"เออร์ลิง ฮาลันด์" ใกล้แค่ไหนกับโอกาสที่จะคว้าบัลลงดอร์?

"เออร์ลิง ฮาลันด์" ใกล้แค่ไหนกับโอกาสที่จะคว้าบัลลงดอร์?

"เออร์ลิง ฮาลันด์" ใกล้แค่ไหนกับโอกาสที่จะคว้าบัลลงดอร์?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

30 พฤษภาคม 2019 ในเกมฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี คือวันแรกที่โลกใบนี้ได้รู้จักกับเด็กหนุ่มปีศาจจอมถล่มประตูนามว่า "เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์" ที่จัดการกระซวกตาข่ายใส่เหยื่อผู้น่าสงสารอย่าง ทีมชาติฮอนดูรัส ไปถึง 9 ประตูในเกมเดียว

ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่ ฮาลันด์ เพิ่งย้ายจากสโมสร โมลด์ ในลีกบ้านเกิดมาค้าแข้งกับ เรด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก เป็นซีซันแรกพอดี ก่อนจะเริ่มไต่เต้าสร้างชื่อระบือนามมาเรื่อยๆ จนย้ายไปค้าแข้งในลีกชั้นนำอย่าง บุนเดสลีกา เยอรมนี และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามลำดับ
gettyimages-1152695920-594x59ทุกประเทศ ทุกผืนสนาม ที่ ฮาลันด์ มีโอกาสลงไปเหยียบ เขาสามารถระเบิดตาข่ายได้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนบางครั้งผู้คนก็ลืมไปว่าเจ้าหนุ่มคนนี้อายุเพียงแค่ 20 ต้นๆเท่านั้น เพราะด้วยสายตาที่กระหายการทำประตูอยู่ตลอดเวลา, สัญชาตญาณกองหน้าที่เฉียบคมสม่ำเสมอ รวมถึงการมีร่างกายสูงใหญ่กำยำและความเร็วอันจัดจ้าน ฮาลันด์ จึงเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ถูกสร้างมาเพื่อระเบิดตาข่ายโดยเฉพาะ

ฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงมาตลอดหลายปีจึงทำให้ ฮาลันด์ ถูกนำไปเปรียบเทียบกับดาวยิงร่วมรุ่นอย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองคนต่างประสบความสำเร็จมาไม่น้อย แต่หนึ่งรางวัลที่ทั้งสองดาวเตะยังไม่เคยได้สัมผัสก็คือ "บัลลงดอร์" ที่จะเป็นเครื่องหมายการันตีว่าตกลงแล้วใครเป็นหนึ่งในใต้หล้าของโลกฟุตบอลยุคใหม่
gettyimages-1494057975-594x59วันนี้ 90MIN จึงอยากพาทุกท่านไปชมเส้นทางการลุ้นบัลลงดอร์ของ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ในวัย 24 ปี ว่าปัจจุบันดาวเตะชาวนอร์เวย์เข้าใกล้มากแค่ไหนแล้ว?

ฮาลันด์ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงบัลลงดอร์ไปแล้วกี่ครั้ง?

เส้นทางการลุ้นรางวัลบัลลงดอร์ของ ฮาลันด์ เริ่มดูดีขึ้นตามลำดับในทุกๆปี นับตั้งแต่เจ้าตัวจัดการยิง 9 ประตูใส่ ฮอนดูรัส ได้เมื่อปี 2019 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2021 สมัยค้าแข้งอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเป็นฤดูกาลที่เจ้าตัวระเบิดฟอร์มยิง 41 ประตูจากการลงสนาม 41 นัด แถมยังมี 12 แอสซิสต์ เป็นตัวห้อยท้ายอีกด้วย

หลังจากนั้น ฮาลันด์ ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในทุกปีเรื่อยมา โดยซีซันที่เจ้าตัวใกล้เคียงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นปี 2023
gettyimages-1765667670-594x59

ใกล้แค่ไหนแล้วสำหรับ ฮาลันด์?

อย่างที่ได้บอกว่าในปี 2023 เป็นปีที่ ฮาลันด์ ใกล้เคียงจะได้สัมผัสถ้วยรางวัลบัลลงดอร์มากที่สุด โดยเป็นปีแรกที่ "เจ้าเด็กปีศาจ" คว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" ได้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นซีซันแรก พร้อมลบข้อครหาจากเหล่าบรรดากองแช่งด้วยการกระหน่ำไปถึง 52 ประตูในทุกรายการ

ในช่วงเวลานั้น แฟนบอลรวมถึงสื่อมวลชนต่างยกให้ ฮาลันด์ เป็นเบอร์ 1 ของวงการ เพราะทั้งความสำเร็จส่วนตัวและส่วนทีมเจ้าตัวก็ได้มาทั้งหมดในซีซัน 2022/23 จึงไม่น่าแปลกใจอะไรหากจะได้บัลลงดอร์กลับไปนอนกอดที่บ้านอีกสักหนึ่งรางวัล

แต่แล้วเรื่องราวกลับมาเฉือนกันตอนท้าย เมื่อซูเปอร์สตาร์อย่าง ลิโอเนล เมสซี สามารถพาทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จ ซึ่งในอีกมุมหนึ่งมันก็คือเรื่องราวที่ เมสซี สามารถปิดจบตำนานของตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ คะแนนเสียงจึงเทไปให้ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์คว้าบัลลงดอร์สมัยที่ 8 ของตนเองไปครอง โดยที่ ฮาลันด์ ได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆ

ผลการตัดสินดังกล่าวทำให้หลายคนออกมาบ่นและตั้งคำถามเกี่ยวกับการตัดสินของ ฟรองซ์ ฟุตบอล ว่าไม่มีความเป็นธรรม แต่ตัวของ ฮาลันด์ ก็ไม่เคยออกมาโวยเลยสักครั้ง มีเพียงการเดินหน้าถล่มตาข่ายต่อไปโดยหวังว่าสักวัน บัลลงดอร์ และตัวเขา จะต้องโคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง
gettyimages-1653577577-594x59

สถิติลำดับบัลลงดอร์ของ ฮาลันด์

ปี 2021 เป็นปีที่สุดท้ายที่รางวัลบัลลงดอร์ ตัดสินตามผลงานนักเตะในรอบ 1 ปีปฏิทิน ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นตัดสินตามผลงาน 1 ฤดูกาลเหมือนในปัจจุบัน ซึ่งในปีนั้นเป็นปีแรกที่ ฮาลันด์ มีชื่อถูกเสนอเข้าชิงบัลลงดอร์ จากผลงานการพา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์เดเอฟเบ-โพคาล ได้ในช่วงท้ายฤดูกาล พร้อมมีสถิติการทำประตูที่ดีมากๆ จนคะแนนเสียงโหวตให้เจ้าตัวจบในลำดับที่ 11

ฤดูกาลต่อมากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ฮาลันด์ โชคร้ายประสบปัญหาอาการบาดเจ็บจนพลาดการลงสนามไปหลายนัด แต่เมื่อเขากลับมาก็ยังสามารถถล่มไปได้ถึง 29 ประตูจากการลงสนาม 30 นัด โดยที่มีส่วนร่วมทำ 3 ประตูในยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แต่ทีมต้นสังกัดก็ยังไม่วายตกรอบไปเล่นในยูฟา ยูโรปา ลีก ในตอนท้าย

อาการบาดเจ็บและผลงานโดยรวมของทีมทำให้ ฮาลันด์ ทำได้เพียงจบเป็นลำดับที่ 10 ในบัลลงดอร์ปีนั้น โดยที่รุ่นพี่ดาวยิงอย่าง คาริม เบนเซมา คว้ารางวัลกลับบ้านไปด้วยผลคะแนนโหวตแบบขาดลอยที่ 549 โหวต โดยที่ ฮาลันด์ ได้ไปเพียง 18 โหวตเท่านั้น ส่วน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และ คิลิยัน เอ็มบัปเป จบในลำดับที่ 4 และ 6 ตามลำดับ

ปี 2023 ฮาลันด์ จบในตำแหน่งรองชนะเลิศ ตามหลังผู้ชนะอย่าง เมสซี อยู่ที่ 105 คะแนน

gettyimages-2168227941

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook