เปิดสถิติสุดโหด! "ลูกยางบราซิล" ก่อนเจอ "สาวไทย" ในวอลเลย์บอล เนชั่นส์ลีก 2024

ถือเป็นปีทองของ ทัพวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติบราซิล ที่ต้องบอกว่าไร้คู่ต่อกร ตลอดทั้ง 3 สนาม ในการแข่งขันศึกลูกยาง เนชั่นส์ ลีก 2024 รอบแรก ที่ผ่านมา

โดย "ทัพนักตบสาวแซมบ้า" เดินหน้ากวาดชัยรวดทั้ง 12 เกม ไม่แพ้ให้กับใครหน้าไหน โกยคะแนนไปมากถึง 34 แต้ม รั้งอันดับ 1 ของตารางการแข่งขันในรอบแรก

• ส่องโปรแกรม วอลเลย์บอล เนชันส์ลีก 2024 รอบสุดท้าย พร้อมช่องถ่ายทอดสด
• ไทย VS บราซิล วอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก 2024 รอบสุดท้าย,เทียบสถิติ, ถ่ายทอดสด

นอกจากนี้ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม ยังทำให้อันดับโลกของพวกเขาแซงกลับขึ้นไปเป็นเบอร์ 1 ของโลกในเวลานี้ทันที และหากย้อนไปดูความพ่ายแพ้ของ "นักตบสาวแซมบ้า" ต้องย้อนไปเกือบ 1 ปีเลยทีเดียว หลังจากที่แพ้ครั้งสุดท้ายต่อ ตุรกี 0-3 เซต เมื่อวันที่ 22 กันยายน ปี 2023

ซึ่งใน เนชั่นส์ ลีก 2024 รอบสุดท้าย บราซิล ทีมอันดับ 1 จะต้องเจอกับ "นักตบสาวทีมชาติไทย" ทีมอันดับ 14 ของโลก ที่เข้ามาเล่นรอบสุดท้าย ในฐานะเจ้าภาพ

ซึ่งจากสถิติที่พบกันมา "ทัพนักตบสาวแซมบ้า" ทำได้เหนือกว่ามากเก็บชัยได้หมดจากการเจอกันทั้งหมด 5 ครั้งหลังสุด ขณะที่ทางฝั่ง "สาวไทย" สามารถเอาชนะได้เพียงครั้งเดียว 3-0 เซต ซึ่งเกิดขึ้นในการแข่งขันรายการ ชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2017 ที่บ้านเราเป็นเจ้าภาพ

ผลงานของ วอลเลย์บอลหญิง บราซิล ในการแข่งขันเนชั่นส์ ลีก 2024

• วันที่ 16 มิถุนายน 2024 : ชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-0 เซต
• วันที่ 14 มิถุนายน 2024 : ชนะ บัลแกเรีย 3-0 เซต
• วันที่ 13 มิถุนายน 2024 : ชนะ เยอรมนี 3-1 เซต
• วันที่ 12 มิถุนายน 2024 : ชนะ โปแลนด์ 3-1 เซต
• วันที่ 2 มิถุนายน 2024 : ชนะ ไทย 3-0 เซต
• วันที่ 1 มิถุนายน 2024 : ชนะ อิตาลี 3-2 เซต
• วันที่ 30 พฤษภาคม 2024 : ชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-1 เซต
• วันที่ 28 พฤษภาคม 2024 : ชนะ ญี่ปุ่น 3-2 เซต
• วันที่ 19 พฤษภาคม 2024 : ชนะ เซอร์เบีย 3-0 เซต
• วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 : ชนะ สหรัฐอเมริกา 3-1 เซต
• วันที่ 16 พฤษภาคม 2024 : ชนะ เกาหลีใต้ 3-0 เซต
• วันที่ 14 พฤษภาคม 2024 : ชนะ แคนาดา 3-1 เซต

สำหรับการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2024 รอบสุดท้าย ที่จะจัดขึ้นที่อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย จะใช้ระบบน็อกเอาต์ แพ้คัดออกทันที ซึ่ง "สาวไทย" ที่เข้ารอบในฐานะเจ้าภาพจะพบกับงาน "สาวแซมบ้า" บราซิล ทีมอันดับ 1 ของโลก