จบอย่างไร? กับ ดราม่าครั้งใหญ่ "เปิ้ล" นาคร" VS "กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ"
หลังจากกลายเป็นประเด็นดราม่าครั้งใหญ่เมื่อ "เปิ้ล" นาคร ศิลาชัย ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวที่ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ไม่สามารถอนุมัติเงินรางวัลให้กับ "น้องออก้า" นครา ศิลาชัย หลังจากคว้าแชมป์เจ็ทสกีโลก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในรายการ “ดับเบิลยูจีพี วัน เจ็ตสกี เวิลด์ ซีรี่ส์ 2022” รุ่นจูเนียร์ สกี้ 10-12 ปี เมื่อช่วงเดือน ตุลาคม 2565
โดยข้อความที่ นาคร ศิลาชัย ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวด้วยข้อคว่ว่า “ยกเลิก” เงินสนับสนุนและเงินอัดฉีดปี 2022 ที่นักกีฬาเจ็ทสกีไทยได้ไปสร้างชื่อเสียงจนเป็นอันดับ 1 ของโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์มาได้นั้น ทางผู้ใหญ่สรุปมาแล้วครับว่า ยกเลิกเงินสนับสนุนและเงินอัดฉีดทั้งหมด!!!
ไม่มีใครได้แล้วนะครับ รวมถึงปีต่อๆไป ”ด้วยเหตุผลที่มีเหตุผลของท่าน” นักกีฬาเจ็ทสกีทีมชาติไทยทุกคนต่อจากนี้ไป (และอีกหลายประเภทกีฬา) จะเหนื่อยแค่ไหน จะตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติกันสักแค่ไหน ก็ตัวใครตัวมันแล้วนะครับ
"ขอบคุณสำหรับทุนงบประมาณที่คาดว่าจะนำมาใช้พัฒนานักกีฬา มีหลักเกณฑ์ที่รอบคอบ จนสามารถยกเลิกกำลังใจที่นักกีฬาทุกคนตั้งใจทุ่มเทเพื่อประเทศชาติได้”
"ขอบคุณสำหรับการจัดงบประมาณที่ทำให้การพัฒนากีฬาของไทยที่จะไปได้ไกล กลับริบหรี่ลงทุกวัน…มันเรศจริงๆ!!!"
ทั้งนี้หลังจากที่เป็นประเด็นดราม่าในโลกโซเชียลและถูกพูดถึงในวงกว้างทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเองก็ระบุว่าตามหลักเกณฑ์ของกองทุนฯ ที่จะสามารถอนุมัติเงินรางวัลได้ในกรณีนั้น จะต้องมีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 6 ประเทศ แต่ในอีเวนต์ของ “น้องออก้า” นครา ศิลาชัย ที่คว้าเหรียญทองมีเพียง 2 ประเทศ เข้าร่วม คือ ไทย กับ ทีมสโมสรในประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำนวนทั้งหมด 6 ลำ เท่านั้น โดยคู่แข่งขันในรายการนี้ไม่ได้เป็นตัวทีมชาติสหรัฐอเมริกา แต่อย่างใด ทำให้ไม่เข้าหลักเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัล
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังต้องรอความชัดเจนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่จะออกมาแถลงข่าวให้ความกระจ่างในเรื่องนี้หรือไม่?
ทว่าล่าสุด ทางสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยเตรียมออกแถลงการณ์ เรื่อง "ดราม่าเงินรางวัลนักกีฬา" โดยระบุว่าพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ในวันนี้ (จันทร์ที่ 4 กันยายน)
ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ระบุว่านักกีฬาไทยที่ชนะเลิศในชนิดกีฬาสากลที่มีแข่งในโอลิมปิกเกมส์, หรือรายการชิงแชมป์โลก เหรียญทอง จะได้รับเงินรางวัล 1.5 ล้านบาท ,เหรียญเงิน 1 ล้านบาท และ เหรียญทองแดง 4 แสนบาท