วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส : การเปลี่ยนชื่อทีมอเมริกันฟุตบอล ที่เริ่มจากปัญหาเหยียดสีผิว
"คุณทำให้ทุกก้าวของการรีแบรนด์มันพังขนาดนี้ได้อย่างไร ไล่ตั้งแต่ชุดแข่งขัน โลโก้ และชื่อทีม ทุกอย่างได้ 0 คะแนน"
นี่คือหนึ่งในความเห็นบนโลกออนไลน์ต่อ "วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส" ชื่อใหม่ของทีมอเมริกันฟุตบอลประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งเป็นไปในแง่ลบ หลังแฟรนไชส์แห่งนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 90 ปี
ทุกคนเคยรู้จักพวกเขาในชื่อที่แตกต่างออกไป อย่าง วอชิงตัน เรดสกินส์ ชื่อทีมกีฬาที่มีความหมายเชิงเหยียดสีผิวต่อชนพื้นเมืองอเมริกัน ท่ามกลางการถกเถียงในสังคมที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ในที่สุด ความเปลี่ยนแปลงก็ได้เกิดขึ้น
แต่มันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีไหม ? อย่างน้อยแฟนคลับของทีมก็ไม่รู้สึกอย่างนั้น เพราะทีมต้องผ่านการเปลี่ยนชื่อมามากกว่าหนึ่งครั้ง แถมยังมีตัวเลือกมากมายนับไม่ถ้วนให้ทีมพิจารณา ก่อนจะจบลงด้วย วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส ชื่อใหม่ที่แฟนอเมริกันฟุตบอลส่ายหน้าไปตาม ๆ กัน
ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกับ Main Stand ได้ที่นี่
แฟรนไชส์กีฬาที่ชื่อ "เรดสกินส์"
หากพูดถึงชื่อเดิมของทีมฟุตบอลประจำเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลายคนคุ้นเคยกันในนาม วอชิงตัน เรดสกินส์ คงต้องบอกให้ชัดเจนเลยว่า ชื่อดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในชื่อทีมที่เก่าแก่ที่สุดของวงการอเมริกันฟุตบอล โดยคำว่า "เรดสกินส์" ถูกใช้เป็นชื่อแฟรนไชส์ทีมอเมริกันฟุตบอลแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1933
เหตุผลที่ทีมเลือกใช้คำว่า เรดสกินส์ เป็นชื่อทีมมีอยู่หลายเหตุผล โดยเหตุผลแรกคือเพื่อให้คล้องจองกับชื่อของ บอสตัน เรดซ็อกส์ ทีมเบสบอลประจำเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ โดยขณะนั้นแฟรนไชส์แห่งนี้ยังสังกัดอยู่ในเมืองบอสตัน ไม่ใช่วอชิงตัน ดีซี เหมือนในปัจจุบัน
และเมื่อทีมอเมริกันฟุตบอลประจำเมืองบอสตันย้ายไปใช้สนาม เฟนเวย์ พาร์ก รังเหย้าของบอสตัน เรดซ็อกส์ ในปี 1933 จึงมีการเปลี่ยนชื่อทีมใหม่จากเดิมคือ บอสตัน เบรฟส์ มาเป็น บอสตัน เรดสกินส์ เพื่อให้มีความคล้องจองกับชื่อทีมเบสบอลประจำเมือง (เรดสกินส์ย้ายออกจากบอสตันสู่วอชิงตัน ดีซี ในปี 1939)
ส่วนอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้แฟรนไชส์แห่งนี้เลือกใช้คำว่า เรดสกินส์ เป็นชื่อทีม นั่นคือเพื่อเป็นเกียรติแก่เฮดโค้ชคนแรกของทีม อย่าง วิลเลียม เฮนรี ดีตซ์ (William Henry Dietz) ซึ่งเป็นชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายมาจากชนพื้นเมืองในสหรัฐอเมริกา
และด้วยผิวสีแดงจากกรรมพันธุ์ของพวกเขา ทางแฟรนไชส์จึงได้นำจุดเด่นที่แสดงออกผ่านยีนของมนุษย์มาใช้เป็นชื่อทีม โดยให้เหตุผลว่า "เพื่อแสดงความเคารพต่อมรดกและจารีตประเพณีของชนพื้นเมืองอเมริกัน"
ความมหัศจรรย์ของเวลาคือมันไม่ได้เปลี่ยนแค่ร่างกายของมนุษย์ให้เติบโตขึ้นหรือแก่ชราลง แต่มันยังเปลี่ยนความคิดของมนุษย์ให้เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย ด้วยเหตุนี้การแสดงออกบางอย่างซึ่งเคยเป็นที่ยอมรับเมื่อเกือบร้อยปีก่อน อาจไม่เป็นที่ยอมรับอีกแล้วในปัจจุบัน
เช่นเดียวกับคำว่า เรดสกินส์ ที่ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นการให้เกียรติชนพื้นเมืองอเมริกันอีกต่อไป…
ความหมายที่สื่อถึงการเหยียดสีผิว
ในโลกยุคปัจจุบันการใช้คำว่า เรดสกินส์ หรือ คนผิวแดง เพื่อสื่อถึงชนพื้นเมืองอเมริกันถือเป็นการ "เหยียดสีผิวและดูหมิ่นเหยียดหยาม" โดยตัวอย่างของการกระทำที่เข้าข่ายทำร้ายชนพื้นเมืองอเมริกันอย่างโจ่งแจ้งก็หนีไม่พ้น กรณีของชื่อทีมอเมริกันฟุตบอล วอชิงตัน เรดสกินส์ ซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าสื่อกระแสหลักและสินค้ามากมายทั่วโลกตลอดเวลา
มีหลายฝ่ายที่พยายามต่อสู้ให้แฟรนไชส์อเมริกันฟุตบอลแห่งนี้เลิกใช้คำว่า เรดสกินส์ เป็นชื่อทีม โดย สภาแห่งชาติแห่งชาวอเมริกันอินเดียน (National Congress of American Indians) ได้เคยแถลงการณ์เรียกร้องให้ วอชิงตัน เรดสกินส์ หยุดการกระทำอันน่ารังเกียจและเหยียดสีผิวนี้ ผ่านการใช้รูปลักษณ์ของชนพื้นเมืองอเมริกันมาเป็นมาสคอตประจำทีม และใช้ชื่อทีมว่าเรดสกินส์ ซึ่งไม่สามารถสื่อถึงสิ่งอื่นได้เลยนอกจากการกระทำอันเป็นอาชญากรรม
"สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนเห็นตรงกันเกี่ยวกับทีมฟุตบอลวอชิงตันคือ คำว่า เรดสกินส์ สะท้อนถึงมรดกและประวัติศาสตร์ของทีม แต่โชคร้ายที่มรดกและประวัติศาสตร์ของทีมแห่งนี้ถือเป็นสิ่งน่ารังเกียจ เพราะมันมีรากฐานมาจากการเหยียดสีผิวและการเลือกปฏิบัติ" แถลงการณ์ของสภาแห่งชาติแห่งชาวอเมริกันอินเดียน เมื่อปี 2013 เรียกร้องให้ วอชิงตัน เรดสกินส์ เปลี่ยนชื่อทีม
"เมื่อเรามองไปยังต้นตอที่แท้จริงของชื่อนี้ (มาจากโค้ชที่เป็นชนพื้นเมือง) มันยิ่งชัดเจนมากขึ้นและมากยิ่งขึ้นไปว่า มรดกของทีมแห่งนี้ในเรื่องความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ จะกลายเป็นความผิดพลาดในประวัติศาสตร์ไปตราบนานเท่านาน"
การเปลี่ยนชื่อทีม วอชิงตัน เรดสกินส์ จึงกลายเป็นประเด็นมาตตลอดทศวรรษล่าสุด ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องจริงจังมากในสังคมอเมริกัน จนต้องมีการออกแบบสำรวจต่อประชาชนหลายครั้งหลายคราว โดยในปี 2016 Washington Post ได้สอบถามความเห็นของชนพื้นเมืองอเมริกันว่ารู้สึกอย่างไรต่อชื่อนี้ คำตอบคือ 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ทำสำรวจรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้ถูกล่วงละเมิดโดยชื่อดังกล่าว
แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 มหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ทำแบบสำรวจใหม่อีกครั้ง ด้วยการสอบถามความรู้สึกของชนพื้นเมืองอเมริกันกว่า 1,000 คนว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรกับชื่อ Redskins ซึ่งผลสำรวจบอกว่า ผู้ทำสำรวจประมาณครึ่งหนึ่งรู้สึกว่าพวกเขาถูกดูหมิ่นโดยชื่อ Redskins, ผู้ทำสำรวจ 63 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่พอใจท่าเชียร์ Tomahawk chop อันสื่อถึงความล้าหลังของชนพื้นเมืองอเมริกัน (ที่ดำรงชีวิตด้วยการตัดไม้) และผู้ทำสำรวจ 73 เปอร์เซ็นต์ ไม่พอใจที่แฟนคลับของทีมเอาการเต้นของชนพื้นเมืองอเมริกันไปใช้
ความไม่พอใจของชนพื้นเมืองอเมริกันซึ่งแสดงออกผ่านผลสำรวจดังกล่าว ถูกสุมไฟให้ร้อนแรงมากขึ้นหลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่เสียชีวิตด้วยฝีมือของตำรวจในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ซึ่งเหตุการณ์นี้กระตุ้นให้ชาวอเมริกันหันมาใส่ใจกับปัญหาการเหยียดสีผิวในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
นี่จึงนำมาสู่แรงกดดันจากบรรดาสปอนเซอร์ของวอชิงตัน เรดสกินส์ นำโดย Nike, FedEx และ Pepsi ที่ส่งจดหมายตรงถึงแฟรนไชส์แห่งนี้ เรียกร้องให้ทีมเลิกใช้คำว่า Redskins เป็นชื่อทีม โดยในจดหมายลงชื่อผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัทชั้นนำถึง 87 คน ซึ่งมีทรัพย์สินรวมกัน 6.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พวกเขากล่าวยืนยันชัดเจนว่า วอชิงตัน เรดสกินส์ ต้องเปลี่ยนชื่อทีม ไม่เช่นนั้นบริษัทเหล่านี้จะเลิกให้เงินสนับสนุนทีมกีฬาแห่งนี้
วอชิงตัน เรดสกินส์ จึงนำปัญหานี้เข้าไปพิจารณาอย่างจริงจังในเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ก่อนจะประกาศรีไทร์ชื่อทีม วอชิงตัน เรดสกิน และโลโก้ของแฟรนไชส์ที่เป็นภาพชนพื้นเมืองอเมริกัน โดยทางทีมจะใช้คำว่า วอชิงตัน ฟุตบอลทีม ไปก่อน จนกว่าจะได้ชื่อใหม่ซึ่งจะประกาศในช่วงต้นปี 2022 เพื่อใช้เป็นชื่อของแฟรนไชส์ในลีก NFL นับตั้งแต่ฤดูกาล 2022 เป็นต้นไป
เรดสกินส์ สู่ คอมมานเดอร์ส
หลังจากใช้ชื่อ วอชิงตัน ฟุตบอลทีม อยู่นานถึง 18 เดือน หรือเท่ากับการแข่งขัน NFL สองฤดูกาล ในที่สุด แฟรนไชส์ทีมอเมริกันฟุตบอลประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้ประกาศตัวเลือกชื่อใหม่ของแฟรนไชส์แก่สาธารณะในวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา โดยทาง วอชิงตัน ฟุตบอลทีม ยืนยันว่าพวกเขาได้ทำการสอบถามแฟนคลับของทีมมากถึงราว 4 หมื่นคน จนได้ชื่อดังต่อไปนี้
วอชิงตัน เรดวูล์ฟส, วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส, วอชิงตัน เรดฮอกส์, วอชิงตัน ดีเฟนเดอร์ส, วอชิงตัน แอดไมรัลส์, วอร์ชิงตัน อาร์มาดา, วอชิงตัน เพรสซิเดนต์ส, วอชิงตัน เรดเทลส์ และ วอชิงตัน วอริเออร์ส รวมทั้งหมดเท่ากับว่า วอชิงตัน ฟุตบอลทีม มีตัวเลือกชื่อใหม่มากถึง 9 ชื่อ
แน่นอนว่าชื่อที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า เรด อย่าง วอชิงตัน เรดวูล์ฟส หรือ วอชิงตัน เรดฮอกส์ จะติดหูแฟนทั่วไปมากกว่าในเบื้องต้น แต่ชื่อที่ก้าวขึ้นมาเป็นเต็งหนึ่งคือ "วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส" โดยรายงานของ NBC Sports กล่าวว่า บรรดาผู้สื่อข่าวท้องถิ่นและแฟนคลับของทีมส่วนหนึ่งสมัครเป็นแฟนคลับชื่อใหม่นี้อย่างรวดเร็ว
โอกาสที่พวกเขาจะใช้ชื่อ วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส มีเพิ่มมากขึ้นไปอีก เมื่อมีการปล่อยภาพหลุดยูนิฟอร์มชุดแข่งขันใหม่ของทีมออกมา ซึ่งบนชุดมีการปักดาวสีทอง 3 ดวงลงไป โดยรายละเอียดตรงนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากธงประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี
แต่ไม่ได้มีแค่ธงของเมืองหลวงสหรัฐอเมริกาที่ใช้ดาว 3 ดวงเป็นสัญลักษณ์ เพราะดาว 3 ดวงแบบนี้ ยังหมายความถึงยศของนายทหารชั้นพลโท ซึ่งสอดคล้องกับการเป็นผู้บังคับบัญชา หรือ คอมมานเดอร์ส
วอชิงตัน ฟุตบอลทีม ยังดูเหมือนจงใจจะทำภาพหลุดอย่างต่อเนื่อง โดยในการสัมภาษณ์ของ เจสัน ไรท์ (Jason Wright) ประธานทีมวอชิงตัน ฟุตบอลทีม กับช่อง NBC Sports Washington ได้มีกระดาษแผ่นหนึ่งที่ปรากฏโลโก้ใหม่ของแฟรนไชส์ และเขียนชื่อทีมชัดเจนว่า วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส
ขณะเดียวกันมีการสืบย้อนหลังไปว่า เว็บไซต์ WashingtonCommanders.com ไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงเวลาดังกล่าว แม้ว่าจะมีการจดโดเมนเว็บไซต์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2020 หรือนับตั้งแต่ วอชิงตัน ฟุตบอลทีม ถูกสั่งให้ทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อเดิมของแฟรนไชส์
หลักฐานมัดตัวขนาดนี้ก็ไม่มีอะไรต้องแปลกใจ เมื่อในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2022 วอชิงตัน ฟุตบอลทีม ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อแฟรนไชส์เป็น วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส อย่างเป็นทางการ โดยทาง เจสัน ไรท์ ได้ยืนยันว่า นี่คือชื่อทีมที่สามารถสะท้อนตัวตนและมีความหมายต่อทีมอเมริกันฟุตบอลที่มีอายุยาวนาน 90 ปี ได้อย่างดีที่สุด
"นี่คือสิ่งที่สามารถเชื่อมโยงกับแฟน ๆ ของเราในวงกว้าง และเป็นบางสิ่งที่เราเชื่อว่าสามารถสะท้อนคุณค่าของการรับใช้ รวมถึงความเป็นผู้นำต่อพื้นที่วอชิงตัน ดีซี และชุมชนในละแวกนี้จริง ๆ" เจสัน ไรท์ กล่าวถึงความหมายของชื่อวอชิงตัน คอมมานเดอร์ส
ทันทีที่ชื่อ วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส ออกสู่สายตาสาธารณชน มันกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ และไม่ใช่ในทางที่ดีนัก โดยมีผู้ใช้งานแสดงความเห็นในทิศทางไม่ชอบใจชื่อใหม่ของทีมด้วยข้อความแตกต่างกันออกไป
ไม่ว่าจะเป็น "เรากลับไปใช้คำว่า ฟุตบอลทีม ได้ไหม", "ผมจะเรียกทีมนี้ว่า เรดสกินส์ ผมไม่แคร์หรอก", "เรารอคอยวันนี้มานาน 2 ปี เพื่อจะเห็นเราขโมยชื่อของทีมจากลีก AAF (ลีกอเมริกันฟุตบอลที่เปิดปีเดียวเจ๊ง) มาใช้" หรือ "ความคาดหวังที่พวกเรามีต่อคุณมันก็ต่ำแล้วนะ แต่ให้ตายเถอะ"
บางคนถึงกับล้อว่าการใช้ชื่อ คอมมานเดอร์ส เป็นการกระโดดไปอยู่ขั้วตรงข้ามกับชื่อเก่าอย่าง เรดสกินส์ อย่างสุดขั้ว เพราะต้องไม่ลืมว่า คอมมานเดอร์ส สื่อความหมายถึงผู้บังคับบัญชาทหารที่ไล่ฆ่าศัตรูในสงคราม แล้วคนกลุ่มใดล่ะที่นายทหารชาวอเมริกันกวาดล้าง หากไม่ใช่ชนพื้นเมืองอเมริกัน
ไม่ใช่แค่ชื่อทีมที่ถูกโจมตี แต่ชุดแข่งขันรวมถึงโลโก้ของพวกเขาก็ไม่รอดจากการโดนเล่นงานด้วยเช่นกัน โดยโลโก้ของ วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส ยังคงเป็นตัว W ธรรมดาที่แทบไม่แตกต่างจากตอนชื่อ วอชิงตัน ฟุตบอลทีม ส่วนชุดแข่งขันนั้นเรียบยิ่งกว่า แถมยังมีคำว่า คอมมานเดอร์ส ใหญ่โตอยู่กลางหน้าอก ทั้งที่แฟนคลับของทีมหลายคนแทบไม่มีความผูกพันกับคำนี้เลย
"คุณทำให้ทุกก้าวของการรีแบรนด์มันพังขนาดนี้ได้อย่างไร ไล่ตั้งแต่ชุดแข่งขัน โลโก้ และชื่อทีม ทุกอย่างได้ 0 คะแนน"
"ว้าว นี่มันแย่มาก พวกคุณมีโอกาสมากมายที่จะหาชื่อทีมและชุดแข่งขันที่มันดีกว่านี้", "ผมขอสั่งให้คุณเปลี่ยนชื่อของเรากลับไปเป็น ฟุตบอลทีม เดี๋ยวนี้" นี่คือตัวอย่างรีแอ็กชั่นของแฟน วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส ต่อการรีแบรนด์
แต่ไม่ว่าแฟนคลับของทีมจะว่าอย่างไร วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส จะกลายเป็นชื่อใหม่ของแฟรนไชส์หลังจากนี้ ซึ่งอย่างน้อยที่สุดมันได้แสดงถึงการเริ่มต้นใหม่ของทีม เพราะไม่เพียง วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส จะไม่สามารถเข้าสู่ซูเปอร์โบวล์มายาวนานกว่า 30 ปี ทีมยังเพิ่งมีเหตุการณ์อื้อฉาวครั้งใหญ่ที่แสดงถึงการล่วงละเมิดทางเพศในองค์กร จนทีมโดนสั่งปรับเงินไป 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส อาจไม่ใช่ชื่อใหม่ของทีมที่ผู้คนต้อนรับในเวลานี้ แต่หากทีมสามารถทำผลงานได้ใกล้เคียงกับประวัติศาสตร์ตลอด 90 ปีของทีม มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ผู้คนจะเปิดรับชื่อใหม่นี้เข้าไปในใจ
หลังจากนี้จึงขึ้นอยู่กับว่า วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส จะสามารถมัดใจแฟนคลับของทีมได้มากแค่ไหน กับการเริ่มต้นใหม่ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้