บทสรุปหลังเกม, ตัดเกรดทัพฝอยทอง หลังตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่ม เอช, นัดสอง
คืนวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2022

โปรตุเกส 2-0 อุรุกวัย

สนาม: ลูเซล ไอคอนิค
ผู้ตัดสิน : อาลีเรซ่า ฟากานี (อิหร่าน)

ทีมชาติโปรตุเกส กลายเป็นทีมที่สามต่อจาก บราซิล และ ฝรั่งเศส ที่ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก ฟุตบอลโลก 2022 หลังซิวชัยเหนือ อุรุกวัย 2-0

บรูโน่ แฟร์นันเดส กองกลางจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมาคนเดียวสองประตู ในนาทีที่ 54 และ 90+3 (จุดโทษ)

สำหรับนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม โปรตุเกส จะเจอกับ เกาหลีใต้ ส่วน อุรุกวัย ต้องไปชี้ชะตากับ กานา วันที่ 2 ธ.ค. นี้ (เตะวันเดียวกัน และเตะพร้อมกัน เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)

คะแนนผู้เล่นทีมชาติ โปรตุเกส

11 ตัวจริง (4-1-2-1-2): ดิโอโก้ คอสต้า (7/10) - นูโน่ เมนเดส (7/10), รูเบน ดิอาส (6.5/10), เปเป้ (7/10), ชูเอา คันเซโล่ (7/10) - รูเบน เนเวส (6/10) - วิลเลียม คาร์วัลโญ (6.5/10), แบร์นาร์โด้ ซิลวา (6.5/10) - บรูโน่ แฟร์นันเดส (8.5/10) - ชูเอา เฟลิกซ์ (6.5/10), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (6.5/10)

สำรองที่ใช้: ราฟาเอล เกร์เรโร่ (6.5/10), ราฟาเอล เลเอา (5/10), มาเธอุส นูเนส (ไม่มีคะแนน เพราะมีเวลาในสนามน้อย), กอนซาโล่ รามอส (ไม่มีคะแนน เพราะมีเวลาในสนามน้อย), ชูเอา ปาลินญ่า (ไม่มีคะแนน เพราะมีเวลาในสนามน้อย)

คีย์แมนทีมชาติ โปรตุเกส - บรูโน่ แฟร์นันเดสBruno Fernandesกองกลางวัย 28 ปี เล่นด้วยทัศนคติที่ยอดเยี่ยมในเกมนี้ เขาเล่นด้วยความมุ่งมั่น ขยัน เคลื่อนที่เพื่อหาช่องว่างอยู่ตลอด เขามักต้องการบอลจากเพื่อนเสมอ และเล่นเพื่อทีม

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่นที่ไม่ได้ครอบครองบอล ก็คือ การหาพื้นที่นี่แหละ

ประเด็นหลังเกม - เมื่อคุณพลาด...คุณก็จะถูกลงโทษBruno Fernandesทัพจอมโหด มาเล่นแบบแท็คติกจ๋า โดย ดิเอโก้ อลอนโซ่ กุนซือ อุรุกวัย ติดตั้งระบบ 3-5-2 คือ เน้นรัดกุม คุมพื้นที่ อย่างน้อยๆ เลยต้องมีแต้มไว้ก่อน เพราะนัดแรกมีตุนไว้แล้ว 1 แต้ม และค่อยไปลุ้นกับ กานา ในนัดสุดท้าย

ขณะที่ โปรตุเกส เริ่มต้นด้วยระบบ 4-3-3 ก่อนที่ระหว่างเกมจะปรับมาเป็น 4-2-3-1 และ 4-1-2-1-2 แต่พวกเขาไม่สามารถค้นหาจังหวะดีๆ หรือ โอกาสทอง ในการลุ้นทำประตูเลยในครึ่งแรกได้เลย แม้ว่าจะครองบอลและโอกาสสับไกมากกว่าก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดครั้งแรกของ อุรุกวัย ก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาเช็กล้ำหน้าพลาด จนเปิดพื้นที่ว่างให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดส ที่เปิดเข้ามาก่อนที่บอลจะเข้าประตูไป (โรนัลโด้ โหม่งไม่โดนบอล)

นั่นแหละ เมื่อคุณพลาด...คุณก็จะถูกลงโทษ และมันก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกม