เชลซีดับฟูแล่มยิงแซงชนะ2-1ทิ้งผีแดง5แต้ม

เชลซีดับฟูแล่มยิงแซงชนะ2-1ทิ้งผีแดง5แต้ม

เชลซีดับฟูแล่มยิงแซงชนะ2-1ทิ้งผีแดง5แต้ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ทีมจ่าฝูงสามารถพลิกสถานการณ์เป็นฝ่ายเปิดบ้านยิงแซงชนะ เจ้าสัวน้อย ฟูแล่ม 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา แถมยังทำคะแนนทิ้งห่าง ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูงเพิ่มเป็น 5 แต้มอีกด้วย ขณะที่ เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ โชว์ฟอร์มเฉียบบุกไปถล่มชนะ หมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน แบบขาดลอยถึง 3-0

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมจ่าฝูงสามารถเก็บชัยชนะในศึก "ลอนดอนดาร์บี้แมทช์" ได้แบบหวุดหวิด หลังเปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เฉือนชนะ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ทีมคู่แข่งร่วมเมืองเดียวกัน 2-1 แม้ต้องเป็นฝ่ายโดนทีมเยือนซัดประตูขึ้นนำไปก่อนจาก โซลตัน เกรา ตั้งแต่นาที 4 แต่ทว่าเจ้าถิ่นกลับสามารถพลิกสถานการณ์ยิงแซงในช่วงครึ่งหลังได้ทีเดียวถึง 2 ลูกรวดจากฝีเท้าของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา นาที 73 และการสกัดพลาดทำเข้าประตูตัวเองของ คริส สมอลลิงก์ นาที 75

ส่งผลให้ เชลซี ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้เหมือนเดิม แข่ง 20 นัด มี 45 แต้ม แถมยังสามารถทำคะแนนหนีห่าง "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูงเพิ่มเป็น 5 แต้มอีกด้วย แม้จะลงสนามมากกว่า 1 นัดก็ตาม ขณะที่ ฟูแล่ม ยังคงอยู่อันดับ 9 แข่ง 19 นัด มี 27 แต้ม

หลังจบเกม "คาร์เล็ตโต้" คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ "สิงโตน้ำเงินคราม" กล่าวชื่นชมฟอร์มการเล่นของลูกทีมทุกคนที่พร้อมฮึดสู้ในช่วงครึ่งเวลาหลังจน สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้สำเร็จ แม้ช่วงครึ่งแรกจะเล่นกันได้แบบผิดหวังจนต้องเป็นฝ่ายโดนยิงประตูขึ้นนำไป ก่อนก็ตาม แต่สุดท้ายลูกทีมของเขาก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า เชลซี เหมาะสมกับตำแหน่งจ่าฝูงมากที่สุด

"แม้เราจะทำผลงานในเกมนัดนี้ได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะเราต้องเป็นฝ่ายตามหลังทีมคู่แข่งไปก่อน แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เรากลับมาเป็นฝ่ายชนะก็คือ ฟอร์มการเล่นในช่วงครึ่งเวลาหลังที่สามารถเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือ เกิน ผมไม่รู้สึกโกรธกับผลงานในช่วงครึ่งเวลาแรก เพราะผมรู้ดีว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะเล่นกับทีมคู่แข่งอย่าง ฟูแล่ม แต่ผมก็รู้สึกพอใจกับผลการแข่งขันนัดนี้ เพราะเราสามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงบนหัวตารางคะแนนเอาไว้ได้ต่อไปนั่นเอง"

ขณะที่ "มันโช่" โรแบร์โต้ มันชินี กุนซือคนใหม่ของ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ สามารถนำทีมเก็บชัยชนะได้เป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน หลังบุกไปถล่ม "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน ถึงถิ่นโมลินิวซ์ กราวด์ 3-0 โดยทีมเยือนได้ทั้ง 3 ประตูจากฝีเท้าของ คาร์ลอส เตเบซ คนเดียว 2 ลูก นาที 33, 86 และ ฮาเบียร์ การ์ริโด นาที 69 จึงทำให้ "เรือใบสีฟ้า" แข่ง 19 นัด มี 35 แต้ม เท่ากับ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 5 แต่ทว่า แมนฯ ซิตี้ ยังคงต้องรั้งอันดับ 6 ต่อไปเหมือนเดิม เพราะมีผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่า วิลล่า เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น ด้าน "หมาป่า" ยังคงอยู่อันดับ 15 แข่ง 20 นัด มี 19 แต้มเท่าเดิม

