จากมวยกรงสู่มวยปล้ำ : เหตุผลที่ ‘รอนด้า เราซี่ย์’ หันมาเอาดีในฐานะนักสู้ของ WWE
รอนด้า เราซี่ย์ คือหนึ่งในนักสู้ MMA ที่ประสบความสำเร็จและโด่งดังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ในฐานะนักชกผู้หญิงคนแรกที่ได้เข้าหอเกียรติยศของสมาคม UFC ก็บอกได้ชัดเจนว่าเธอนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหนในวงการ MMA
อย่างไรก็ตาม มีนัก MMA เพียงไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ แต่กลับฝันตัวมาจริงจังบนสังเวียนมวยปล้ำ กีฬาที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แต่ รอนด้า เราซี่ย์ เลือกจะมาใช้เวลาในฐานะนักมวยปล้ำอย่างเต็มตัว เพื่อพิสูจน์ตัวเองบนสังเวียนใหม่
อีกทั้ง รอนด้า เราซี่ย์ ไม่ได้มาปล้ำมวยปล้ำเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่เธอเพิ่งกลับมาปล้ำอีกครั้ง ด้วยการชนะแมตช์ Royal Rumble ในปีนี้ หลังจากพักไปสร้างครอบครัว และเตรียมกลับมาปรากฏตัวแบบยาว ๆ อีกหนกับ WWE
เหตุใด รอนด้า เราซี่ย์ จึงหันมาเอาดีบนสังเวียนมวยปล้ำแบบไม่ยอมเลิกรา ไปติดตามเรื่องราวนี้ไปพร้อมกับเรา
จุดเริ่มต้นและจุดจบ
ชีวิตของ รอนด้า เราซี่ย์ กว่าจะมาใกล้ชิดกับมวยปล้ำ ก็ต้องรอจนถึงช่วงที่เธอเป็นนักสู้มือทองบนสังเวียน UFC ความแข็งแกร่งของเธอในฐานะที่ได้ลุ้นแชมป์แบนตัมเวต ช่วยให้ชื่อของ รอนด้า เราซี่ย์ ดังไปไกลเกินกว่าสังเวียน MMA
ด้วยความสนิทชิดเชื้อของ ดาน่า ไวท์ ประธาน UFC คนปัจจุบัน กับ วินซ์ แม็คแมน เจ้าของสมาคม WWE ทำให้ รอนด้า เราซี่ย์ ได้รับเชิญให้เข้าชมโชว์มวยปล้ำของ WWE อยู่หลายครั้ง และก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองฝ่าย
Photo : WWE
เนื่องจากได้พบปะกันบ่อยครั้ง ทำให้ ทริปเปิล เอช และ สเตฟานี่ แม็คแมน สองสามี-ภรรยา ผู้บริหารของ WWE ลองทาบทาม รอนด้า เราซี่ย์ อยู่บ่อยครั้ง ให้เธอลองมาเปลี่ยนสถานที่ต่อสู้จากกรงเหล็กเป็นเวทีมวยปล้ำแทน
WWE ยืนยันกับรอนด้าอย่างชัดเจนว่า หากวันไหนเธอตัดสินใจเลิกเป็นนักชก MMA เวทีมวยปล้ำจะเปิดรับเธอเสมอ ขอแค่เธอบอก WWE ก็พร้อมเปิดโอกาสให้รอนด้าเข้ามาทำงานกับสมาคมทันที
ผู้บริหารของ WWE เห็นถึงศักยภาพในตัว รอนด้า เราซี่ย์ ในฐานะนักมวยปล้ำอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่เรื่องของชื่อเสียง แต่ด้วยทักษะการต่อสู้ชั้นเลิศที่มีติดตัวอยู่แล้ว WWE จึงเชื่อว่าจะสามารถปั้นนักสู้รายนี้ให้กลายเป็นดาวเด่นที่มีฝีมือการปล้ำอันยอดเยี่ยมได้แน่นอน
รอนด้า เราซี่ย์ เองก็สนใจเช่นกัน เพราะเธอชอบกีฬามวยปล้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มที่รอนด้ารู้จักกับทาง WWE เธอยังอยู่ในช่วงพีคของการเป็นนักสู้บนสังเวียน UFC จึงไม่มีวี่แววว่าเธอจะผันตัวมาเป็นนักมวยปล้ำเลย แต่เธอก็ตัดสินใจมาเป็นแขกรับเชิญในศึก WrestleMania 31 ในปี 2015 เพื่อมีบทบาทร่วมกับ เดอะ ร็อค, ทริปเปิล เอช และ สเตฟานี่ แม็คแมน
ด้วยความบังเอิญ ขณะที่ รอนด้า เราซี่ย์ ขึ้นเจิมโชว์ลีลาบนสังเวียนมวยปล้ำเป็นครั้งแรก ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน ปี 2015 รอนด้าก็พ่ายแพ้ด้วยการถูกเตะปลายคางน็อกกลางอากาศอย่างลือลั่นให้กับ ฮอลลี่ โฮล์ม ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของเธอในฐานะนักสู้ MMA
ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของ รอนด้า เราซี่ย์ โดยเฉพาะในด้านสภาพจิตใจ เนื่องจากคนที่ชนะมาตลอด แม้เจอความล้มเหลวแค่ครั้งเดียวก็ยากเกินกว่าจะรับไหว สภาพจิตใจของรอนด้าบอบช้ำอย่างหนัก จนเธอเคยคิดถึงการปลิดชีวิตตัวเองมาแล้ว
“ตอนฉันนั่งพักอยู่ในห้อง ฉันถามตัวเองว่า ‘ฉันเหลืออะไร หลังจากความพ่ายแพ้’ ตอนนั้นฉันคิดแค่ว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปในชีวิต หลังจากที่ฉันแพ้คงไม่มีใครให้ค่ากับฉันอีกแล้ว”
“ฉันนั่งอยู่ตรงนั้น และคิดว่าฉันควรจะจบชีวิตตัวเอง” รอนด้า เราซี่ย์ กล่าวถึงอดีตอันเจ็บปวด
รอนด้า เราซี่ย์ พักรักษาแผลใจยาวนานกว่า 1 ปี กว่าเธอจะกลับมามีความมั่นใจและเรียกความรู้สึกของการเป็นผู้ชนะกลับคืนมาได้ และได้ขึ้นชกกับ อแมนด้า นูเนส ในวันที่ 30 ธันวาคม 2016
อย่างไรก็ตาม รอนด้า แพ้ในการต่อสู้ตั้งแต่ยกแรก ด้วยเวลา 48 วินาที และทันทีที่การต่อสู้จบลง แฟนกีฬา MMA ต่างเชื่อว่าเวลาของ รอนด้า เราซี่ย์ ในฐานะนักสู้กรงเหล็กได้สิ้นสุดลงแล้ว
โลกใบใหม่ โอกาสใหม่
บางครั้งวิกฤตของคนเราก็เป็นโอกาสได้เสมอ ทันทีที่รอนด้าเหมือนจะตัดสินใจอำลาวงการ MMA ผู้บริหารของ WWE ได้เข้าติดต่อทาบทามให้เธอมาเป็นนักมวยปล้ำในสังกัดทันที
Photo : WWE YOUTUBE
รอนด้า เราซี่ย์ ใช้เวลาไม่นานนักในการตัดสินใจตอบตกลง และเริ่มฝึกมวยปล้ำกับทาง WWE ทันที เพราะ WWE แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความตั้งใจมากแค่ไหนที่อยากจะร่วมงานกับนักสู้รายนี้ และทำให้เธอกลับมาเป็นดาวเด่นบนสังเวียนอีกครั้ง
ขณะที่ตัวของรอนด้าก็ดูมีความสุขมาก ยามได้ใช้เวลากับกีฬามวยปล้ำ เห็นได้จากการตามมาถึงหลังฉากเพื่อให้กำลังใจเพื่อนของเธอ อย่าง เชย์นา เบสซเลอร์ อดีตนักสู้ MMA ที่มาเซ็นสัญญาเป็นนักมวยปล้ำของ WWE ในเวลาไล่เลี่ยกันกับรอนด้า
รอนด้า เราซี่ย์ ให้เหตุผลที่แสนเรียบง่ายกับสื่อถึงการผันตัวมาเป็นนักมวยปล้ำ ว่ามันคือเรื่องความสุขทางใจล้วน ๆ ทั้งที่มีอีกหลายโอกาสเข้ามาหาที่สามารถให้ค่าตอบแทนได้มากกว่าการเป็นนักมวยปล้ำ แต่ รอนด้า เราซี่ย์ ก็ปฏิเสธโอกาสทั้งหมดทิ้งไป เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการนำชีวิตที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเธอกลับมาอีกครั้ง
Photo : WWE
“มวยปล้ำคือโลกทั้งใบของฉันในตอนนี้ … ตัวฉันในวัยเด็กตอนอายุ 6 ขวบ คงมาตามเตะก้นฉันแน่ ๆ ถ้าไม่รับโอกาสตรงนี้ไว้”
“การได้เป็นนักมวยปล้ำเป็นเรื่องสนุกมาก เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฉันเลย ฉันยอมรับว่าฉันไม่อยากให้เวลาอันแสนสนุกนี้จบลง” รอนด้า เราซี่ย์ กล่าว
นอกจากมวยปล้ำจะเป็นโลกใบใหม่ที่มอบความสุขให้ชีวิตของเธอแล้ว สำหรับรอนด้าสังเวียนแห่งนี้ยังเป็นโอกาสให้เธอได้ทำในสิ่งที่ค้างคาใจมาตลอด นั่นคือการอำลาสังเวียน MMA แบบไม่น่าจดจำเท่าไหร่นัก
“ฉันคิดว่ายังมีบางสิ่งที่ฉันสามารถทำได้ ฉันอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่เคยทำ ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้าเผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเอง … ถึงเวลาแล้วที่จะแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งที่ยังมีอยู่ในตัว” รอนด้า กล่าว
แม้จะเป็นยอดนักสู้บนสังเวียน MMA แต่มวยปล้ำคือศาสตร์กีฬาที่ต่างออกไป ทำให้รอนด้าต้องใช้เวลาหลายเดือนในการฝึกฝนกับ WWE และด้วยการมีทักษะวิชาต่อสู้ที่ดีอยู่แล้วเป็นพื้นฐานก็ช่วยให้เธอมีโอกาสได้เปิดตัวบนสังเวียนมวยปล้ำอย่างรวดเร็ว
รอนด้า เราซี่ย์ เปิดตัวปล้ำแมตช์แรกใน WrestleMania 34 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2018 ด้วยการจับคู่กับ เคิร์ต แองเกิล เจอกับ ทริปเปิล เอช และ สเตฟานี่ แม็คแมน
ค่ำคืนวันนั้นโลกมวยปล้ำได้เห็นหนึ่งในการเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดของประวัติศาสตร์มวยปล้ำ รอนด้า เราซี่ย์ แสดงให้เห็นว่า เธอไม่ได้จะมาปล้ำมวยปล้ำเพื่อรับเงินไปวัน ๆ แต่ต้องการแสดงให้เห็นในสังเวียนว่าตัวของเธอยังเป็นยอดนักสู้เช่นเดิม
“ต่อให้ไม่มองถึงพื้นฐานที่เธอมีอยู่แล้ว ทุกสิ่งที่เธอทำถือว่าน่าประทับใจ … นี่คือหนึ่งในการเดบิวต์ที่ดีที่สุดของวงการมวยปล้ำ” เดฟ เมลเซอร์ กูรูมวยปล้ำชื่อดังชื่นชมในความสามารถของ รอนด้า เราซี่ย์ ที่ใช้เวลาไม่กี่เดือนฝึกฝนมวยปล้ำและทำออกมาได้เป็นอย่างดี
กลับมาด้วยแพชชั่น
ไม่ใช่เรื่องแปลกหาก รอนด้า เราซี่ย์ จะประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับ WWE เธอเป็นแชมป์หญิงของโชว์ Raw เป็นเวลาหลายเดือน รวมถึงได้ยืนเป็นคู่เอกของศึกใหญ่ Evolution ศึกใหญ่ที่มีแต่นักมวยปล้ำหญิงขึ้นปล้ำเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ WWE
รอนด้า เราซี่ย์ คือส่วนสำคัญที่ทำให้ WWE กล้าสร้างศึกใหญ่โดยไม่ใช้งานนักมวยปล้ำชาย เพราะชื่อเสียงและความเป็นสตาร์ของเธอก็สามารถขายได้ดีไม่แพ้กัน และแน่นอนว่าเธอเองก็สามารถทำมันออกมาได้ดีอย่างที่ผู้คนคาดหวัง
Photo : WWE
นอกจากนี้ รอนด้า เราซี่ย์ ยังได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นหนึ่งในผู้หญิงสามคนแรกร่วมกับ ชาร์ลอตต์ แฟลร์ และ เบ็คกี้ ลินช์ ขึ้นปล้ำในฐานะคู่เอก WrestleMania ครั้งที่ 35 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ WrestleMania มีคู่เอกเป็นแมตช์การปล้ำของผู้หญิง
“ฉันหวังนะที่จะได้เป็นคู่เอก WrestleMania และฉันก็มีความสุขมาก มันคือความฝันสูงสุดของใครหลายคนแล้วก็เป็นความฝันของฉันเหมือนกัน ฉันคิดว่าคิดว่ามันน่าเหลือเชื่อที่สามารถทำได้สำเร็จภายในเวลาแค่ปีเดียว” รอนด้า เราซี่ย์ พูดถึงการได้เป็นคู่เอก WrestleMania 35
อย่างไรก็ตามนั่นคือแมตช์สุดท้ายบนสังเวียนมวยปล้ำของเธอ เพราะหลังจากนั้น รอนด้า เราซี่ย์ ตัดสินใจอำลา WWE และหันไปโฟกัสกับชีวิตครอบครัวกับ ทราวิส บราวน์ สามีของเธอ
“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่าที่ทิ้ง WWE ไปตอนนี้ แต่ฉันอยากมีลูกให้กับ ทราวิส บราวน์ จริง ๆ” รอนด้า พูดถึงการออกจากวงการมวยปล้ำไปอย่างรวดเร็วเพื่อหันไปสร้างครอบครัวของตัวเอง
รอนด้า เราซี่ย์ สร้างชีวิตครอบครัวได้ตามที่หวัง มีลูกสาวร่วมกัน กับ ทราวิส บราวน์ และไม่มีวี่แววว่าตัวของเธอจะกลับมาปล้ำมวยปล้ำอีกครั้ง
จนกระทั่งผ่านไปเกือบ 3 ปี ก่อนศึก Royal Rumble 2022 จะเริ่มต้นขึ้น มีข่าวลืออย่างหนักว่า รอนด้า เราซี่ย์ จะมาปรากฏตัวเป็นเซอร์ไพรส์ในโชว์ และจะเป็นการคืนสังเวียนมวยปล้ำของเธออีกครั้ง
Photo : WWE
สุดท้ายข่าวลือก็เป็นจริง รอนด้า เราซี่ย์ กลับมาชนะในแมตช์ Royal Rumble ของฝ่ายหญิง พร้อมกับเตรียมตัวกลับไปชิงแชมป์ใน WrestleMania ครั้งที่ 38 อีกครั้งในปีนี้ และเธอก็ได้ตกลงเซ็นสัญญาเป็นนักมวยปล้ำ Full-Time กับ WWE อีกครั้ง
พูดกันตามความเป็นจริง รอนด้า เราซี่ย์ ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมมาก่อนหน้านี้แล้วในฐานะนักมวยปล้ำ เธอได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ายังสามารถเป็นนักสู้ที่ได้รับการยอมรับบนสังเวียนได้อีกครั้ง
แต่สุดท้ายการขึ้นสู่สังเวียนมวยปล้ำอีกครั้งของ รอนด้า เราซี่ย์ ในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องของการพิสูจน์ตัวเองอีกต่อไป หากแต่เป็นเรื่องของความรักที่มีให้กับวงการมวยปล้ำล้วน ๆ
Photo : WWE
“การทำงานใน WWE มันสนุกมาก … ฉันสนุกจริง ๆ กับการเป็นนักมวยปล้ำ ฉันตกหลุมรักมันเลยล่ะ” รอนด้า เราซี่ย์ ยอมรับถึงความรักที่มีให้กับการทำงานในวงการมวยปล้ำ
เส้นทางสายใหม่ของ รอนด้า เราซี่ย์ บนสังเวียนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และหลังจากสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ไว้ให้กับวงการมวยปล้ำ มาดูกันว่าเธอจะสร้างอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจให้กับวงการนี้ได้อีกบ้าง