี 2013 เส้นทางใน NFL ของ ดอนเต ต้องจบลงเมื่อเขาถูก วอชิงตัน เรดสกินส์ ปล่อยตัวออกจากทีม ถึงเวลาแล้วที่ต้องกลับไปสู่ชีวิตแบบคนธรรมดาอย่างเป็นทางการ
Photo : mcall
อย่างไรก็ตามเรื่องราวของ ดอนเต ในอดีตถือว่าช่วยเขาได้มาก แม้จะมีประวัติในเรื่องการขับรถชนคนเสียชีวิต แต่สิ่งที่เขาสนใจในวัยเด็ก รวมถึงปริญญาตรีในสาขาจิตวิทยาก็ช่วยให้ชีวิตไม่ยากเย็นเกินไปนัก
ดอนเต เล่าว่าเขาพยายามจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ตลอดในช่วงที่หัวสมองฟุ้งซ่าน เขาตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นใหม่ด้วยการสมัครงาน โดยเลือกงานที่มั่นคงและมีสวัสดิการ เพราะอย่างน้อยเขาและครอบครัวก็จะได้รับการดูแลจากสวัสดิการนี้ไปหลายอย่าง
เขาพยายามจะสมัครงาน ร่อนเรซูเม่ส่งไปให้แทบทุกที่ ก่อนจะได้เข้าร่วมในโปรแกรมฝึกงานของ Huffington Post สื่อออนไลน์ เป็นเวลา 6 เดือนในปี 2014
หน้าที่ของเขาก็เหมือนกับนักข่าวและคอลัมนิสต์ ที่ต้องคอยหาเรื่องราวที่เขาสนใจมาเขียน ซึ่งเรื่องส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเชื้อชาติในอเมริกา สิทธิและเสรีภาพที่แท้จริง และการตั้งคำถามต่อสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ชอบมาพากลในรัฐบาล ... ทั้งหมดคือเรื่องที่เขาเคยสนใจในตอนที่เขาเป็นเด็กทั้งสิ้น
Photo : mcall
ดอนเต เล่าให้ The Washington Post ฟังว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี หลังจากหลุดพ้นจากคดีฆ่าคนตาย เขาพยายามเปลี่ยนตัวเองใหม่ เขาพยายามเป็นคนมองโลกในแง่ดีให้มากขึ้น และพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่แบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ให้คนกับอื่น เขาอาจะไม่ได้มีเงินมากเหมือนเก่า แต่เขาก็ยังอยากมีชีวิตที่มีความสุขตลอดในช่วงชีวิตที่เหลือ
"ผมมองข้ามเรื่องของจำกัดไปแล้ว ผมพร้อมจะเป็นได้ทุกอย่างและทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น มีงานมีการทำ ต่อให้มันจะเป็นงานที่ได้ค่าจ้างแค่ชั่วโมงละ 10 ดอลลาร์เท่านั้น" ดอนเต กล่าว
การยอมรับ ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลง ทำให้ ดอนเต กลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง แม้จะไม่ได้ร่ำรวยมากมายเหมือนตอนเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล แต่อย่างน้อยเขาก็มีหน้าที่การงานที่ดี แม้เจ้าตัวไม่เปิดเผยงานหลักมากนัก (ใน Instagram ของเจ้าตัว ลงแค่ว่าเป็น "ผู้ให้คำปรึกษาด้านการจัดการของเสีย") แต่ก็มีบทความ และออกหน้าโชว์ตัวกับสื่อดังอย่าง The New York Times, Huffington Post และ CNN อย่างสม่ำเสมอ
ตอนนี้เขากลายเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา ๆ ทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน วันหยุดก็อยู่กับบ้านดูการถ่ายทอดสดอเมริกันฟุตบอล แค่นี้สำหรับเขาก็ถือว่าเป็นชีวิตที่ดีในแบบที่เขาสามารถทำได้และพอใจกับมันแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีอีกสิ่งที่เขายินดีทำด้วยความเต็มใจ นั่นคือการออกไปคุยกับนักกีฬารุ่นน้องในการสัมมนาผู้เล่นหน้าใหม่ของ NFL เพื่อให้ความรู้และเตือนสติกับผู้เล่นรุกกี้ ในเรื่องความระมัดระวังในการใช้ชีวิต
แม้กรรมในอดีตจะตามหลอกหลอนเขาอยู่เป็นระยะ กับถ้อยคำก่นด่าบนสื่อสังคมออนไลน์ ถึงอดีตที่เขาเคยขับรถชนคนตาย แต่เขาก็เปิดหน้ายอมรับสิ่งนั้นด้วยความเต็มใจ
"เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่ผมพบเจอมาตลอด อย่างน้อยก็ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งผมก็มีตอบกลับไปบ้างนะ แต่ไม่เคยด่ากลับ เพราะไม่ว่าอย่างไรผมก็หนีเรื่องดังกล่าวไม่พ้นอยู่ดี"
"สิ่งที่ผมทำมาจนถึงทุกวันนี้ หากสามารถช่วยให้นักกีฬารุ่นน้องไม่ต้องพบชะตากรรมแบบเดียวกับผมได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ" ดอนเต ทิ้งท้าย