"กองเชียร์ผลัดถิ่น" ขอแค่ได้เชียร์ แม้แพ้.. พวกเขาก็ยังเชียร์

คำสัมภาษณ์หลังเกม บนใบหน้าและแววตาที่ฉาบไปด้วยความเจ็บปวดของ เนวิน ชิดชอบ หลังเกมที่บุรีรัมย์ ปราชัยที่ทันชอน สเตเดี้ยม บ่งบอกว่าเขาผิดหวังกับผลการแข่งขันในเกมนี้เกินจะบรรยาย

7 แต้มจาก 3 เกมแรกที่มองมุมไหน ทีมดังจากเมืองสยามก็น่าจะผ่านรอบนี้ไปได้ การเดินออกจากสนามบนความแพ้พ่าย แปรเปลี่ยนโอกาสที่อยู่ในมือตัวเอง เวลานี้กลับไม่เป็นไปตามนั้นเสียแล้ว

บุรีรัมย์ พ่ายต่อ กัมบะ โอซาก้า และ ซองนัม เอฟซี เวลานี้มันสะเทือนไปถึงการเข้ารอบแบบเต็มเปา

เกมนัดสุดท้าย ผลการแข่งขันที่บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม คือ พวกเขาต้องได้ผลการแข่งขันที่ดีกว่ากัมบะ โอซาก้า เท่านั้น (เงื่อนไขการเข้ารอบอ่านต่อที่ลิงก์นี้ครับ)

90 นาทีที่แผ่นดินเกาหลีใต้ คือเกมที่บุรีรัมย์ เล่นได้แย่ที่สุดตลอด 5 นัด ในถ้วยเอเชียของปี 2015 รูปเกมที่สู้เจ้าถิ่นไม่ได้ ทั้งสปีดบอล ทั้งการเข้าทำ ซึ่งใครที่ได้ดูผ่านหน้าจอทีวีคงรู้สึกไปในทำนองเดียวกันว่า "วันนี้ผิดฟอร์มกันทุกคน"

"ดิโอโก้" และคู่หู "มาเชน่า" กดดันแนวรับของเจ้าบ้านไม่ได้ ขณะที่เจ้าถิ่นเหมือนจะศึกษามาเป็นอย่างดีว่า "ทีเด็ด" ของบุรีรัมย์ ฉบับปี 2015 เวลานี้คือ "ลูกตั้งเตะ" ดังนั้น เมื่อวานเราเลยไม่เห็นทีมแดนกิมจิ เสียฟาวล์จากหน้าเขตโทษตัวเองเลย

แม้แต่บทสัมภาษณ์ เนวิน ชิดชอบ นายใหญ่ประจำทีมก็ยอมรับว่า วันนี้มันไม่ใช่วันของพวกเขา และเขาเองก็เสียใจ ที่ทำให้แฟนบอลบุรีรัมย์ รวมถึงแฟนบอลชาวไทย รู้สึกผิดหวังกับผลงานแบบนี้ของทีม

เอาล่ะ.. มองในแง่ดี อย่างน้อยขุนพลแข้งตัวแทนจากลีกเมืองไทยยังได้ลุ้นยันนัดสุดท้าย "สงครามมันยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร" คำกล่าวนี้ยังพร้อมเกิดขึ้นจริงได้เสมอ

แฟนบอลบุรีรัมย์ เองก็เช่นกัน แม้ชะตาการเข้ารอบเวลานี้ จะไม่ได้อยู่ในมือของบุรีรัมย์เพียงอย่างเดียวก็ตาม อย่างน้อยพวกคุณก็สำคัญต่อทีมเสมอ

ผมเห็นแววตาของกองเชียร์ที่ทำงานที่เกาหลีใต้ ที่เข้ามาช่วยเชียร์บุรีรัมย์ถึงสนามทันชอน สเตเดี้ยม โดยที่พวกเขาบอกว่า "ไม่เสียใจเลยที่ลางานครึ่งวัน นั่งรถมาเชียร์ทีมจากเมืองไทย"

"การได้เห็นทีมจากประเทศไทย มาเตะที่นี่ มันคือพลังใจและพลังกาย ที่ทำให้พวกเขาได้มีความสุข และคลายความรู้สึกคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนที่จากมา"

ภาพของพวกเขา ยอมเจียดเงิน เพื่อซื้อเสื้อทีมบุรีรัมย์ใส่เชียร์ โดยไม่รู้สึกเสียดายเลย มันคือคำตอบว่า พวกเขาไม่ได้มาแค่ใจ แต่พวกเขามาด้วยความเป็นคนไทย ที่อยากส่งเสียงเชียร์คนไทยด้วยกันในสนาม

ผลการแข่งขันที่น่าผิดหวัง คงไม่ได้ทำให้ "ศรัทธา" พวกเขาลดถอยลง เพราะพวกเขาบอกเสียงดังๆฟังแบบชัดเจนว่า "ไม่ว่าทีมไหนๆของไทย หรือทีมชาติไทยลงเตะที่เกาหลีใต้ พวกเขาก็จะมาเป็นหนึ่งในแรงเชียร์แรงใจแน่นอน"

เอาล่ะ สุดท้าย "วันที่ไม่ใช่" ได้ผ่านพ้นไป แม้ในความเป็นจริง เวลานี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผม ตลอดเวลาที่นั่งเครื่องกลับไทย แต่ใครจะรู้บ้างว่า วันที่ 6 พฤษภาคมนี้ อาจเป็น "วันดีดี" ของพวกเขาบ้าง

ไปลุ้นและเชียร์พวกเขากันเถอะครับ เพราะเขาคือทีมจากประเทศของเราจริงๆ ไม่แน่นะครับ ปาฏิหาริย์เมื่อปี 2013 ที่ทีมปราสาทสายฟ้าพลิกเข้ารอบในนัดสุดท้าย อาจเกิดขึ้นซ้ำรอยบนดินแดนเมืองบุรีรัมย์อีกครั้งก็เป็นได้

 

เรื่องโดย บ.ส้มซิ่ง