ส่วนผลคู่อื่น "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส เปิดบ้านชนะ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม 2-0 โดยเจ้าถิ่นได้ทั้ง 2 ประตูจาก ลูกา โมดริช นาที 11 และ เจอร์เมน เดโฟ นาที 81, "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เฝ้ารังชนะ "คลาเรตส์" เบิร์นลีย์ 2-0 โดยเจ้าถิ่นได้ทั้ง 2 ลูกจาก เจมส์ วอห์น นาที 83 และ สตีเวน พีนาร์ นาที 90, "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น เปิดบ้านเสมอ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ 2-2 โดยเจ้าถิ่นได้ทั้ง 2 ลูกจาก มอร์เทน พีเดอร์เซน นาที 53 และ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ นาที 77 ส่วนทีมเยือนได้ประตูจากฝีเท้าของ ดาร์เรน เบนท์ คนเดียวทั้ง 2 เม็ด นาที 52 และ 65, "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ "ตราลูกโลก" เบอร์มิงแฮม คาถิ่นของตัวเอง 0-1 โดยทีมเยือนได้ประตูชัยจาก คาเมรอน เฌอโรม นาที 50

ด้านความเคลื่อนไหวก่อนเกมศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงคืนวันพุธที่ 30 ธันวาคมนี้ ซึ่งมีโปรแกรมฟาดแข้งทั้งหมด 2 คู่ เริ่มจาก "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูง แข่ง 19 นัด มี 40 แต้ม เตรียมเปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "ลาติกส์" วีแกน ทีมอันดับ 16 แข่ง 18 นัด มี 19 แต้ม ในเวลา 03.00 น.

ส่วนศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คืนวันอังคารที่ 29 ธันวาคมนี้ มีโปรแกรมฟาดแข้ง 2 คู่ เริ่มจาก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เจอศึกหนักต้องยกพลบุกไปเยือนสนามวิลล่า ปาร์ค ดวลแข้งกับ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า เวลา 02.45 น.

นัดนี้ "ราฟา" ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือทีมเยือนไม่มีปัญหาเรื่องผู้เล่นตัวหลักได้รับบาดเจ็บ แต่คาดว่าน่าจะจัดทัพชุดเดิมจากเกมนัดที่เปิดรังชนะ "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรดาขุมกำลังสำคัญอย่าง โฆเซ่ เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, เกลน จอห์นสัน, อัลแบร์โต้ อคีลานี, ยอสซี เบนายูน, สตีเวน เจอร์ราร์ด และเฟอร์นันโด ตอร์เรส เตรียมได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อไปเหมือนเดิม

ด้าน มาร์ติน โอนีล กุนซือเจ้าถิ่นไร้ปัญหาเรื่องแข้งหลักได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน แต่น่าจะมีการปรับทัพในบางตำแหน่ง หลังเสียฟอร์มบุกไปแพ้ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล แบบหมดสภาพถึง 0-3 คาดว่า เจมส์ คอลลินส์ น่าจะได้กลับมายืนเล่นเป็นปราการหลังตัวกลางคู่กับ ริชาร์ด ดันน์ อีกครั้ง ส่วน คาร์ลอส คูเอลยาร์ คงต้องขยับไปเล่นเป็นแบ็กขวา ขณะที่ ยอห์น คาริว เตรียมกลับมายืนเป็นหัวหอกตัวเป้าประสานงานในแนวรุกร่วมกับ เจมส์ มิลเนอร์, แอชลีย์ ยัง และกาเบรียล อักบอนลาฮอร์ อีกครั้งหนึ่ง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook