เรือใบ ถล่ม อาร์เซนอล 3-0
แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มหรูถล่มเด็กปืน 3-0 ทะลุรอบรองชนะเลิศคาร์ลิ่ง คัพ ขณะที่ เชลซี ตกรอบดวลจุดโทษพ่าย แบล็คเบิร์น หลังเสมอ 3-3 ใน 120 นาที ด้าน บาร์เซโลนา บุกชนะ เฆเรซ 2-0 นำห่างลาลีกา 5 แต้ม ส่วน เอฟเวอร์ตัน บุกเฉือน เออีเค เอเธนส์ 1-0 เข้ารอบยูโรปา ลีก
ศึกคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายคืนวันพุธที่ 2 ธันวาคม "เรือใบสี ฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เปิดสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ รับการมาเยือนของ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล โดยเกมนี้เจ้าถิ่นยังใช้ผู้เล่นตัวหลักๆ ลงสนามเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ทีมเยือนใช้ดาวรุ่งเต็มทีม ทำให้เกมในครึ่งแรกเป็นแมนฯ ซิตี้ ที่ทำได้เหนือกว่า และมีโอกาสลุ้นประตูใกล้เคียงที่สุดจากการยิงที่หน้าประตูของ เคร็ก เบลลามี แต่บอลหลุดกรอบออกไป จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เข้าครึ่งหลังถึงนาทีที่ 50 แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูนำไปก่อนจนได้เมื่อ คาร์ลอส เตเบซ ลากบอลลุยเข้าไปยิงในเขตโทษเข้าไป 1-0 จากนั้นนาทีที่ 70 ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ลากบอลขึ้นทางขวาและสับไกยิงจากมุมกรอบเขตโทษเสียบเสาไกลเป็น 2-0 และก่อนหมดเวลาการแข่งขัน 1 นาที เจ้าถิ่นมาได้ประตูปิดท้ายอีกประตูเมื่อ เบลลามี ลากบอลหลุดไปทางซ้ายก่อนผ่านมาให้ วลาดิเมียร์ ไวส์ ยิงเข้าไปง่ายๆ จบเกม แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ
เกมอีกคู่ที่อีวู้ด ปาร์ค "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น ลงสนามพบกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่เกมนี้ใช้ผู้เล่นสำรองลงสนามหลายคนไม่มีทั้ง จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด, นิโกลาส์ อเนลก้า และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ลงสนามเป็นตัวจริง ทำให้นาทีที่ 9 ของเกมเจ้าถิ่นชิงจังหวะยิงประตูออกนำไปก่อนเมื่อ ปาสกัล ชิมบงด้า เติมเกมขึ้นมาทางขวาและผ่านมาให้ นิโกลา คาลินิช ยิงจากระยะ 6 หลาเข้าไปเป็น 1-0
แต่เข้าครึ่งหลัง เชลซี แก้เกมด้วยการส่ง ดร็อกบา ลงมา และนาทีที่ 48 ก็ตามตีเสมอได้เมื่อ ฟลอรองต์ มาลูด้า เปิดบอลให้ ดร็อกบา โขกเป็น 1-1 ก่อนที่อีก 5 นาทีต่อมาทีมเยือนแซงนำเป็น 2-1 ได้สำเร็จ ยูริ ซีร์คอฟ จ่ายบอลให้ ซาโลมง คาลู ซัดสู่ก้นตาข่าย แต่นาทีที่ 64 แบล็คเบิร์น มาตามตีเสมอได้เมื่อกองหลังทีมเยือนสกัดบอลไม่ขาดถูก แบรตต์ เอเมอร์ตัน ยิงเข้าไปเป็น 2-2 ทำให้จบ 90 นาทีต้องต่อเวลาอีก 30 นาที ซึ่งนาทีที่ 93 เบนนี แม็คคาร์ธี ยิงจุดโทษให้แบล็คเบิร์นนำ 3-2 แต่นาทีที่ 120 เชลซี มาตีเสมอได้จาก เปาโล แฟร์ไรรา ทำให้เสมอ 3-3 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งแบล็คเบิร์นชนะไป 4-3
ขณะที่เกมลาลีกา "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา จ่าฝูงออกไปเยือน เฆเรซ ทีมบ๊วยที่เกมนี้เน้นตั้งรับเต็มที่ทำให้เกมของ บาร์ซ่า ทำอะไรได้ไม่ถนัดนัก จบครึ่งแรกสกอร์อยู่ที่ 0-0 แต่ครึ่งหลังทีมเยือนเร่งเกมจนได้ประตูจากการโหม่งของ เธียร์รี อองรี นาทีที่ 47 และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช นาทีที่ 90 ทำให้บาร์ซ่าชนะ 2-0 มีเพิ่มเป็น 33 แต้ม ทิ้ง รีล มาดริด เป็น 5 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
ด้านการแข่งขันฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมได้สำเร็จ หลังลงสนามนัดที่ 5 ของกลุ่ม ไอ บุกไปเอาชนะ เออีเค เอเธนส์ ของกรีซ 1-0 จาก ดินิยาร์ บิลยาเลทดินอฟ นาทีที่ 6 ของเกม ขณะที่อีกคู่ของกลุ่มนี้ บาเต้ โบริซอฟ แพ้ เบนฟิก้า 1-2 ทำให้กลุ่มนี้ เบนฟิก้า มี 12 แต้มจูงมือเข้ารอบกับ เอฟเวอร์ตัน ที่มี 9 แต้ม ส่วนอีกสองทีมมีแค่ 4 แต้มไล่ไม่ทันแน่นอนแล้ว
ผลคู่อื่นๆ อันเดอร์เลทช์ แพ้ ดินาโม ซาเกรบ 0-1, ทิมิซัวรา แพ้ อาแจ๊กซ์ 1-2, สลาเวีย ปราก เสมอ เจนัว 0-0, บาเลนเซีย ชนะ ลีลล์ 3-1, เซลติก ชนะ ฮาโปเอล เทลอาวีฟ 2-0, ฮัมบูร์ก ชนะ ราปิด เวียนนา 2-0, กลุ่ม จี เลฟสกี้ โซเฟีย แพ้ บียาร์รีล 0-2, อาร์บี ซัลซ์บวร์ก ชนะ ลาซิโอ 2-1, กลุ่ม เอช เชอรีฟฟ์ เสมอ สเตอัว บูคาเรสต์ 1-1, เอซี ทเวนเต้ แพ้ เฟเนร์บาห์เช 0-1
