ปั้นซูเปอร์สตาร์! ONE ส่งต่อแรงบันดาลใจสร้าง "ฮีโร่" ผลักดันนักมวยไทยสู่ระดับโลก
“บิ๊กบอส ONE” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ขอส่งต่อแรงบันดาลใจสร้าง "ฮีโร่" ผลักดันนักมวยไทยให้มีชื่อเสียงในระดับโลก ตามรอย "แสตมป์ แฟร์เท็กซ์" และ "น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว" ที่มุ่งมั่นต่อสู้จนประสบความสำเร็จกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของศึก วัน แชมเปียนชิพ ในปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ศึก วัน แชมเปียนชิพ ถูกก่อตั้งขึ้น มีทั้งนักมวยดาวรุ่ง และบรรดานักมวยระดับแชมป์ที่ผ่านสังเวียนมาอย่างโชกโชน ได้รับโอกาสขึ้นชกบนเวที ONE จนกลายเป็นขวัญใจแฟนมวยทั่วโลกที่เฝ้าติดตามชมการแข่งขัน และทำให้เกิดการส่งต่อแรงบันดาลใจของความเป็น "ฮีโร่" สู่ผู้คนทั่วโลก ที่ไม่ใช่แค่เรื่องราวบนสังเวียนเท่านั้น แต่เป็นแรงกระตุ้นให้ทุกคนต่อสู้เพื่ออนาคตที่ประสบความสำเร็จ
1 ในนักมวยขวัญใจผู้ชมศึก วัน แชมเปียนชิพ ที่ถูกนำเรื่องราวมาเล่าในฐานะ "ฮีโร่" ที่ส่งต่อแรงบันดาลใจก็คือ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” เจ้าของแชมป์ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวต (115 ป.) ที่เริ่มหัดสวมนวม และฝึกเตะกระสอบตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เพราะความกดดันที่โดนกลั่นแกล้งที่โรงเรียน ทำให้พ่อของเธอซึ่งเป็นอดีตนักมวยได้สอนมวยไทยให้เพื่อป้องกันตัว และหลังจากนั้นเพียงหนึ่งปี "แสตมป์" ใช้วิชามวยไทยเดินตามรอยของพ่อบนสังเวียนอย่างเต็มตัว โดยคว้าชัยชนะแบบน็อกเอาต์ด้วยเวลาเพียง 30 วินาทีในไฟต์แรก
อย่างไรก็ตามด้วยความที่กีฬามวยหญิงไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ทำให้ "แสตมป์" เกือบถอดใจไปเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ และเลือกชกมวยเป็นอาชีพเสริม แต่โชคชะตาฟ้าลิขิตให้เธอเป็นนักสู้ "แสตมป์" ได้รับการติดต่อจากแฟร์เท็กซ์ ค่ายมวยชื่อดังที่กำลังมองหานักมวยหญิงมาปลุกปั้นเพื่อเข้าสู่วงการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) และด้วยพรสวรรค์ของ "แสตมป์" ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่นานในการพัฒนาทักษะการต่อสู้รูปแบบใหม่ จนได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแข่งขันในรายการ ONE Warrior Series สังเวียนค้นหานักกีฬาดาวรุ่งที่มีความสามารถโดดเด่นเพื่อเข้าร่วมสังกัดของ วัน แชมเปียนชิพ
ในการประเดิมเวที ONE ครั้งแรก "แสตมป์" โชว์ลีลาดุดันเตะก้านคอเอาชนะน็อกเอาต์ "ราชิ ชินเด" คู่ต่อสู้ชาวอินเดีย ด้วยเวลาเพียง 19 วินาทีของยกแรก ทำให้นักชกสาวจากเมืองระยอง ได้เข้าสู่สังกัด วัน แชมเปียนชิพ อย่างเต็มตัว ก่อนจะเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาหญิงที่สามารถครองแชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬามวยไทย และคิกบ็อกซิ่งได้สำเร็จในวัย 22 ปี ขึ้นแท่นเป็นนักมวยหญิงที่มีความเก่งกาจระดับต้น ๆ ของโลก ทำให้ชีวิตของ "แสตมป์" เปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฝ่ามือมีทั้งชื่อเสียง, เงินทอง และเกียรติยศอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ความสำเร็จในระยะเวลา 4 ปีในศึก วัน แชมเปียชิพ ของ "แสตมป์" เป็นอีกความภาคภูมิใจของ “ชาตรี ศิษย์ยอดธง" ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ ONE ที่สามารถผลักดันเธอจนกลายเป็นนักมวยหญิงที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดของโลกในยุคปัจจุบัน
"แสตมป์ เป็นคนหนึ่งที่ในวัยเด็กมีชีวิตครอบครัวที่ลำบาก เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่โดนเพื่อนแกล้งเวลาไปโรงเรียน ทำให้แสตมป์ หัดมวยไทยกับคุณพ่อของเธอ ด้วยความเป็นเด็กที่ขยัน ชอบต่อยมวยไทย แสตมป์ เป็นคนที่น่ายกย่องทั้งด้านวินัย, ความมุ่งมั่น และความใจสู้ แสตมป์ เป็นคนหนึ่งที่ผมคาดหวังให้นำมรดกมวยไทยของประเทศเราไปสู่ผู้คนทั่วโลก"
เช่นเดียวกับเส้นทางค้ากำปั้นของ "น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว" แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ที่เกือบจะสิ้นสุดลงเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่ได้รับโอกาสครั้งใหม่จาก "บิ๊กบอส ชาตรี" ด้วยการยื่นข้อเสนอให้ “น้องโอ๋” ขึ้นสังเวียนในศึก วัน แชมเปียนชิพ ระหว่างที่เขาทำงานเป็นครูมวยที่ยิมอีโวลฟ์ ในประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่ “น้องโอ๋” จะเรียกฟอร์มดุดันกลับคืนมา ทำสถิติชนะรวด 9 ไฟต์ติดต่อกัน จนได้รับฉายา "ราชันฆ่าไม่ตาย" กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของศึก วัน แชมเปียนชิพ อีกหนึ่งคนที่มีแฟนคลับทั่วโลก
"เมื่อ 7 ปีก่อน น้องโอ๋ คือนักมวยที่ประสบความสำเร็จระดับตำนานของวงการมวยไทย แต่ตอนที่น้องโอ๋ มาเจอผม ที่สิงคโปร์ เขาไม่มีเงินเลย ทั้งที่เขาไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย และเป็นแชมป์มวยไทยที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่ง แต่ทำไมเขายังมีชีวิตที่ยากลำบาก?"
"นักมวยในศึก ONE เปรียบเสมือนพี่น้องของผม ผมไม่ใช่เจ้านายของพวกเขา ความหมายของฮีโร่คืออะไร? คนที่หนีจากความยากจน ต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค จนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง พวกเขาทำได้เพราะจิตใจที่ดี, ความขยัน, มีวินัย และความกล้าหาญ หากมีองค์ประกอบเหล่านี้ครบ ทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้"
ทางด้าน "น้องโอ๋" ยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 4 ปีที่เข้ามาชกในศึก วัน แชมเปียนชิพ ควบคู่กับงานครูมวยที่อีโวลฟ์ จนทำให้ "น้องโอ๋" มีเงินเก็บมากกว่า 15 ล้านบาท และมีโอกาสเดินทางไปเผยแพร่ศิลปะมวยไทยในต่างประเทศอยู่เป็นประจำ โดยเมื่อไม่นานนี้ "น้องโอ๋" เพิ่งจะได้รับการติดต่อให้เดินทางไปร่วมงานสัมนามวยไทยที่ประเทศอังกฤษ
"การชกในศึก วัน แชมเปียนชิพ ไม่ได้ช่วยทำให้ผมมีฐานะที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ช่วยโปรโมตผมให้เป็นที่รู้จักของแฟนมวยทั่วโลก ในฐานะแชมป์โลก ONE ผมได้รับการติดต่องานจากทั่วโลก เมื่อไม่นานนี้ผมได้ไปร่วมงานสัมมนามวยไทยที่อังกฤษ 2 สัปดาห์ เป็นการเดินทางที่สนุกมาก ผมต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ เสมอ หลังจากเป็นครูมวยที่สิงคโปร์นานถึง 7 ปี ผมมีความตั้งใจที่จะถ่ายทอดศิลปะมวยไทยตามสไตล์ของผม เพื่อให้ทั่วโลกรู้จักมวยไทยมากขึ้น"
"ผมอยากขอบคุณ วัน แชมเปียนชิพ ที่ช่วยสนับสนุน และผลักดันผมมาตลอดหลายปี ผมต้องขอบคุณพี่ชาตรี ทั้งการชวนผมไปทำงานที่ยิมอีโวลฟ์ และเป็นคนถามผมว่าอยากชกมวยอีกไหม เขาจะช่วยผลักดันให้ผมมีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้ผม และครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น"
ภารกิจในการส่งต่อแรงบันดาลใจเพื่อสร้าง "ฮีโร่" ยังคงดำเนินต่อไป ด้วยความตั้งใจของ "บิ๊กบอส ชาตรี" ที่ต้องการสร้างความร่วมมือที่เป็นหนึ่งเดียวเพื่อนำ "มวยไทย" มรดกอันล้ำค่าของประเทศไทยออกไปแสดงให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่
"ทั้งหมดนี้คือคอนเซปต์ของวัน แชมเปียนชิพ #WeAreONE (เราคือหนึ่งเดียว) ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน ด้วยความรู้สึกผูกพันแบบพี่น้อง เราจะมีโอกาสโชว์ให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยสุดยอดแค่ไหน แต่ที่สำคัญเราต้องแสดงให้เห็นความจริงใจ" ชาตรี กล่าวทิ้งท้ายด้วยความมุ่งมั่น