ประวัติ "ธชตวัน ศรีปาน" ตำนานนักฟุตบอลกองกลางทีมชาติไทย

ประวัติ "ธชตวัน ศรีปาน" ตำนานนักฟุตบอลกองกลางทีมชาติไทย

ประวัติ "ธชตวัน ศรีปาน" ตำนานนักฟุตบอลกองกลางทีมชาติไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธชตวัน ศรีปาน totchtawan ชื่อเล่น ญา (นามแฝง แบน) หรือชื่อเดิม ตะวัน ศรีปาน เป็นอดีตนักฟุตบอลตำแหน่งกองกลางของทีมชาติไทย ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค และหัวหน้าผู้ฝึกสอนของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในไทยลีก

ธชตวัน เคยเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสรฟุตบอลหลายสโมสร เช่น บีอีซี เทโรศาสน, สระบุรี, เพื่อนตำรวจ, เมืองทอง ยูไนเต็ด, โปลิศ เทโร และ สุพรรณบุรี เขาเคยคุมทีม เพื่อนตำรวจ ชนะเลิศไทยลีกดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2558 (แต่ไม่ได้เลื่อนชั้นเนื่องจากยุบทีม) และเคยคุมทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด ชนะเลิศไทยลีก ฤดูกาล 2559

ประวัติ

ธชตวัน ศรีปาน เกิดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2514 ที่ตำบลห้วยบง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรคนที่ 3 จากจำนวนบุตรทั้งหมด 4 คน ของ นายสมกิจ และ นางสมศรี ศรีปาน มีชื่อเล่นจริงๆว่า "ญา" แต่เพื่อนๆเรียกว่า "แบน" และเป็นที่รู้จักกันในชื่อนี้ ธชตวัน เริ่มเข้ารับการศึกษาในชั้นอนุบาลถึง ป.6 ที่โรงเรียนแสงวิทยา ก่อนจะศึกษาต่อในชั้นม.ต้นที่โรงเรียนแก่งคอย จากนั้นได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคสระบุรีและจบการศึกษาปริญญาตรีจาก สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคนนทบุรี

ด้านชีวิตส่วนตัว ธชตวัน สมรสกับ "น้ำฝน" วริทธิ์ธยาน์ เอมะศิริ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของ การบินไทย โดยงานฉลองมงคลสมรสมีขึ้น เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ
gettyimages-75259084-594x594
ประวัติการเล่นฟุตบอล

ธชตวัน เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพให้กับ สโมสรราชวิถี และมาโด่งดังกับสโมสรธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จนก้าวขึ้นไปติดทีมชาติในยุคที่มี ชัชชัย พหลแพทย์ เป็นกุนซือ โดยติดทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 ในรายการปรีเวิลด์คัพ 1994 และได้ลงเล่นนัดแรกในนามทีมชาติ ในนัดที่แข่งกับทีมชาติบังคลาเทศ ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น

ธชตวัน เติบโตมาในวงการฟุตบอลกับชุดดรีมทีม นำโดย ธวัชชัย สัจจกุล และ วิรัช ชาญพานิชย์ และมีผลงานที่สำคัญคือการนำทีมชาติชุดบี คว้าแชมป์ คิงส์คัพ ประจำปี พ.ศ. 2537 และมาคว้าแชมป์รายการอินดิเพนเดนท์ แชมเปียนชิพ ปี พ.ศ. 2537, ได้ 4 เหรียญทอง จากการแข่งขันฟุตบอล ซีเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่ประเทศสิงคโปร์, ซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่จังหวัดเชียงใหม่, ซีเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศอินโดนีเซียและ ซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่ประเทศบรูไน, รวมทั้งแชมป์ ไทเกอร์คัพ อีก 3 สมัย และอันดับที่ 4 การแข่งขันฟุตบอลในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพมหานคร

หลังจากที่สโมสร ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ ถูกยุบทีม ธชตวัน จึงย้ายไปเล่นในประเทศสิงคโปร์ กับ เซมบาวัง เรนเจอร์ส ในเอสลีกนานถึง 6 ปี โดย ธชตวัน ถือเป็นหนึ่งในขวัญใจของแฟนบอลที่นั่น โดยได้รับการยกย่องให้เป็น "King of Sembawang Rangers" แต่ด้วยความที่ทีมยังมีศักยภาพไม่มากพอ จึงไม่อาจคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ นักเตะตัวเก่งจึงทยอยย้ายออกจากทีม และ ธชตวัน ก็ย้ายไปเล่นในเวียดนาม กับทีม ฮหว่างอัญซาลาย ในวีลีก เป็นเวลาถึง 3 ฤดูกาล ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ 1 สมัย และได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดกองกลางของอาเซียน

ปี พ.ศ. 2546 ธชตวัน ได้รับรางวัล "เชียร์ไทยอวอร์ด" ในฐานะ "นักฟุตบอลยอดเยี่ยม" จากเว็บไซต์ cheerthai.com ซึ่งเป็นรางวัลที่ให้คะแนนจากการโหวตจากแฟนฟุตบอลไทย
gettyimages-650952042-594x594หลังหมดสัญญากับ ฮหว่างอัญซาลาย ธชตวัน กลับมาเล่นในเมืองไทยอีกครั้งกับทีม บีอีซี เทโรศาสน ในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2007 โดยรับตำแหน่งกัปตันทีมและพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 ในฤดูกาล 2007 และ 2008

ธชตวัน มีบุคลิกส่วนตัวที่ค่อนข้างใจเย็น ไม่เคยโมโหหรือลุกขึ้นมาโวยวายเพื่อนร่วมทีมหรือผู้แข่งขัน มีน้ำใจนักกีฬาสูง โดยหลังเกม ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ธชตวัน ก็พร้อมลุกขึ้นมาจับมือกับคู่แข่ง ส่วนนอกสนาม ธชตวัน มีความเป็นกันเองกับแฟนบอลมาก จะยิ้มแย้มและยอมให้ถ่ายรูปเสมอ จึงได้รับฉายาว่าเป็น "สุภาพบุรุษลูกหนังของเมืองไทย" โดยการรับใช้ชาติในช่วงหลังๆ ธชตวัน ได้รับตำแหน่งกัปตันทีม โดยได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมครั้งแรกในเกมส์ที่ไทยชนะจีน 1-0 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 และทำหน้าที่ดังกล่าวจนเลิกเล่นทีมชาติ

ธชตวัน เลิกเล่นให้ทีมชาติหลังจาก ทีมชาติไทย ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบ 20 ทีม ในปี พ.ศ. 2551 หลังจากที่ โอมาน ชนะ ไทย 2–1 ที่ประเทศโอมาน ซึ่ง ธชตวัน เป็นคนยิงประตูขึ้นนำให้กับทีมชาติไทย

วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2552 ธชตวัน หวนกลับคืนสู่ทีมชาติอีกครั้ง ในเกมส์เทสติโมเนียลแมตช์ซึ่งเป็นการเล่นให้ทีมชาติเป็นนัดสุดท้าย โดย ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ และ ไทย ชนะไป 3–1 โดย ธชตวัน เป็นผู้ยิงประตูที่ 2 ให้ทีม และถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 31 เพื่อให้ ดัสกร ทองเหลา ลงเล่นแทน ในระหว่างพักครึ่ง ธชตวัน ได้มอบพวงมาลัยให้แก่ผู้มีพระคุณของตน รวมทั้งพ่อและแม่ของตัวเองด้วย

สถิติการลงสนามให้ ทีมชาติไทย ของ ธชตวัน มีทั้งหมด 145 นัด ยิงได้ทั้งหมด 23 ประตู โดยฟีฟ่าให้การรับรองอยู่ที่ 110 นัด และยิงให้ทีมชาติชุดใหญ่ 19 ประตู

ธชตวัน ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 5 ชื่อว่า เบญจมดิเรกคุณาภรณ์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2543

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ ของ ประวัติ "ธชตวัน ศรีปาน" ตำนานนักฟุตบอลกองกลางทีมชาติไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook