ประวัติการแข่งขันกีฬาซีเกมส์

ประวัติการแข่งขันกีฬาซีเกมส์

ประวัติการแข่งขันกีฬาซีเกมส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กีฬาซีเกมส์: กำเนิดมาจาก "กีฬาแหลมทอง" (SEAP GAMES) และ กีฬาแหลมทอง ได้เกิดขึ้นที่ไทยโดยคนไทย และสิ้นสุดที่ไทยก่อนจะกลายเป็น "ซีเกมส์ (SEA GAMES)” ในปัจจุบัน

กีฬาแหลมทอง (SEAP GAMES) กำเนิดขึ้นเมื่อประมาณปลายปี 2500 ด้วยการริเริ่มของ คุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ โดยในระยะนั้นประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้มีการติดต่อทางการกีฬากันเป็นประจำ โดยเฉพาะพม่าได้มีสาส์นเชิญประเทศไทยให้ส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขัน ฟุตบอล รักบี้ แบดมินตัน เทนนิส มวยสากล บาสเกตบอล กรีฑา เป็นประจำเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นประเพณีก็ว่าได้

ด้วยเหตุนี้ คุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการ โอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ จึงได้เกิดความคิดขึ้นมาว่า "น่าจะจัดแข่งขันกีฬาระหว่างชาติในกลุ่มแหลมทอง" ขึ้นในลักษณะคล้ายคลึงกับ "เอเชี่ยนเกมส์" หรือ "โอลิมปิกเกมส์" เพราะประชาชาติที่อยู่ในภาคพื้นนี้มีความเป็นอยู่ อากาศและรูปร่างคล้ายคลึงกันมาก

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการกีฬาของชาติในกลุ่มแหลมทองให้สูงขึ้นเพื่อเตรียมเข้าร่วมแข่งขันกีฬาเกมส์ใหญ่ ๆ เช่น เอเชี่ยนเกมส์ และ โอลิมปิกเกมส์ และเพื่อให้นักกีฬาของแต่ละประเทศในแถบนี้ได้มีความสามารถฝึกฝนสมรรถภาพของตนให้มีมาตรฐานสูงขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาเกมส์ใหญ่ ๆ และข้อสำคัญ คือ เป็นการสร้างสรรค์ความสัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างชาติเพื่อนบ้านในภาคพื้นแหลมทองด้วยกัน

ปี 2501 คุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ ได้นำความคิดเห็นของท่านฝากไปกับ ม.ร.เดฟ คิชเตอร์ ผู้ฝึกสอนกิตติมศักดิ์ของสมาคมกรีฑาไทยที่จะเดินทางไปประเทศเขมร เวียดนาม เป็นการส่วนตัว ระหว่างวันที่ 8-14 กุมภาพันธ์ 2501 เพื่อได้ปรึกษาและซาวเสียงต่างประเทศเหล่านั้น

ปรากฏว่าทั้งเขมร เวียดนาม ในสมัยนั้นได้สนับสนุนความคิดริเริ่มของ คุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ อย่างเต็มที่ ต่อมาคุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ จึงได้นำความคิดเห็นของท่านที่จะจัดแข่งขันกีฬาระหว่างชาติในกลุ่มแหลมทอง รวมทั้งที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติเพื่อนบ้านเสนอเป็นการปรึกษาต่อที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2501 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาแล้วรับหลักการเห็นควรให้จัดการแข่งขันครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในเดือนธันวาคม 2501 พร้อมกับได้มอบให้คุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ นายกอง วิสุทธารมณ์ และนายสวัสดิ์ เลขยานนท์ เป็นผู้ดำเนินการวางโครงการและรายละเอียดต่อไป และได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในโอกาสต่อมา

ในระหว่างการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 3 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เดือนพฤษภาคม 2501 คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง ประกอบด้วย คุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ , นายกอง วิสุทธารมณ์ และนายสวัสดิ์ เลขยานนท์ เป็นผู้แทนไทยเดินทางนำข้อเสนอแนะ การจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศในกลุ่มแหลมทองไปปรึกษาหารือกับประเทศในภาคพื้นแหลมทองที่โตเกียว ซึ่งมีประเทศที่เข้าร่วมประชุมคือ ไทย พม่า มาเลเซีย ลาว กัมพูชา เขมร และเวียดนาม ที่ประชุมได้เห็นชอบและมีมติให้ใช้ชื่อในการแข่งขันว่า "กีฬาแหลมทอง" (SEAP GAMES - SOUTH EAST ASIA PENINSULAR GAMES) และเพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศไทยจึงกำหนดจัดให้มีการแข่งขันครั้งแรกที่ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2502

ต่อมาได้มีการแต่งตั้งให้ พล.ท.ประภาส จารุเสถียร (ยศในสมัยนั้น) ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานมนตรีสหพันธ์กีฬาแหลมทองคนแรก และคุณหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ เป็นประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันครั้งที่ 1
ชาติสมาชิกที่ร่วมแข่งในกีฬาซีเกมส์

    BRU    บรูไน
    CAM    กัมพูชา
    INA    อินโดนีเซีย
    LAO    ลาว
    MAS    มาเลเซีย
    MYA    เมียนมา
    PHI    ฟิลิปปินส์
    SIN    สิงคโปร์
    THA    ไทย
    TLS    ติมอร์ เลสเต
    VIE    เวียดนาม

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958) องค์กรการกีฬา ของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ร่วมกันจัดการประชุม เพื่อก่อตั้งองค์กรการกีฬาในระดับภูมิภาค โดยหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ อดีตรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และผู้ก่อตั้งองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย (ปัจจุบันคือ การกีฬาแห่งประเทศไทย) เสนอว่าควรจัดการแข่งขันกีฬา ระหว่างประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

สหพันธ์กีฬาแหลมทอง (SEAP Games Federation) จึงถือกำเนิดขึ้น โดยมีคณะกรรมการสมาชิกผู้ก่อตั้งประกอบด้วย ไทย ประเทศไทย สหพันธรัฐมาลายา มลายา เวียดนาม เวียดนามใต้ ลาว ราชอาณาจักรลาว ประเทศพม่า พม่า และ ประเทศกัมพูชา ราชอาณาจักรกัมพูชา (หลังจากนั้น สิงคโปร์ สิงคโปร์ เข้าร่วมเป็นสมาชิกด้วย) โดยตกลงร่วมกันว่า จะจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างภูมิภาคขึ้นในทุกสองปี คือกีฬาแหลมทอง (Southeast Asian Peninsular Games) หรือ เซียปเกมส์ (SEAP Games) ครั้งที่ 1 จัดขึ้นที่กรุงเทพมหานครของไทย ระหว่างวันที่ 12 - 17 ธันวาคม พ.ศ. 2502 (ค.ศ. 1959) โดยมีเจ้าหน้าที่และนักกีฬา จากประเทศไทย มลายา สิงคโปร์ เวียดนามใต้ ลาว และพม่า เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา 12 ชนิด รวมทั้งสิ้น 527 คน สำหรับกัมพูชา เข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรก ในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2504 (ค.ศ. 1961)

จากนั้นในปี พ.ศ. 2520 (ค.ศ. 1977) สมาพันธ์กีฬาแหลมทองประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น สมาพันธ์กีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น ซีเกมส์ ดังที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งมีมติให้ อินโดนีเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์ และ บรูไน บรูไน เข้าเป็นสมาชิกและกรรมการสมาพันธ์อย่างเป็นทางการ จึงได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันครั้งที่ 9 ที่กัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย เป็นครั้งแรกด้วย และในปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) สมาพันธ์ฯ มีมติให้ ประเทศติมอร์-เลสเต ติมอร์-เลสเต เข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรกในซีเกมส์ครั้งที่ 22 ที่ฮานอยของเวียดนาม

สมาพันธ์กีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 154 กรีฑาสถานแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และประกอบพิธีเปิดเมื่อปี พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) ในวาระครบรอบ 48 ปีของซีเกมส์ โดยนับตั้งแต่การแข่งขันกีฬาแหลมทองเป็นต้นมา
ประเทศเจ้าภาพซีเกมส์

293204867_1367343167109427_83

"กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

 กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่จะมีขึ้น ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค. 66 โดยกำหนดจัดชิงชัยใน 37 ชนิดกีฬา มีชิงชัยถึง 608 เหรียญทอง ซึ่งเป็นจำนวนเหรียญทองสูงสุด ตั้งแต่มีการแข่งขันกีฬาซีเกมส์กันมาเลยทีเดียว


 กีฬาที่จัดการแข่งขัน พร้อมจำนวนเหรียญที่ชิงชัย 

- กรีฑา 47 เหรียญทอง
- ว่ายน้ำ 39 เหรียญทอง
- กระโดดน้ำ 4 เหรียญทอง
- โปโลน้ำ 2 เหรียญทอง
- ฟินสวิมมิ่ง 24 เหรียญทอง
- แบดมินตัน 8 เหรียญทอง
- บาสเกตบอล 4 เหรียญทอง
- บิลเลียด-สนุกเกอร์ 10 เหรียญทอง
- มวยสากล 17 เหรียญทอง
- เพาะกาย 15 เหรียญทอง
- หมากรุก 12 เหรียญทอง
- คริกเก็ต 8 เหรียญทอง
- จักรยาน 9 เหรียญทอง
- แดนซ์สปอร์ต 12 เหรียญทอง
- อีสปอร์ต 9 เหรียญทอง
- ฟันดาบ 12 เหรียญทอง
- ฟลอร์บอล 2 เหรียญทอง
- ฟุตบอล 2 เหรียญทอง
- กอล์ฟ 4 เหรียญทอง
- ยิมนาสติก-อาร์ตทิสติก 8 เหรียญทอง
- ยิมนาสติกแอโรบิก 5 เหรียญทอง
- ฮอกกี้ 4 เหรียญทอง
- เจ็ตสกี 6 เหรียญทอง
- ยูโด 13 เหรียญทอง
- คาราเต้ 17 เหรียญทอง
- อาร์นิส 12 เหรียญทอง
- ยูยิตสู 13 เหรียญทอง
- คิกบ๊อกซิ่ง 17 เหรียญทอง
- คุนโบกาตอร์ 21 เหรียญทอง
- กุนขะแมร์ 17 เหรียญทอง
- โววีนั่ม 30 เหรียญทอง
- ออบสตัสเคิล เรช 4 เหรียญทอง
- ปันจักสีลัต 22 เหรียญทอง
- เปตอง 11 เหรียญทอง
- เรือใบ 9 เหรียญทอง
- ซอฟท์เทนนิส 7 เหรียญทอง
- เซปักตะกร้อ 22 เหรียญทอง
- เทเบิลเทนนิส 7 เหรียญทอง
- เทควันโด 24 เหรียญทอง
- เรือยาว 13 เหรียญทอง
- เทนนิส 7 เหรียญทอง
- ไตรกีฬา 7 เหรียญทอง
- วอลเลย์บอล 4 เหรียญทอง
- ยกน้ำหนัก 14 เหรียญทอง
- มวยปล้ำ 30 เหรียญทอง
- วูซู 24 เหรียญทอง

ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ "พนมเปญ เกมส์ 2023" จะไม่มีการจัดการแข่งขันกีฬาระดับสากลอย่าง ฟุตซอล และ รักบี้ฟุตบอล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook