ร่ายยาวศึก "ฟลอยด์ VS ปาเกียว".. มหากาพย์ที่คงไม่จบง่ายๆ

ร่ายยาวศึก "ฟลอยด์ VS ปาเกียว".. มหากาพย์ที่คงไม่จบง่ายๆ

ร่ายยาวศึก "ฟลอยด์ VS ปาเกียว".. มหากาพย์ที่คงไม่จบง่ายๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดูเหมือนจะไม่ "จบ" ง่ายๆ สมราคาไฟต์มหากาพย์หยุดโลกอย่างแท้จริง

เพราะถึง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ จะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชนะ และรักษาสถิติไร้พ่ายในการชกอาชีพไว้ได้ต่อไป หลังชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์เหนือ แมนนี่ ปาเกียว แถมยังเป็นคะแนนที่ขาดลอยทั้งในสายตากรรมการข้างเวที 3 คน และสถิติการชกในส่วนต่างๆ แทบทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นการให้คะแนนของ เดฟ โมเร็ตติ, เกล็น เฟลด์แมน และ เบิร์ต เอ. คลีเมนต์ส 118-110, 116-112 และ 116-112 แยกเป็นจำนวนยกที่ทั้งหมดให้ฟลอยด์ชนะถึง 10, 8 และ 8 ยกตามลำดับ

จากกฎกติกาการให้คะแนนมวยสากล ที่หากฝ่ายไหนชกเหนือกว่าตั้งแต่ระดับสูสีจนเห็นชัดเจนจะได้ 10 คะแนนอีกคนได้ 9 คะแนน, ไล่ยำข้างเดียวแต่อีกฝ่ายไม่โดนนับ 8 จะได้ 10-8 คะแนน ไม่ต่างจากการมีนับ 8 ก็จะได้แต้ม 10-8 เช่นกัน แต่ถ้ามี 2 นับต่อยกเป็น 10-7, มากกว่า 2 นับ 10-6 และสูสีให้เสมอกันได้ 10-10

ขณะที่สถิติการชกไฟต์นี้ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือฟลอยด์แทบจะเหนือกว่าทั้งหมด แม้หลายคน โดยเฉพาะแฟนมวยปาเกียวจะคิดว่าฝ่ายหลังออกหมัดและเดินเข้าใส่กำปั้นชาวอเมริกันอยู่ฝั่งเดียวก็ตาม

ทั้งจำนวนหมัดที่ชกออกมาทั้งหมดเป็นฟลอยด์ที่มากกว่า 435-429 โดยหมัดเข้าเป้าก็ยังเป็นฝ่ายแรกที่มากกว่า 148-81 คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 34-19

ไม่ต่างจากหมัดแย็บที่ 267-193 แย็บเข้าเป้า 67-18 คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 25-9 จะมีแค่การออกหมัดเต็มแรงที่เมย์เวทเธอร์น้อยกว่า 168-236 แต่เมื่อดูจากหมัดเข้าเป้าก็ไม่พ้นเป็นฟลอยด์ที่เหนือกว่า 81-63 หมัดอยู่ดี คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 48-27

จนปาเกียวถึงกับโวยทั้งระหว่างให้สัมภาษณ์บนเวทีและหลังการชกว่าถูกปล้นชัย แต่แล้วกระแสกลับไม่เป็นอย่างที่คิด

เมื่อบรรดาอดีตมวยดัง และคนในวงการมวยที่มีความน่าเชื่อถือหลายรายมีความเห็นเกือบเป็นเสียงเดียวกันว่า ฟลอยด์เป็นฝ่ายชนะคะแนนจริง แต่ไม่วายเหน็บแนมกันเป็นแถวว่า เป็นการชกน่าเบื่อไม่สมกับเป็นไฟต์แห่งศตวรรษแต่อย่างใด

หลังจากนั้นแค่ 2 วัน เว็บไซต์มวยที่ชื่อ "บ็อกซิ่งนิวส์24ดอทคอม" (boxingnews24.com) ได้เปิดประเด็นเอาใจแฟนฝั่งปาเกียวด้วยการใช้ทีมงานนั่งชมเทปการชก ชนิดมีทั้งภาพปกติไปจนถึงภาพช้า และซุปเปอร์สโลว์โมชั่น พร้อมให้คะแนนกันยกต่อยก

ปรากฏว่าฟลอยด์ออกหมัดชกมากกว่าปาเกียวจริง แถมเป็นตัวเลขที่มากกว่าสถิติอย่างเป็นทางการหลังการชก (435-429 หมัด) เสียอีก ที่ 471-414 หมัด

แต่ที่แตกต่างกันอย่างลิบลับคือหมัดเข้าเป้าจากเดิมคือ 148-81 กลับกลายเป็น 68-98 หมัด โดยหมัดของปาเกียวใกล้เคียงกับสถิติเดิม ทว่าของฟลอยด์กลับน้อยกว่าถึง 1 เท่าตัว

