สมาคมหักดิบฟุตบอลลีก
สมาคมฟุตบอล หักดิบ กำหนดทุกลีก ขึ้นชั้น-ตกชั้น 4 ทีม ส่วนโควตานักเตะต่างประเทศ ลีกดิวิชั่น 1 และลีกภูมิภาค ลงทะเบียนได้ 5 คน ลงเล่น 3 บวก 1 ยกเว้นไทยลีกแนวโน้ม ให้ 7 คน ลงได้ 5 คน ขณะที่ลีกภูมิภาคสรุปมีฟาดแข้งทั้งสิ้น 75 ทีม ด้าน กกท. ปวดหัวจัดงบไม่ลงตัว ให้สมาคมฟุตบอลไปแบ่งเค้กกันใหม่
เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีการประชุมคณะทำงานกำหนดแนวทางการดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของ ประเทศไทย โดยมี "บังมาด" สามารถ มะลูลีม อุปนายกสมาคมฟุตบอล เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอล "มร.โอเค" นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคม นายวิมล กาญจนะ ประธานจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค พร้อมด้วยคณะกรรมการที่มาประชุมกันอย่างคึกคัก
สำหรับวาระสำคัญคือการพิจารณาทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เป็นครั้งสุดท้าย โดยสรุปว่ามีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดจำนวน 75 ทีม โดยจะแบ่งออกเป็น 5 ภาค ดังนี้ ภาคกลาง มี 16 ทีม คือ จ.สมุทรปราการ, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.สระบุรี, จ.ลพบุรี, จ.ฉะเชิงเทรา, จ.ระยอง, จ.ราชบุรี, จ.นครนายก, จ.สมุทรสาคร, ปทุมธานี เอฟซี, จ.อ่างทอง, จ.กาญจนบุรี, จ.เพชรบุรี, กบินทร์บุรี เอฟซี, จ.สระแก้ว, ปราจีนบุรี ยูไนเต็ด
ภาคเหนือ มี 16 ทีม จ.พิจิตร, จ.ชัยนาท, จ.อุตรดิตถ์, จ.เพชรบูรณ์, จ.พิษณุโลก, จ.กำแพงเพชร, จ.สุโขทัย, จ.เชียงใหม่, จ.แพร่, จ.ตาก, จ.สิงห์บุรี, จ.นครสวรรค์, จ.ลำปาง, จ.อุทัยธานี, จ.พะเยา, เชียงราย เอฟซี, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 16 ทีม จ.เลย, จ.นครราชสีมา, จ.อุดรธานี, จ.บุรีรัมย์, จ.นครพนม, จ.ชัยภูมิ, จ.สุรินทร์, จ.มหาสารคาม, จ.มุกดาหาร, จ.สกลนคร, จ.ร้อยเอ็ด, อุบล ไทเกอร์ เอฟซี, จ.กาฬสินธ์, จ.หนองคาย, จ.หนองบัวลำภู, จ.ยโสธร
ภาคใต้ มี 14 ทีม จ.สตูล, จ.นครศรีธรรมราช, จ.ปัตตานี, จ.กระบี่, จ.ยะลา, จ.ภูเก็ต, จ.พัทลุง, จ.ประจวบคีรีขันธ์, จ.ตรัง, จ.สุราษฎร์ธานี, จ.ระนอง, จ.พังงา, จ.ชุมพร, สโมสรฟุตบอลหาดใหญ่ เอฟซี, กรุงเทพฯ และปริมณฑล มี 13 ทีม สโมสรฟุตบอล ม.เกษมบัณฑิต, สโมสรฟุตบอล ม.นอร์ทกรุงเทพ, สโมสรฟุตบอลราชวิถี, สโมสรฟุตบอลกรุงเทพคริสเตียน, สโมสรฟุตบอลกรุงเทพมหานคร, สโมสรฟุตบอล ม.เกษตรศาสตร์, สโมสรฟุตบอล ม.รังสิต, สโมสรฟุตบอลราชภัฏนครสวรรค์, สโมสรฟุตบอลนอร์ท-เซ็นทรัล, ทีมการบินไทย ลูกอีสาน, โรสเอเชีย ปทุมธานี, จ.สมุทรปราการ, จ.นนทบุรี
การแข่งขันจะคัดเลือกทีมที่มีคะแนนดีที่สุด อันดับ 1 และ 2 ของแต่ละภาค รวม 5 ภาค จำนวน 10 ทีม นอกจากนี้จะคัดเลือกทีมอันดับ 3 ที่มีคะแนนที่ดีที่สุด 2 ทีมจากภาคกลาง, ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ามาเล่นรอบสุดท้าย 12 ทีม โดยจะแบ่งออกเป็น 2 สาย สายละ 6 ทีม เพื่อเอาทีมที่มีคะแนนดีที่สุดอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละสาย จำนวน 4 ทีม เลื่อนชั้นไปเล่นฟุตบอลลีก ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาลหน้า โดยใช้ระบบการขึ้นชั้นและตกชั้นตั้งแต่ ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก, ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 คือ ขึ้น 4 ทีม และตกชั้น 4 ทีม
ในส่วนของโควตานักเตะจากต่างประเทศ สำหรับฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 และฟุตบอลลีกดิ วิชั่น 1 จะให้สิทธิ์แต่ละทีมส่งรายชื่อได้ 5 คน ลง 3 คน บวกนักเตะจากเอเชีย 1 คน ขณะที่ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่แนวทางน่าจะลงทะเบียนได้ 7 คน ลงสนามได้ 5 คน ซึ่งต้องรอจนถึงสัปดาห์นี้เสียก่อน
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังกำหนดการจับสลากประกบคู่การแข่งขัน วันที่ 18 มกราคม พร้อมกำหนดประชุมผู้จัดการทีม เริ่มจากวันที่ 21 มกราคม กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่โรงแรมเรดิสัน, วันที่ 23 มกาคม ภาคเหนือ ที่ จ.พิษณุโลก, วันที่ 25 มกราคม ภาคกลาง และภาคตะวันออก ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา, วันที่ 27 มกราคม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.อุดรธานี, วันที่ 31 มกราคม ภาคใต้ ที่ จ.ตรัง โดยกำหนดเริ่มแข่งขันตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
ขณะที่เรื่องของงบประมาณสนับสนุนแต่ละจังหวัดนั้น เดิมกำหนดให้จังหวัดละ 1 ล้านบาท แต่เนื่องจากว่าบางจังหวัดมีส่งถึง 2 ทีม ทำให้ไม่สามารถจะจัดสรรงบประมาณตามมติเดิมได้ ซึ่งเรื่องนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ให้สมาคมฟุตบอลไปพิจารณากันใหม่