ประวัติ "บัวขาว บัญชาเมฆ" ยอดมวยระดับตำนานขวัญใจชาวไทย

ประวัติ "บัวขาว บัญชาเมฆ" ยอดมวยระดับตำนานขวัญใจชาวไทย

ประวัติ "บัวขาว บัญชาเมฆ" ยอดมวยระดับตำนานขวัญใจชาวไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทำความรู้จักกับ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทย ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการการต่อสู้ระดับสากล โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่น

ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ

ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ ชื่อในวงการว่า บัวขาว เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม 2525 เป็นนักมวยไทย ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการการต่อสู้ระดับสากล โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่น เคยเป็นนักมวยไทยสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข

ข้อมูลส่วนสูงในศึก RWS อยู่ที่ 178 เซนติเมตร น้ำหนัก 72.9 กิโลกรัม บัวขาว จัดเป็นหนึ่งในนักกีฬาอาชีพไทยที่ทำรายได้สูง โดยส่วนใหญ่มาจากการชกมวยที่ต่างประเทศ นอกจากนี้แล้ว ยังมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์ไทยเรื่อง ซามูไร อโยธยา และใน พ.ศ. 2554 บัวขาว ได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการไทยไฟต์ ที่ประเทศไทย ในรุ่น 70 กิโลกรัม ซึ่งได้เป็นแชมป์ของการแข่งขัน

บัวขาว เข้าแข่งขันไทยไฟต์อีกครั้งในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยครั้งนี้ได้พบกับเมาโร เซียรา ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวอิตาลี และบัวขาวเป็นฝ่ายชนะน็อค[5]

นอกเหนือจากกีฬาชกมวยแล้ว บัวขาวยังเคยเล่นฟุตบอลอาชีพในไทยลีก ดิวิชั่น 2 ให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์แบค ฤดูกาล 2014 ในตำแหน่งศูนย์หน้า

ปัจจุบันบัวขาวยังรับราชการทหารที่โรงเรียนกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนและจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ
สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว เป็นบุตรของ นายเล็ง กับ นางปาน (เสียชีวิตแล้ว) บัญชาเมฆ คุณพ่อเป็นชาวอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนคุณแม่เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีเชื้อสายชาวกูย โดยครอบครัวบัญชาเมฆ มีบุตร 5 คน ชาย 2 หญิง 3 โดยบัวขาว เป็นบุตรคนที่ 4 เกิดและเริ่มชีวิตอาชีพมวยไทย ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ที่อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ จากนั้น เขาได้เข้ากรุงเทพมาสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข เมื่ออายุ 15 ปี บัวขาว ได้รับเข็มขัดแชมป์มาครองเป็นจำนวนมากภายหลังเริ่มอาชีพมวยไทยที่กรุงเทพ ได้แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท แชมป์ประเทศไทยรุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อยอีกครั้ง ในรุ่นไลท์เวท ในปี พ.ศ. 2545 บัวขาวชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ชนะโคบายาชินักชกชาวญี่ปุ่น

พ.ศ. 2547 ชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2004 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยชนะ จอห์น เวย์น พาร์ นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย โคะฮิรุมาคิ ทากะยูกิ และ มาซาโตะ แชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น และในปีต่อมา บัวขาว เกือบที่จะรักษาแชมป์รายการ เค-วัน ได้ โดยแพ้คะแนน แอนดี้ ซาวเวอร์ ในนัดชิงชนะเลิศอย่างน่ากังขา

พ.ศ. 2549 เข้าชิงชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็นแชมป์ได้อีกครั้ง โดยเป็นนักมวยคนแรกในรายการนี้ที่ชนะเลิศสองสมัย

พ.ศ. 2550 เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2550 บัวขาวสามารถผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายโดยชนะคะแนน ไนกีย์ "เดอะ เนเจอรัล" โฮลต์ซเคน นักมวยชาวฮอลแลนด์
ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆพ.ศ. 2551 เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดย บัวขาว แพ้น็อกให้กับ โยชิฮิโร ซาโตะ นักมวยชาวญี่ปุ่น แฟนมวยบางส่วนกังขาว่ามีการล้มมวยหรือไม่ แต่พิจารณาแล้วพบว่า บัวขาว แพ้น็อกจริงๆ ด้วยเข่าของ ซาโตะ ทำให้จุกและโดนหมัดฮุคเข้ากกหูสลบคาเวที นับเป็นความเสียใจของผู้ชมชาวไทยครั้งหนึ่ง

พ.ศ. 2552 เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยคราวนี้สามารถเข้าถึงรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ต้องมาแพ้คะแนนให้ แอนดี้ ซาวเวอร์ คู่ปรับเก่าอย่างน่ากังขาอีกหน บัวขาว ถึงกับออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยากให้กรรมการชี้แจงผลการตัดสิน แฟนมวยเควันต่างพากันเห็นใจ บัวขาว โดยมีหลักฐานคือผลโหวตนักสู้เค-วันแม็กซ์ของปีนี้ บัวขาว ได้เป็นอันดับ 2 ด้อยกว่าเพียง จอร์จิโอ เปโตรเซียน ผู้เป็นแชมป์รายการเควันปีนี้เท่านั้น

พ.ศ. 2554 เข้าแข่งขันในรายการไทยไฟท์ โดยเป็นฝ่ายชนะน็อค ไมเคิล พิซิเทโล่ ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ และได้พบกับ แฟร้งค์ จอร์จี้ จากประเทศออสเตรเลียในรอบชิงชนะเลิศที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 18 ธันวาคม ของปีเดียวกันนี้ ซึ่ง บัวขาว เป็นฝ่ายชนะ และครองแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้

พ.ศ. 2555 ตกเป็นข่าวฮือฮาเมื่อได้หายตัวออกจากค่ายอย่างเป็นปริศนา หลังจากนั้นไม่นาน บัวขาว ก็ได้ปรากฏตัวพร้อมเผยว่า ที่ต้องหนีออกจากค่ายเนื่องจากไม่พอใจในหลายๆอย่าง และต้องการเป็นอิสระ ซึ่งทางค่ายป.ประมุขก็ได้เผยว่า หาก บัวขาว ขึ้นชกต่อไป จะถือว่าผิดสัญญาตามกฎหมาย และจะทำการฟ้องร้อง แต่ในในวันที่ 17 เมษายน บัวขาว ได้ขึ้นชกในรายการไทยไฟท์ ในนัดเปิดรายการ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา ในรุ่น 70 กิโลกรัม ในฐานะแชมป์เก่า เป็นฝ่ายเอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 ซึ่งหลังการชก บัวขาว เปิดเผยว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม ปัจจุบัน ทำค่ายมวยที่บ้านเกิดบ้านสองหนอง อำเภอสำโรงทาบ จ.สุรินทร์ "ค่ายบัญชาเมฆ" เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสศึกษาศิลปะแม่ไม้มวยไทย
ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ

วุฒิการศึกษา

สำเร็จการศึกษา บริหารธุรกิจบัณฑิต (ปริญญาตรี) สาขาการจัดการ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (บธ.บ.) มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ปีการศึกษา 2559

ในการนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จพระดำเนินเป็นองค์ประธาน ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ประจำปีการศึกษา 2559 ณ อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หอประชุมกองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร (วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560)

สำเร็จการศึกษา รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (ปริญญาโท) สาขาวิชาการบริหารสาธารณะ (ภาคพิเศษ) วิทยาลัยบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปีการศึกษา 2565

การหายตัวไปใน พ.ศ. 2555

ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555 บัวขาว ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ และไม่สามารถติดต่อได้ โดยทางฝ่ายจัดการได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนแผนการแข่งขันที่จะจัดขึ้นทั้งในประเทศฝรั่งเศส และอังกฤษ โดยมีการกล่าวถึงการหายตัวของ บัวขาว ในสื่อมวลชนหลายแห่ง ทั้งในและนอกประเทศไทย และในที่สุด บัวขาว ก็ได้เปิดเผยตัว โดยให้สัมภาษณ์ว่า ที่หายตัวนั้นไปไม่ได้เป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่ตัดสินใจอย่างดีแล้ว เนื่องจากไม่พอใจในเรื่องส่วนแบ่งค่าตัวของตัวเอง และนักมวยรุ่นน้องในค่าย

ที่สุดในวันที่ 17 เมษายน ปีเดียวกัน บัวขาว ได้ขึ้นชกในรายการไทยไฟท์ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา ในรุ่น 70 กิโลกรัม ในฐานะแชมป์เก่า และถือเป็นนักมวยแทน ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง ที่พักผ่อนไม่เกิน 21 วัน ตามพระราชบัญญัติกีฬามวย โดยเป็นฝ่ายเอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 ซึ่งหลังการชก บัวขาว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม เพราะก่อนหน้านั้นทางค่ายป.ประมุข ได้เปิดเผยสัญญาว่า หาก บัวขาว ขึ้นชกในรายการนี้โดยที่ไม่สังกัดค่ายจะถือว่าผิดกฎหมาย และจะทำการฟ้องร้อง

บัวขาว ได้ร่วมกับ ดี พุฒหอม (ครูมวยคนแรก) และ ทอง บุรากร (เทรนเนอร์คนแรก) เปิดค่ายฝึกสอนมวยไทย ที่จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้ชื่อค่าย "บัวขาว" หรือ "บัญชาเมฆ" เป็นชื่อชั่วคราว ก่อนที่จะเซ็นสัญญาร่วมกับค่ายมวย ป.ประมุขอีกครั้งเป็นระยะเวลา 5 ปี
ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ

ชีวิตส่วนตัว

ด้านครอบครัว มีภรรยานอกสมรสก็คือ นางสาวอัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ หรือ เก๋ มีลูกสาว 1 คนก็คือ ด.ญ.พิมพ์ญาดา บัญชาเมฆ (สกุลเดิม : พรชัยวิบูลย์) หรือ น้องมีตังค์ และอีกชื่อหนึ่ง น้องข้าวหอม ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558

โปรโมเตอร์

บัวขาว ได้เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันชกมวยเองเมื่อปี พ.ศ. 2556 ในรายการ "แม็กซ์เวิลด์แชมเปี้ยน 2013" ที่สนามสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นรายการการแข่งขันมวยไทยในระดับนานาชาติ ในแบบทัวร์นาเมนต์ โดยการแข่งขันเริ่มขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม ปีเดียวกัน

รับราชการทหาร

บัวขาว บัญชาเมฆ หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ ได้เข้ารายงานตัวที่ โรงเรียนนายสิบทหารบก ค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เพื่อเป็นทหาร โดยได้รับตำแหน่งแรกเป็นรองผู้บังคับหมู่ หมวดบริการ กองร้อยบริการ กองบริการ โรงเรียนการกำลังสำรอง ศูนย์การกำลังสำรอง

การศึกษาหลักสูตรทางการทหาร

จบหลักสูตรส่งทางอากาศ รุ่นที่ 338 โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ

ค่ายมวยบัญชาเมฆ

บัวขาวก่อตั้ง "ค่ายมวยบัญชาเมฆ" ซึ่งมีนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงอีก 2 คน คือ ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆ และ นารูโตะ บัญชาเมฆ และ ธนาธร บัญชาเมฆ (ดาวรุ่งโต๊ะจีน)

ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ

ผลงาน บัวขาว เกียรติประวัติ

  • แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท (ที่สนามมวยลุมพินี) ปี 2544
  • แชมป์ K-1 World MAX champion ปี 2547 (2004) และ 2549 (2006) เข้าชิงรอบสุดท้ายถึง 5 ครั้ง ได้แชมป์ 2 สมัย
  • แชมป์ 2010 Shoot Boxing S-Cup World champion ปี 2553 คนไทยคนแรก และคนเดียวในประเทศไทย
  • แชมป์ สภามวยไทยโลก ในพระบรมราชูปถัมภ์ WMC World champion ปี 2549, 2552, 2554, 2557
  • แชมป์ สภามวยโลก WBC Muaythai Diamond World Championship ปี 2557
  • แชมป์ ไหว้ครูมวยไทยสวยงาม สนามมวยลุมพินี ปี 2545
  • ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ แชมป์มวยไทยไฟท์ ปี 2554, 2555
  • ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ปี 2555
  • ถ้วยพระราชทาน กษัตริย์อัลแบร์ตที่ 2 แห่งโมนาโค แชมป์ "มอนติคาโล ไฟต์ติง มาสเตอร์" ปี 2557
  • กรรมการบริหารสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิงแห่งประเทศไทย และผู้จัดการทีมนักกีฬาคิกบ็อกซิงทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม
  • ได้รับโล่ห์ ลักษณะผู้นำดีเด่น โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ


รางวัลเชิดชูเกียรติคุณ, ปริญญากิตติมศักดิ์

  • เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาโทกิตติมศักดิ์เชิดชูเกียรติคุณ) สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา โดยมติสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี พ.ศ. 2556
    ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร

  • เข้ารับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์เชิดชูเกียรติคุณ) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา) โดยมติสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ปี พ.ศ. 2557
    ในการนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร

  • ได้รับปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการการกีฬา (ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์เชิดชูเกียรติคุณ) โดยมติสภามหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ปี พ.ศ. 2565
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook