"สเตอร์ลิ่ง VS เด เกอา"
เริ่มแรกเลยผมตั้งใจจะเขียนเรื่อง ดาวิด เด เกอา เตรียม “ย้ายทีม” จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่ทีมที่ “ใครๆ ก็รู้” ว่าทีมอะไรเป็นประเด็นหลัก
ครั้นเวลาล่วงเลยไม่กี่ชั่วโมงตลอดวันอังคารที่ผ่านมา ข่าว และฟีดแบ็กกรณี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้ขอคุย “ส่วนตัว” กับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพื่อย้ายทีม เริ่มจะแรงขึ้นเรื่อยๆ
จนน่าจะเป็น “อาหารหลัก” มื้อข้อเขียนวันนี้ของผม!
ประเด็นของ 2 นักเตะ ทั้ง เด เกอา และสเตอร์ลิ่ง จริงๆ คล้ายกันในแง่ที่เตรียมย้ายจาก “ทีมใหญ่” ไปสู่ (อีก) “ทีมใหญ่”
เรื่องดังกล่าวหากจะ “วิเคราะห์” มูลเหตุหลักๆ ก็น่าจะมีได้ไม่กี่ประการนั่นคือ :
1. เพื่ออัพค่าตัว เหมือนย้ายงานจากบริษัทหนึ่งไปสู่บริษัทใหม่ที่หากมีผู้สนใจ แน่นอนว่า งานใหม่ย่อมรายได้ดีกว่างานเดิม
2. พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทใหม่น่าจะนำความสำเร็จมาสู่ตัวเองได้มากกว่าที่เก่า
3. ย้ายสู่ทีมโปรด หรือบริษัทในฝัน เช่น ได้ทำงานกับ แอปเปิ้ล, กูเกิ้ล ฯลฯ
กรณี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เจ้าหนูวัย 20 ปี ย้ายจากจาเมกามาลอนดอน ตอนอายุ 7 ขวบ และเข้าเรียนแถบเวมบลีย์ หรือลอนดอนตะวันตกเฉียงเหนือ และเป็นเด็กฝึกสโมสรคิวพีอาร์ ซึ่งอยู่ลอนดอนตะวันตกกระทั่งอายุ 15 ปี ก่อนย้ายมาลิเวอร์พูล ใน ค.ศ.2010
ฉะนั้น มันก็เหมือนที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ได้กล่าวไว้ว่า หมอนี่ไม่ใช่ สเก๊าเซอร์ ไม่ใช่เด็กท้องถิ่น ฉะนั้นความ “ผูกพัน” ไม่ต้องพูดถึง
ขณะเหตุผลส่วนตัวของ สเตอร์ลิ่ง ก็คือ ต้องการย้ายไปสู่ทีมใหม่ที่ “การันตี” ความสำเร็จในสนามได้มากกว่า โดยค่าเหนื่อยที่ถูกอัพเป็น 90,000 ปอนด์ ต่อวีก คือ เรื่องรอง
กรณี ดาวิด เด เกอา ยอดนายทวารหมายเลข 1 พรีเมียร์ลีก นั้น “ชัดเจน” ว่า เป็นคนเมืองมาดริด ประเทศสเปน แม้จะเริ่มอาชีพค้าแข้งกับ แอตเลติโก มาดริด
ทว่าด้วยวัย 24 ปี และประสบการณ์ต่างแดนแบบเหมาะสมถึง 4 ฤดูกาล กับยอดทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จนกระทั่ง “สถาปนา” ตัวเองเป็นสุดยอดมือกาวของลีกแบบไร้ข้อกังขา
หาก เรอัล มาดริด สนใจจริงๆ มันจึงไม่แปลกที่ เด เกอา จะดำเนินรอยตามรุ่นพี่ เช่น คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่ในรายของ “โด้จิ๋ว” นั้น มาดริด คือความฝัน
เพิ่มเติมจาก กรณีนายด่านปีศาจแดง, หลุยส์ ฟาน ฮัล เสริมว่า แฟนสาวเด เกอา เป็นสแปนิช, คุณพ่อ และแม่เป็นสแปนิช ที่บินไปมาเยี่ยมลูกชายแทบทุกสัปดาห์ ไม่นับรวมการต้องเร่งสปีดเป็นมือ 1 ทีมชาติสเปน
โดย สเตอร์ลิ่ง เหลือสัญญากับหงส์แดงอีก 2 ปี ขณะที่เด เกอา เหลืออีกประมาณ 14 เดือน หรือก็คือ เตรียมเป็น “ฟรีเอเย่นต์” เดือน ม.ค.2016
เขียน “เท่านี้” สถานการณ์อ่านได้ไม่ยากว่า เด เกอา ดูเหมาะเจาะกับ เรอัล มาดริด และคล้ายๆ กับว่า จะถึงเวลาได้เริ่มต้นหาความท้าทายครั้งใหม่
เหนือสิ่งอื่นใด คือ การ “รับมือ” กับการย้ายทีมที่เด เกอา ไม่ “วอกแวก” และมุ่งมั่น สมาธิ ความทุ่มเท ยอดเยี่ยมโดยไม่ได้ตกเป็น “เฮดไลน์” แบบไม่เหมาะสม
ต่างกับ สเตอร์ลิ่ง ที่อาจโทษเด็กไม่ได้ แต่ต้องโทษตัวแทน ไอดี้ วอร์ด เหมือนอย่างที่ แกรี่ เนวิลล์ กล่าวโทษที่ให้คำปรึกษา และ “ดีล” รับสถานการณ์ไม่ดีเอาเลย
สุดท้าย คือ “ถามใจ” นักเตะครับ หากใจไม่อยู่ รั้งไว้ก็ใช่ที่ เพราะฟุตบอลยุคธุรกิจเต็มตัวมันยากเหลือเกินจะหาความซื่อสัตย์ และความจงรักภักดี
