สำรวจความคิด : เทิดศักดิ์ ใจมั่น…กุนซือผู้ปลุกปั้นอุทัยธานีสู่ทีมไร้คู่ต่อกรในไทยลีก 3

สำรวจความคิด : เทิดศักดิ์ ใจมั่น…กุนซือผู้ปลุกปั้นอุทัยธานีสู่ทีมไร้คู่ต่อกรในไทยลีก 3

สำรวจความคิด : เทิดศักดิ์ ใจมั่น…กุนซือผู้ปลุกปั้นอุทัยธานีสู่ทีมไร้คู่ต่อกรในไทยลีก 3
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เทิดศักดิ์ ใจมั่น นี่คือชื่อที่แฟนฟุตบอลทั่วประเทศรู้จักกันดี ในฐานะตำนานกองกลางทีมชาติไทย ผู้ถือเป็นหนึ่งในนักเตะทักษะดีที่สุดที่ประเทศนี้เคยมีมา จนสามารถพาตัวเองออกไปประสบความสำเร็จในต่างประเทศตั้งแต่ในวันที่ไทยลีกยังไม่บูม 

แต่ในช่วงหลายปีหลังผู้ชายที่แฟนฟุตบอลไทยเรียกกันติดปากว่า “น้าเทิด” อาจหายไปจากความทรงจำของใครหลายคน เพราะเจ้าตัวเลือกเดินทางตามหาความความสำเร็จบนเส้นทางสายกุนซืออย่างเงียบ ๆ กับทีมในระดับลีกรองที่ไม่มีสื่อกระแสหลักสนใจมากนัก

อุทัยธานี เอฟซี ทีมฟุตบอลขนาดเล็กจากศึกไทยลีก 3 โซนภาคเหนือ คือบ้านหลังปัจจุบันของเฮดโค้ชวัย 48 ปี อดีตมิดฟิลด์ชื่อดังร่วมหัวจมท้ายกับทีมนี้มาแล้ว 2 ฤดูกาล จาก 2 ลีก โดยเป็นส่วนหนึ่งของทีมในฤดูกาลที่ตกชั้น และเป็นส่วนสำคัญในวันที่ทีมคว้าแชมป์

ทัพช้างป่าห้วยขาแข้งสร้างกระแสในวงการฟุตบอลไทย หลังคว้าแชมป์ไทยลีก 3 โซนภาคเหนือ แบบม้วนเดียวจบ โดยทิ้งห่างอันดับสองในวันที่คว้าแชมป์ถึง 12 แต้ม และที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นคือ บรรดาขุนพลของ อุทัยธานี เอฟซี เต็มไปด้วยนักเตะอาวุโสที่มีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน

 

ไม่ว่าจะเป็น ดัสกร ทองเหลา, มงคล ทศไกร, วัฒนา พลายนุ่ม, กีรติ เขียวสมบัติ, สุทธินันท์ พุกหอม, จิตปัญญา ทิสุด และ ณรงค์ จันทร์เสวก ทั้งหมดต่างเดินทางมารวมตัวกันเพื่อช่วยให้ทีมฟุตบอลแห่งนี้เลื่อนชั้นกลับสู่ไทยลีก 2 อีกครั้ง

Main Stand จะพาไปสำรวจความคิดของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น แม่ทัพคนปัจจุบันของอุทัยธานี เอฟซี ถึงบทเรียนที่เขาได้รับจากช่วงเวลากับทีมหนแรก, แนวทางการทำทีมอันเป็นเบื้องหลังของความสำเร็จ และการร่วมงานกับนักเตะรุ่นเก๋าในลีกฟุตบอลอาชีพระดับต่ำสุดของประเทศไทย

ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยว่า อะไรทำให้ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ตัดสินใจรับตำแหน่งเฮดโค้ชของอุทัยธานี เอฟซี ถึงสองครั้ง

ย้อนกลับไปปี 2020 ตอนนั้นผมทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชให้กับมาสเซอร์จเด็จ (จเด็จ มีลาภ) อยู่ที่การท่าเรือ หลังจากมาสเซอร์จเด็จลาออก ผมจึงตัดสินใจลาออกมาด้วย พอลาออกมาได้เดือนเดียวทางอุทัยธานีก็ติดต่อมาหา ชวนให้ผมเข้ามาคุมทีมซึ่งฤดูกาลที่แล้วเล่นอยู่ในไทยลีก 2

ก่อนที่ผมจะเข้ามา อุทัยธานี ยังไม่ชนะใครเลยมีแต่เสมอกับแพ้ ทางทีมก็วางเป้าหมายและคุยกับผมว่าต้องทำอย่างไรทีมถึงจะรอดตกชั้น ผมก็มองว่าถ้าเราพยายามสร้างแรงจูงใจกับผู้เล่นหลายคนให้พวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือทีม มันก็น่าลองดูว่าเราจะพาทีมก้าวไปได้ถึงไหน

 


Photo : facebook.com/uthaithanifc

ช่วงแรกที่ผมเข้ามาทำงาน ทีมก็ยังมีแต่เสมอกับแพ้อยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งช่วง 3 นัดสุดท้ายของเลกแรก ผมสามารถพาทีมชนะ 2 นัด เสมออีก 1 นัด มันก็ทำให้เรากลับมามีลุ้นหนีตกชั้นอีกครั้ง แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างทำให้ผมตัดสินใจลาออกจากทีม

หลังจากนั้นผมก็ยังได้พูดคุยกับทางสโมสรมาตลอด เพราะอุทัยธานีอยากให้เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการอคาเดมี เมื่อทีมหล่นลงมาไทยลีก 3 ทางผู้ใหญ่ก็มีเป้าหมายอยากให้ทีมเลื่อนชั้นกลับไปไทยลีก 2 ภายในปีเดียว เขาก็โทรมาถามว่า “น้าทำได้ไหม ?” ผมก็ตอบว่า ทำได้ครับ แต่คราวนี้ผมต้องขอดูตัวผู้เล่นก่อน

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณลงมารับงานกับอุทัยธานีในไทยลีก 3 ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณมีประสบการณ์คุมทีมไทยลีกอย่าง ชลบุรี เอฟซี

ผมมองว่าการเป็นโค้ช เราต้องรู้จักหาประสบการณ์ ไม่สำคัญว่าจะเป็นลีกไหน ไทยลีก, ไทยลีก 2 หรือ ไทยลีก 3 เราก็ต้องเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเป็นโค้ชของเรา ทั้งหมดมันเป็นการฝึก ทุกอย่างคือการเรียนรู้ เรื่องนี้ผมว่าคือสิ่งสำคัญ

 


Photo : facebook.com/uthaithanifc

ในสายตาของผมโค้ชทุกคนต้องการชัยชนะ แม้จะมีปรัชญาการทำทีมไม่เหมือนกัน แต่ท้ายที่สุดทุกคนต้องการความสำเร็จ ทุกคนต้องการความยั่งยืน ผมไม่คิดว่ามันขึ้นอยู่กับระดับของลีกแต่ขึ้นอยู่กับแนวทางของสโมสร ซึ่งแต่ละที่จะไม่เหมือนกัน อย่าง ชลบุรี คือทีมที่อยากปั้นเด็ก ถ้าทำผลงานดีจึงถือว่าเป็นโบนัส ส่วน บุรีรัมย์ เป้าหมายของเขาคือต้องคว้าแชมป์ลีกทุกปี

เวลาผมไปรับงานผมแค่ต้องรู้ว่าสโมสรต้องการอะไร เราจะเลือกผู้เล่นประมาณไหนหรือผู้เล่นของทีมมีความเหมาะสมกับเป้าหมายที่ทีมตั้งไว้มากแค่ไหน

คุณจะเรียนรู้อะไรบ้างจากการคุมทีมอุทัยธานีรอบแรก ช่วยเล่าประสบการณ์ตรงนั้นให้เราฟังหน่อย

ถ้าถามว่าบทเรียนสำคัญอะไรที่ผมเรียนรู้ สิ่งนั้นคือการทำทีมโดยที่เราไม่ได้เลือกตัวผู้เล่นเองตั้งแต่แรก คือฤดูกาลที่แล้วผมไม่ได้ทำงานร่วมกับทีมตั้งแต่ต้น ผมเข้ามารับงานในช่วงระหว่างฤดูกาล ซึ่งการทำทีมฟุตบอลเนี่ยถ้าเราได้เลือกตัวผู้เล่นเอง ได้เลือกสิ่งที่ต้องการเอง ได้เลือกแพตเทิร์นของเราเอง ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดี โค้ชทุกคนก็อยากเป็นแบบนั้น

 


Photo : facebook.com/uthaithanifc

แต่ประเด็นตอนนั้นอยู่ที่ว่า เรารับงานมาแล้วก็ต้องทำให้มันดีที่สุด มันไม่มีข้อแก้ตัวว่าผมไม่ได้เลือกตัวมาเอง เรื่องนั้นไม่เกี่ยว เมื่อเรารับงานมาทำแล้วเราต้องทำให้ได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ผมก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ

แล้วคุณมองว่าการเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ตกชั้นเมื่อฤดูกาลก่อน ถือเป็นความล้มเหลวในอาชีพโค้ชหรือไม่?

สำหรับผลงานในฤดูกาลก่อนถ้าถามผมว่าล้มเหลวไหม ผมว่าจะพูดแบบนั้นก็พูดได้ไม่เต็มปากนะ เพราะถ้าผมล้มเหลวจริงนั่นคือทีมของเราต้องแพ้ทั้งหมด แต่ผมพาทีมคว้าชัยชนะได้หลายนัดเพียงแค่เราอาจจะแพ้เยอะกว่าหรือเสมอมากหน่อย ซึ่งการที่ผมสามารถช่วยให้อุทัยธานีที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยชนะใครเลยสามารถกลับมามีลุ้นหนีตกชั้นได้ ผมไม่คิดว่านี่เป็นผลงานที่ล้มเหลว

กดดันมากน้อยแค่ไหนกับการกลับมาคุมอุทัยธานีหนที่สอง เพราะเป้าหมายครั้งนี้แตกต่างออกไปจากเดิมมาก เพราะรอบแรกคือหนีตกชั้น ส่วนปัจจุบันคือต้องการเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2

 


Photo : facebook.com/uthaithanifc

ผมเชื่อว่าโค้ชฟุตบอลไทยทุกทีมพวกเขามีความกดดันกันทุกคน คุณคุมทีมหนีตกชั้นคุณก็กดดัน คุณคุมทีมในระดับลุ้นแชมป์คุณก็กดดัน คือมันกดดันเท่ากันหมด แต่ความแตกต่างอยู่ที่ว่าคุณจะรับมือกับความกดดันนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

วงการฟุตบอลมันมีแค่สามอย่างคือ ชนะ เสมอ และแพ้ วันนี้เราอาจจะแพ้แต่พรุ่งนี้เราอาจจะชนะ การจะบอกว่าเราต้องคว้าชัยชนะทุกแมตช์เรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้ ผมจึงมองว่าฟุตบอลมันคือความท้าทาย ไม่ว่าจะคุมทีมลุ้นเลื่อนชั้นหรือหนีตกชั้น โจทย์สำคัญคือคุณต้องมีการวางแผนและเตรียมทีมที่ดี

อะไรคือส่วนสำคัญที่สุดในการสร้างทีมตามปรัชญาฟุตบอลของคุณ

สำหรับผมการสร้างทีมฟุตบอลที่ดีตัวผู้เล่นสำคัญอันดับหนึ่งไม่มีอะไรสำคัญมากกว่านี้ เพราะว่าผลงานในสนามเกิดจากผู้เล่นลงไปเตะฟุตบอลในสนาม ในความคิดของผมผู้เล่นจึงเป็นส่วนสำคัญที่สุด เราต้องวางแผนก่อนว่าตัวผู้เล่นในฤดูกาลนี้จะต้องเป็นไปในแนวทางแบบไหน เราต้องการมีผู้เล่นที่สามารถพยุงทีมหรือทำให้ทีมมันเดินต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการติดกระดุมเม็ดแรก ถ้าติดเม็ดแรกถูกทุกอย่างที่ตามมามันก็ถูก แต่ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิดถึงเราจะลงมือแก้ไขความผิดพลาดมันก็คือการแก้ไขไปเรื่อย ดังนั้นการเลือกตัวผู้เล่นจึงสำคัญมาก เช่นเดียวกับการประเมินเป้าหมายของเราให้ถูก บางทีเราอาจจะเลือกผู้เล่นผิดก็ได้ในตอนแรก แต่ในเลกที่สองเราก็ยังสามารถจะปรับเปลี่ยนได้


Photo : facebook.com/uthaithanifc

สิ่งสำคัญคือเราต้องมีเป้าหมายชัดเจนไว้ก่อนว่าเราอยากไปตรงไหนในฤดูกาลนี้ อย่างเป้าหมายของอุทัยธานีในฤดูกาลปัจจุบันคือเลื่อนชั้น ผมก็รู้แล้วว่าต้องเซ็นตัวประเภทไหน ถ้าเป้าหมายของผมอยู่ที่กลางตาราง ผมก็รู้แล้วว่าผมต้องเอาตัวประเภทไหนมา บางทีเราอาจจะเลือกผู้เล่นผิดก็ได้ในตอนแรก แต่ถ้าเรารู้เป้าหมายของตัวเองชัดเจนเลกที่สองมันก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้

คุณคว้าตัวนักเตะชื่อดังที่อายุมากหลายคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุทัยธานี อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณเซ็นสัญญานักเตะเหล่านี้เข้ามาสู่ทีม

ถ้าถามผมเรื่องตัวผู้เล่นตอนเปิดตัวนักเตะที่เราเซ็นมา แฟนบอลเขาก็มองว่าผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นนักเตะชื่อดังก็จริงแต่ก็เป็นคนอายุเยอะ ซึ่งในมุมมองของผมฟุตบอลมันไม่เกี่ยวกับอายุ ทุกอย่างวัดกันจากผลงานในสนาม ผลงานในสนามสำคัญที่สุด ถึงคุณจะอายุ 50 หรือ 60 ปี แต่ถ้าคุณยังเล่นฟุตบอลเก่งกว่าคนอายุ 18 ผมก็เลือกเขา

เหมือนที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่า สิ่งสำคัญคือเราต้องมองเป้าหมายของเราให้ถูกต้อง ซึ่งเป้าหมายของอุทัยธานีคือ ผู้บริหารอยากเลื่อนชั้นภายในปีเดียว ถ้าเป้าหมายของเราเป็นการพัฒนาทีมในระยะยาว แน่นอนว่าเราต้องใช้เด็ก แต่ในเมื่อเป้าหมายของทีมเป็นแบบนี้เราก็ต้องยึดเรื่องนั้นเป็นสำคัญ


Photo : facebook.com/uthaithanifc

สำหรับฤดูกาลนี้ผมก็พออาศัยน้องที่รู้จักกันซึ่งสามารถดึงตัวเขามาเล่นได้ คือเราต้องเข้าใจก่อนว่ามันเป็นเรื่องยากถ้าผมจะเอาผู้เล่นจากไทยลีกหนึ่งลงมา โดยเฉพาะผู้เล่นจากสโมสรใหญ่ เพราะว่าน้อง ๆ หลายคนเขายังไม่อยากลงมา เขายังอยากเล่นไทยลีกอยู่ เรื่องนี้ผมเข้าใจดี 

เราก็ต้องมองหานักเตะที่สามารถลงเล่นในระดับนี้ได้ สามารถพยุงทีมได้ตลอดรอดฝั่ง สามารถรับมือกับฟุตบอลในไทยลีก 3 ได้ เพราะผมต้องการสร้างขุมกำลังที่สามารถจะสู้กับทุกทีมในลีกได้

แต่ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้หมายความว่าผมไม่ใช้เด็ก เพราะเราก็มีเด็กในทีมเยอะเพื่อสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นกับทีมมากที่สุด เมื่อบวกกับโควตาของฟุตบอลไทยลีก 3 ที่ต้องส่งผู้เล่นต่ำกว่า 23 ปีลงสองคน ผมจึงต้องส่งผู้เล่นเหล่านั้นลงสนามตามกฎ ซึ่งเรามีผู้เล่นส่วนนี้อยู่ประมาณ 7-8 คนไว้ในทีม

ผมเห็นหลายทีมนะที่ให้เด็กลงไปเล่น 5 นาทีแล้วเปลี่ยนออก ซึ่งผมจะไม่ทำอย่างนั้น ถ้าเขาพิสูจน์ว่าตัวเองเล่นได้ ผมจะให้เขาเล่นตลอดทั้งเกมเพื่อเป็นการพัฒนาเด็กไปด้วยในตัว

อะไรคือสิ่งที่คุณมองหาในบรรดาผู้เล่นที่คุณดึงตัวเข้ามาสู่ทีม

ผมมองว่านักฟุตบอลทุกคนที่ผมเลือกมา ถึงจะเป็นคนมีประสบการณ์ เป็นคนมีอายุเยอะ พวกเขาก็เป็นคนที่อยากจะเล่นฟุตบอลตลอดเวลา อยากจะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา อยากจะพิสูจน์ฝีเท้าให้ทุกคนเห็นว่าพวกเขาไม่ใช่ผู้เล่นที่มีอายุเยอะ

มีหลายคนมองว่าตัวผู้เล่นของผมมันเป็นตัวระดับไทยลีก แต่พูดกันตรง ๆ ถ้านักเตะเหล่านี้เป็นตัวระดับไทยลีกจริงเขาไม่ลงมาเล่นให้ทีมผมหรอกครับ เขาก็ไปเล่นในไทยลีกแล้ว มันไม่มีนักบอลที่ไหนอยากเล่นลีกต่ำกว่า ถ้าเป็นผม ผมก็อยากเล่นไทยลีก


Photo : facebook.com/uthaithanifc

นักเตะที่ผมเลือกมาจึงเป็นคนที่อยากจะเล่นฟุตบอลจริง ๆ  พวกเขาอยากจะโชว์ฝีเท้า อยากจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสโมสร ถ้าคุณลองไปถามนักฟุตบอลแต่ละคนของอุทัยธานี ทุกคนจะบอกว่าเขามาอยู่ที่นี่แล้วเขามีความสุข บรรยากาศในทีมของเราดีมาตลอดทั้งฤดูกาล เพราะทุกคนมีความมุ่งมั่น มีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งมันก็ตรงกับที่ผมย้ำว่า เป้าหมายของทีมคือสิ่งสำคัญ เราต้องสร้างแรงกระตุ้น สร้างเป้าหมายให้กับทีม สร้างเป้าหมายให้ผู้เล่นเห็นตรงกัน

ทุกคนรู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะควบคุมนักเตะอาวุโส อะไรคือเคล็ดลับของคุณในการควบคุมนักเตะเหล่านี้

การควบคุมนักเตะอายุเยอะไม่ใช่เรื่องง่าย มันสำคัญว่าเราจะหาวิธีคุยกับเขาอย่างไร ทำให้เขาให้ใจเราได้อย่างไร ตัวผมเป็นคนที่มีอะไรก็คุยกันเหมือนพี่น้อง นอกสนามเราสนุกสนานกัน แต่เวลาทำงานเราก็จริงจัง ถ้าจะดุด่าว่ากล่าวก็ว่ากันต่อหน้าเลย ไม่ใช่พูดกันลับหลัง


Photo : facebook.com/uthaithanifc

ผมจะบอกกับน้องในทีมทุกคนว่า ถ้าคุณเล่นไม่ดีคือเล่นไม่ดี คุยกันตรงนั้นเลย จะได้เข้าใจตรงกันทั้งหมดว่าหน้าที่ของคุณคือเล่นให้เต็มที่ ผมจะไม่ชมว่านักเตะของผมเล่นดีทั้ง ๆ ที่วันนี้คุณเล่นไม่ดี เราไปพูดแบบนั้นไม่ได้ คือนักฟุตบอลทุกคนชอบคำชมจากโค้ชหมด แต่คำชมแบบนี้มันเหมือนกับไปทำร้ายเขาทีหลัง

ผมเห็นผู้เล่นทุกคนสำคัญ ผมถึงบอกว่าฟุตบอลมันไม่มีเด็กไม่มีผู้ใหญ่ ไม่มีกฎที่ไหนบอกว่านักฟุตบอลรุ่นใหญ่ห้ามวิ่ง ผู้ใหญ่ก็ต้องวิ่งเหมือนเด็ก ถ้าคุณไม่วิ่งคุณคือคนแก่ แต่ถ้าคุณวิ่งคุณไม่ใช่คนแก่ แค่นั้นเอง ถ้าคุณวิ่งสู้กับเด็กได้หรือคุณแสดงให้เด็กรู้ว่าคุณสามารถวิ่งได้มากกว่า มันก็ไม่มีอะไรแตกต่าง อายุของนักฟุตบอลแต่ละคนไม่ใช่ตัวตัดสิน สุดท้ายผลงานในสนามสำคัญที่สุด

คุณภูมิใจมากแค่ไหนกับผลงานของ อุทัยธานี เอฟซี ในฤดูกาลนี้

สิ่งที่ผมพอใจมากในฤดูกาลนี้คือ อุทัยธานี สามารถคว้าแชมป์โซนเหนือ ก่อนการแข่งขันจบถึง 4 แมตช์ ซึ่งผมมองว่าเป็นผลงานที่ไม่มีทีมไหนทำได้ในรอบหลายปี

แต่ผลงานสำคัญที่มันตอบแทนความทุ่มเทของเราคือการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลถ้วยทั้งสองรายการ ซึ่งตอนนั้น มีหลายคนพูดกันเยอะมากว่าทีมอุทัยธานีมาจากไหน ไม่มีใครคิดว่าทีมแบบนี้จะผ่านเข้ามารอบนี้ได้ เพราะเรามีแต่ผู้เล่นอายุเยอะ

Photo : facebook.com/uthaithanifc

ถ้าผมเป็นคนนอกผมก็เซอร์ไพรส์นะ เฮ้ย ทีมนี้มันมาจากไหน ก่อนจะเตะมีแต่คนตั้งคำถาม มีแต่คนบอกว่าสู้เขาไม่ไหวหรอก แต่ฟุตบอลมันอยู่ที่ผลงานในสนาม เราแสดงให้เห็นว่าเราสามารถชนะหนองบัวได้ เราสามารถชนะเมืองทองไปกลับ คือถ้าจะบอกว่าฟลุ๊ค ผมว่ามันก็ไม่น่าใช่ละ

พูดตามตรงตัวผมเองก็ยังไม่คาดคิดว่าทีมเราต้องชนะเมืองทองทั้งสองแมตช์ เพราะอุทัยธานีเป็นทีมเล็ก เราเป็นทีมไทยลีก 3 เราเป็นทีมที่ผู้เล่นอายุเยอะ ส่วนเมืองทองเป็นทีมที่อยู่ไทยลีกมานาน คว้าแชมป์มาไม่รู้กี่สมัย จะบอกว่าเขาไม่คาดหวังกับฟุตบอลถ้วยมันเป็นไปไม่ได้ พวกเขาหวังแน่นอน เรื่องนี้ทำให้ผมภูมิใจมากที่สามารถเก็บชัยชนะมาได้

หากเลือกสักหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อุทัยธานีประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้ คุณจะเลือกอะไร

ความกระหายที่จะลงเล่น กับ ความร่วมแรงร่วมใจ ถ้าคุณเก่งทั้งทีมแต่คุณไม่อยากจะเล่น มันไม่มีทางหรอกครับที่จะชนะทีมที่เขาอยากจะเล่นฟุตบอล ผมว่ามันเท่ากัน ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น คือสิ่งสำคัญที่สุด


Photo : facebook.com/uthaithanifc

อะไรคือเป้าหมายต่อไปของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น บนเส้นทางเฮดโค้ช

ตอนนี้ผมแค่อยากพาอุทัยธานีขึ้นไปไทยลีก 2 หลังจากนั้นเราค่อยมาคุยเรื่องเป้าหมายอื่นกัน เพราะความเปลี่ยนแปลงในฟุตบอลไทยมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมอาจจะไม่ได้คุมอุทัยธานีในไทยลีก 2 ก็ได้ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ 

ผมแค่อยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดพอ ทุ่มเททุกอย่างให้เต็มที่ ทำให้สมกับที่เขาจ่ายเงินเดือนให้เรา การทำงานไม่ต้องคิดอะไรมาก เขาให้เงินเดือนเราเราก็ทำงานตอบแทนเขาให้เต็มที่แค่นั้นเอง


Photo : facebook.com/uthaithanifc

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook