ท็อปโฟร์ยอมไม่ได้...?
การแย่งชิงพื้นที่ท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ดุเดือดเลือดพล่านทีเดียว ทีมที่มีโอกาสในเป้าหมายดังกล่าวเรียงรายกันอยู่โดยมีระยะห่างในแต่ละอันดับใกล้กันมากๆ อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เซาแธมป์ตัน และ สเปอร์ส ล้วนแล้วแต่โฟกัสไปที่จุดหมายเดียวกัน
แต้มที่ใกล้กันมากขนาดนี้มีโอกาสที่สถานการณ์จะพลิกผันไปเรื่อย ผลการแข่งขันแต่ละนัดมีโอกาสทำให้อันดับสลับกันไปมาได้ ภาพรวมๆในตอนนี้เป็นอย่างไรลองมองภาพกันก่อนครับ เพราะช่วงเวลาท้ายฤดูกาลจริงๆนั้นน่าจะมีการวิเคราะห์โอกาสกันละเอียดยิบ
อาร์เซนอล...
ได้รับการคาดหมายไว้ว่าน่าจะจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 ของตาราง ทว่ามากไปกว่านั้นหากเรือใบพลาดอีกสักครั้งอาจจะคาดหวังถึงอันดับ 2 กันเลยทีเดียวทำเป็นเล่นไป
เพราะฉะนั้นทิศทางของปืนโตค่อนข้างแข็งแกร่งกับการเป็นเจ้าประจำของแชมเปี้ยนส์ ลีก ต้นเดือนหน้าดวลกับลิเวอร์พูล ว่ากันว่าเป็นเกมที่สำคัญมากๆ ถ้าปืนโตผ่านแมตช์ดังกล่าวได้หมายถึงการไปสุดทางแบบบรรลุเป้าหมาย
สถานการณ์อื่นๆของอาร์เซนอลตั้งแต่คริสต์มาสเป็นต้นมาแทบไม่มีเกมที่เจ๊าคู่แข่งให้เห็นเลย เพราะฉะนั้นแต้มหล่นเรี่ยราดจึงไม่เกิดขึ้น ปัจจัยแบบนี้สำคัญมากๆ
ในขณะเดียวกัน ซานติ กาซอร์ล่า ถอยต่ำลงมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางร่วมกับ โกเกอแล็ง สามารถสร้างสรรค์โอกาสได้เยอะมาก ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ กาซอร์ล่า ยกระดับความมั่นใจในการไปให้ถึงเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด...
สิ่งที่ชัดเจนมากที่สุดสำหรับค่ายโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็คือ ถึงนาทีนี้ หลุยส์ ฟาน ฮัล ยังคงเอาชนะใจแฟนบอลผีแดงไม่ได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผีแดงทีมนี้กลับมาเป็นทีมที่แพ้ยากมากกว่าช่วงออกสตาร์ทแบบจะแจ้ง
ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วผีแดงแพ้ให้คู่แข่งแค่ 3-4 นัดเท่านั้น หลังจากสัปดาห์ก่อนโน้นที่พ่ายให้กับสวอนซี ฟาน ฮัล พาทีมกลับมาได้แบบทันควันด้วยการเอาชนะซันเดอร์แลนด์
การกลับมาให้เร็วที่สุดแบบนี้คือเรื่องราวเบื้องต้นที่ทีมใหญ่ทั้งหลายต้องทำให้ได้ โปรแกรมที่ถูกกำหนดเอาไว้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่างานใหญ่และหนักหนาสาหัส
แมตช์สุดท้ายของฤดูกาลเจอฮัลล์ ซิตี้ ทว่าระหว่างทางโดยเฉพาะคิวอันใกล้ต้องผ่านศึกใหญ่กับสเปอร์ส, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี เกือบจะเป็นคิวต่อเนื่องมีวิลล่าเข้ามาแทรกนัดเดียว
ความคาดหวังของหลุยส์ ฟาน ฮัล คงต้องการสกอร์ที่ต่อเนื่องของกัปตันหมู เวย์น รูนี่ย์ ที่ถูกผลักดันให้ขึ้นมาเล่นแดนหน้าอีกครั้ง หลังจากจับไปเล่นในตำแหน่งอื่นๆที่ห่างไกลประตูคู่แข่งจนไม่มีสกอร์ให้เห็นถึง 8-9 นัด
ฟาน ฮัล คงเห็นแล้วว่าปัญหาแดนหน้าของทีมต้องไว้วางใจใครให้ทำหน้าที่เพื่อหนุนทีมไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ
ลิเวอร์พูล...
เป็นทีมหนึ่งที่ฟอร์มจัดจ้านมากในตอนนี้ หลายคนมองว่ามาถูกที่ถูกเวลาอย่างยิ่งหลังจากไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ ลีก 11 นัด (เจอเบิร์นลี่ย์เมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้างไม่รู้เหมือนกัน)
วันที่ 22 มีนาคมและ 4 เมษายน ต่อเนื่องกัน 2 นัดที่หงส์แดงเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอล ถ้าเก็บได้สัก 3 แต้มหรือมากกว่านั้นโอกาสชัดเจนทันที
การกลับมาฟิตอีกครั้งของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่สามารถสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น สเตอร์ลิ่งและคูตินโญ่ ผ่อนคลายจากภาระที่แบกเอาไว้ได้มาก
หลังจากออกสตาร์ทแบบแผ่วๆพร้อมกับฟอร์มที่น่าผิดหวังของทีม คูตินโญ่ ยกระดับเกมของตัวเองขึ้นมาส่งผลกระทบด้านบวกให้กับลิเวอร์พูล อยู่ที่ว่าสามารถรักษามาตรฐานไปจนจบฤดูกาลได้หรือเปล่า
เซาแธมป์ตัน...
เกมคืนวันอังคารสามารถเก็บ 3 แต้มเต็มจากคริสตัล พาเลซ ทำให้ทีมมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าความคาดหวังโดยรวมยังคงถูกมองว่าอาจจะหนักหนาเกินตัวในการลุ้นพื้นที่ถ้วยใหญ่ยุโรป
เกมที่ต้องออกนอกบ้านไปเยือนเชลซี, เอฟเวอร์ตัน และ สโต๊ค ที่รออยู่ เป็นโปรแกรมที่นักบุญต้องต่อสู้และดิ้นรนให้ได้มาซึ่งผลการแข่งขันที่ต้องการ
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชี้ให้เห็นความชัดเจนในความคาดหวังของเซาแธมป์ตัน โรนัลด์ คูมัน ต้องพยายามอีกเยอะโดยเฉพาะปัญหาเรื่องของการจบสกอร์
เอาชนะคู่แข่งแบบเบียดนิดเดียวบ่อยครั้งมาก ที่ผ่านมาอาจจะเก็บ 3 แต้ม ทว่าสถานการณ์เหล่านั้นในวันข้างหน้าพร้อมที่จะทำแต้มหล่นตลอดเวลา
กราเซียโน่ เปลเล่ ออกสตาร์ทได้แข็งแกร่งมากๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ที่นักเตะใหม่จะสร้างความหวือหวาในช่วงแรกก่อนจะแผ่วลงไปเรื่อยๆ
ถ้าฟอร์มการยิงประตูของ เปลเล่ ยังไม่กระเตื้องขึ้นมาโดยเร็ว ความคาดหวังจะสวนทางทันที โรนัลด์ คูมัน จะแก้ปัญหานี้ได้หรือเปล่า ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม
สเปอร์ส...
เริ่มต้นปีใหม่ด้วยเกมที่เอาชนะเชลซีแบบตื่นเต้นสนุกสนานด้วยสกอร์ 5-3 เหมือนจะบอกให้โลกรู้ว่าฟ้าเปิดแล้วสำหรับค่ายไก่ในเล้า
ทว่าหลังจากนั้นสเปอร์สฟอร์มไม่นิ่งอย่างที่ควรจะเป็นสวิงไปมาจนจับความแน่นอนไม่ได้ ในฟุตบอลถ้วยโดนเลสเตอร์สอยร่วงเอฟเอคัพ ฟิออเรนติน่าปิดเส้นทางไปต่อในยูโรป้าลีก ตามด้วยพ่ายให้กับเชลซีในนัดชิงแคปิตอล วัน คัพ
ที่ผ่านมายังไม่ใช่เวลาที่แย่ที่สุดก็ได้ การพลาดพลั้งเป้าหมายท็อปโฟร์อาจจะเป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุดที่สเปอร์สเจอะเจอในฤดูกาลนี้
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และลูกทีมต้องเร่งตัวเองกลับมาอีกครั้งเพื่อเกาะติดเส้นทาง เกาะติดสถานการณ์เอาไว้อย่างเข้มแข็ง
แฮร์รี่ เคน หัวหอกที่เป็นความหวังสูงสุดในฤดูกาลนี้ต้องมีผู้ช่วยแบ่งเบาหน้าที่ นอกจากนี้ต้องดูแลให้ดี อย่าให้กรอบหรือใช้งานจนล้าในช่วงเวลาที่ทีมต้องการประตู ต้องการแต้มเป็นที่สุด กองหน้าคนนี้คือปัจจัยสำคัญจริงๆ
ดามัน