แถมคะแนนที่ออกมาก็ยังเท่ากันที่ต่างฝ่ายต่างชนะกันคนละ 6 ยก จนมีคะแนนเท่ากันที่ 114-114 ชนิดที่ดูแล้วปาเกียวน่าจะเป็นฝ่ายเฉือนชนะเสียด้วยซ้ำ

ประเด็นก็คือ เว็บไซต์ดังกล่าวเผยข่าวนี้มาตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม แต่ "เดลี่ เมล" ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อมีชื่อระดับโลกของประเทศอังกฤษ เพิ่งเอามาขยายความในอีก 7 วันถัดมา

ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าสื่อเจ้านี้เคยให้ เจฟฟ์ พาวล์ หนึ่งในนักข่าวดังของสำนักพิมพ์ไปเกาะติดถึงริงไซด์ และวิเคราะห์คะแนนหลังการชกทันควันว่า ฟลอยด์กับปาเกียวควรจะเสมอกันที่ 115-115 คะแนนมาแล้ว

แถมยังเป็นสื่อที่เอาประเด็นว่ากรรมการอาจให้คะแนนผิดฝั่งจากการที่นักมวยทั้งคู่นั่งคนละมุม (แดง-น้ำเงิน) กับใบคะแนนที่ปรากฏในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กมากระจายข่าวอีก

นอกจากสื่อที่ทำท่าไม่ยอมจบเรื่อง "เสี้ยม" หลังไฟต์นี้ง่ายๆ แล้ว ตัว "คน" ก็ไม่ต่างกัน ทั้ง "จอมโว" อย่างฟลอยด์ที่ทำตัวเป็นพ่อพระกับการให้สัมภาษณ์ยกย่องปาเกียว และอาจเปิดโอกาสให้แก้มือในไฟต์สุดท้ายที่ 49 ก่อนแขวนนวมของตัวเอง

ทั้งที่ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ซีเนียร์ ผู้เป็นทั้งพ่อและเทรนเนอร์ยืนยันตั้งแต่หลังชกเสร็จว่า ไม่มีความจำเป็นที่ลูกชายของตนจะต้อง "รีแมตช์" กับปาเกียว เพราะผลลัพธ์ทุกอย่างก็จะออกมาเหมือนเดิม แถมจะเป็นการชนะที่มากยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ

แต่หลังจากปาเกียวเริ่มอ้างว่าตัวเองมีอาการเจ็บไหล่เรื้อรังจากการซ้อมจนเป็นที่มาของการพ่ายแพ้ครั้งนี้ แถมยังเผยอีกว่ากำลังจะเข้ารับการผ่าตัดและอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นพร้อมกับเรียกความฟิตนานถึง 9-12 เดือนอีกด้วย

ซึ่งฟลอยด์ก็เริ่มโยนหิน "ถามกระแส" ด้วยการปล่อยข่าวว่าส่งข้อความผ่านไปยัง สตีเฟ่น เอ.สมิธ หนึ่งในนักข่าวกีฬายักษ์ใหญ่อย่าง "อีเอสพีเอ็น" ว่าจะให้ปาเกียวแก้มือหลังยอดมวยฟิลิปปินส์ฟิตสมบูรณ์ดีแล้วในอีก 1 ปีข้างหน้า

ทว่าหลังจากกระแสเริ่มโหมกระหน่ำใส่ปาเกียวว่า "แพ้แล้วไม่ยอมรับความพ่ายแพ้" ฟลอยด์ก็กลับลำในช่วงการอัดเทปรายการเปิดใจหลังการชกในวันเดียวกันที่ 5 พฤษภาคม ว่าเปลี่ยนใจไม่ให้ปาเกียวล้างตาแล้ว

เพราะอีกฝ่ายไม่ได้เจ็บจริงอย่างที่ออกข่าว เพราะตลอดการชกทั้งหมัดและความเร็ว ยังทั้งแรงและไม่มีทีท่าจะตกลงแต่อย่างใด ก่อนที่ข่าวนี้จะหลุดออกมาในอีก 2 วันให้หลัง หรือก่อนเทปรายการดังกล่าวจะออกอากาศแค่ 2 วัน

ส่งผลให้ปาเกียวต้องรีบออกมาลดกระแสหลังผ่านมีดหมอมาสดๆ ร้อนๆ ว่าตัวเองยอมรับความพ่ายแพ้และผลการตัดสิน แต่ไม่วายไว้เชิงว่าหลังจากที่ดูเทปการชกอย่างละเอียดและจดคะแนนไปในตัวแล้ว

ก็ยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชนะในไฟต์นี้ด้วยความห่าง 2 คะแนนอยู่ดี แถมยังทำเป็นตัดพ้อเรื่องการแขวนนวมเพื่อเรียกคะแนนสงสารอีก

เห็นไหมว่า...มันไม่จบจริงๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook