วิเคราะห์ 5 ประเด็นทำ ลิเวอร์พูล บุกพ่าย นาโปลี ยับเยิน 1-4 ศึกยูฟ่า ชปล.

วิเคราะห์ 5 ประเด็นทำ ลิเวอร์พูล บุกพ่าย นาโปลี ยับเยิน 1-4 ศึกยูฟ่า ชปล.

วิเคราะห์ 5 ประเด็นทำ ลิเวอร์พูล บุกพ่าย นาโปลี ยับเยิน 1-4 ศึกยูฟ่า ชปล.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังหลังบุกพ่าย นาโปลี แบบยับเยิน 1-4 ในการแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ เมื่อคืนวันพุธที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา เราลองไปดูประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเกมนัดนี้กัน 

1. 5 นาทีแรกที่สับสนของ ลิเวอร์พูล
Piotr ZielinskiPiotr ZielinskiSSC Napoli v Liverpool FC: Group A - UEFA Champions League / Giuseppe Bellini/GettyImages

ให้หลังจากเกมที่ เนเปิลส์ เริ่มต้นขึ้นไม่กี่อึดใจ พลพรรค นาโปลี ก็ฉวยโอกาสบุกเข้าใส่ ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสได้ลุ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

แนวรับสูงที่หละหลวมของ หงส์แดง ถูกบอลวางข้ามไลน์เล่นงาน ช่องว่างในพื้นที่ด้านหลังฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้างรวมไปถึงการประสานงาของ โจ โกเมซ กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เปิดพื้นที่ให้ ควิชา ควาราทชเคเลีย, วิคเตอร์ โอซิมเฮน, มัตเตโอ โปลิตาโน, ปิโอเตอร์ ซีลีนสกี้ ไปจนถึง อันเดรีย อ็องกิสซา ขโยกเข้าใส่

ทีมเยือนเจียนอยู่เจียนไป 2 ครั้งเน้นๆ ภายในระยะเวลา 5 นาทีหลังเริ่มเกม กระทั่งเสียลูกจุดโทษเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษของตนเองกลายเป็นลูกจุดโทษและเสียประตูให้กับเจ้าถิ่นในที่สุด หลังจากนั้นทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ดูจะเสียขวัญและไม่สามารถกลับมาสู่เกมได้

2. แดนกลางไม่อาจหยุด นาโปลีJames MilnerJames MilnerSSC Napoli v Liverpool FC: Group A - UEFA Champions League / Francesco Pecoraro/GettyImages

ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ​ และ เจมส์ มิลเนอร์ คือสามประสานในแดนกลางที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ เลือกใช้ในเกมนี้และกลายเป็นรายหลังที่เป็นจุดบอดของทีม

มิลเนอร์ ออกสตาร์ทด้วยการทำแฮนด์บอลเสียลูกจุดโทษและไม่อาจรับมือแดนกลางของเจ้าถิ่นได้ถึงขนาดเสียใบเหลืองตั้งแต่ 10 นาทีแรกและจวนเจียนจะได้รับใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามตั้งแต่ครึ่งแรก การมี มิลเนอร์ ที่กลางสนามยังเท่ากับลดความอันตรายจากการผ่านบอลอย่างสิ้นเชิงเมื่อสิ่งที่มิดฟิลด์วัย 36 ปีทำได้ดีที่สุดคือแปะบอลระยะสั้นไปมา

น่าเหลือเชื่อว่า เอลเลียตต์ กลายเป็นมิดฟิลด์ตัวจริงที่ดูดีที่สุดจากทั้ง 3 คนแม้ว่าจะไม่สามารถช่วยเปลี่ยนโมเมนตัมของเกมได้ก็ตาม ขณะที่ ฟาบินโญ ดูไม่มีความกระตือรือล้นในเกมรับมากอย่างเคย

3. เกมรับถูกเผาเครื่องFBL-EUR-C1-NAPOLI-LIVERPOOLFBL-EUR-C1-NAPOLI-LIVERPOOLFBL-EUR-C1-NAPOLI-LIVERPOOL / FILIPPO MONTEFORTE/GettyImages

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน คือแผงแบ็คโฟร์ที่ได้รับความไว้วางใจจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้ออกสตาร์ท แต่กลายเป็นว่าพวกเขาทุกรายถูกแนวรุก นาโปลี สลับกันเผาเครื่องต่อเนื่อง

ร็อบโบ้ ดูจะมีมลทินมัวหมองน้อยที่สุดจากทั้ง 4 รายแต่ถึงอย่างนั้นแบ็คซ้ายทีมชาติ สกอตแลนด์ ก็ปวดหัวในการรับมือกับเกมรุกเจ้าบ้านให้เห็น

รายที่อาการหนักที่สุดกลายเป็น โจ โกเมซ ที่ฟอร์มของเจ้าตัวเลวร้ายจน คล็อปป์ เปลี่ยนตัวเขาออกตั้งแต่หลังพักครึ่ง เจ้าตัวสร้างความผิดพลาดในการเข้าบอล ถูก วิคเตอร์ โอซิมเฮน กับ ควิชา คราวาทชเคเลีย สลับกันขโยกเข้าใส่ และมีส่วนร่วมกับการเสีย 2 ใน 3 ประตูตั้งแต่ครึ่งแรก

เกมรับของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น่าเป็นห่วงตั้งแต่ช่วงไม่กี่เกมที่ผ่านมาก่อนหน้านี้และเกมนี้ก็ไม่ต่างกันสำหรับแข้งวัย 23 ปี สมาธิและความกระตือรือล้นของ เทรนท์ ดูจะหลุดลอยโดยเฉพาะในครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังลูกหม้อ หงส์แดง รายนี้จะยกระดับการเล่นของตนเองขึ้นมาได้เล็กน้อย

ขณะที่ ฟาน ไดค์ ที่มักไม่ถูกเกมรุกของ นาโปลี โจมตีนักยังโชคร้ายไปย่ำเข้าใส่ โอซิมเฮน จนเสียลูกจุดโทษที่ 2 ในครึ่งแรก

4. ตัวสำรองไม่อาจเปลี่ยนเกมAlex Meret, Darwin NunezAlex Meret, Darwin NunezSSC Napoli v Liverpool FC: Group A - UEFA Champions League / Francesco Pecoraro/GettyImages

โจเอล มาติป (โกเมซ 46')
ดาร์วิน นูนเญซ (ฟิร์มิโน 62')
ติอาโก้ (มิลเนอร์ 62')
ดิโอโก้ โชต้า (ซาลาห์ 62')
อาร์ตูร์ (เอลเลียตต์ 77')

ด้านบนคือ 5 ตัวสำรองที่ คล็อปป์ เลือกส่งลงสนามในครึ่งหลังหวังเปลี่ยนโมเมนตัมของเกมทว่าไพ่เด็ดที่สามารถต่อกรกับ นาโปลี ได้สมน้ำสมเนื้อกลับมีเพียง ติอาโก้ อัลคันทารา เท่านั้นที่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

มิดฟิลด์ทีมชาติ สเปน ยกระดับความลื่นไหลของเกมที่แดนกลาง แสดงให้เห็นไหวพริบเอาตัวรอดในพื้นที่แคบ สร้างพื้นที่กลางสนามด้วยการพาบอลลากตะลุยขึ้นหน้า น่าเสียดายที่แนวรุกแดนบนไม่ได้วิ่งทำทางเพื่อเปิดช่องให้ ติอาโก้ แทงคิลเลอร์พาสให้เห็น

ขณะที่แข้งสำรองอีก 4 รายที่เหลือทำได้เพียงประคองตัวให้จบ 90 นาทีเท่านั้น

5. เครดิต ลูเชียโน สปัลเล็ตติ และลูกทีม นาโปลีLuciano Spalletti, Jurgen KloppLuciano Spalletti, Jurgen KloppSSC Napoli v Liverpool FC: Group A - UEFA Champions League / Francesco Pecoraro/GettyImages

นาโปลี ของ สปัลเล็ตติ ยิ่งเล่นพวกเขายิ่งมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป แข้งทั้ง 3 แดนของพวกเขานัดกันเข้าฝัก เล่นอย่างมีระเบียบวินัยและมุ่งมั่นกว่า ลิเวอร์พูล อย่างเห็นได้ชัด

อันเดรีย อ็องกิสซา ในบทบาทมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูกบ็อกซ์โดดเด่นกับการเติมขึ้นไปมีส่วนร่วมในพื้นที่สุดท้ายและจบเกมด้วยการมีชื่อบนสกอร์บอร์ด

ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ ยอดเยี่ยมกับบทบาทจอมทัพหมายเลข 10 สอดขึ้นไปประสานงานกับ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ขณะที่ ควิชา ควาราทชเคเลีย ปีกดาวรุ่งวัย 21 ปีทีมชาติ จอร์เจีย ตัวละครลับที่ นาโปลี คว้ามาจาก ดินาโม บาตูมี ที่มูลค่าเพียง 10 ล้านยูโรเมื่อซัมเมอร์ลากเลื้อยสุดมันส์ที่ริมเส้น

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ ของ วิเคราะห์ 5 ประเด็นทำ ลิเวอร์พูล บุกพ่าย นาโปลี ยับเยิน 1-4 ศึกยูฟ่า ชปล.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook