"สิงห์ คาร์ท คัพ" เวทีเริ่มต้น สู่หมุดหมายแห่งอนาคตของวงการแข่งรถเมืองไทย

โลกแห่งกีฬามอเตอร์สปอร์ต ล้วนมีจุดมุ่งหมายที่หลายคนปรารถนา นั่นคือการก้าวไปเป็นนักขับชั้นนำของประเทศ และของโลก ซึ่งกว่าจะที่ฝันตรงนั้นจะมาถึง ทุกคนต่างก็ต้องมีจุดเริ่มต้นบนเส้นทางนี้

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสออกเดินทางไปที่สนามพีระเซอร์กิต จ.ชลบุรี เพื่อไปดูการแข่งขันของน้องๆหนูๆเยาวชน กับการแข่งขันที่ชื่อว่า "สิงห์ คาร์ท คัพ 2024" เชื่อเหลือเกินว่านี่คือจุดเริ่มต้น หรือที่หลายคนมักบอกกันว่า มันคือการออกสตาร์ทเพื่อเข้าสู่วงการแข่งรถในอนาคต มันเสมือนใบเบิกทางสำหรับการที่พวกเขาจะได้ก้าวเข้าสู่สนามที่จะสร้างชื่อให้เด็กๆเหล่านี้
ภาพแรกที่สัมผัสได้เลย คือความอบอุ่นของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง ต่างก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่เรียกกันว่า "ทีมสปิริต" หลังจากได้คุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ส่งลูกๆลงสนาม ต่างมีแนวคิดคล้ายๆกัน นั่นคืออยากให้เขาออกมาเจอโลกข้างนอก เจอเพื่อน เจอโค้ชที่เก่งๆ เพื่อให้เขาค้นหาตัวเอง และพัฒนาสิ่งที่เขาชื่นชอบอย่างเช่น การขับรถโคคาร์ท แบบนี้
การแข่งขันรายการ "สิงห์ คาร์ท คัพ" ในปีนี้ เป็นโครงการที่ต่อยอดมาจาก "สิงห์ จูเนียร์ คาร์ท ชาลเลนจ์" ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2016 โดยเหล่านักขับดาวรุ่งจะได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์จากนักขับรุ่นพี่ ซึ่งในปีนี้นอกจากจะได้ ติณห์ ศรีตรัย อดีตแชมป์ประเทศไทย เป็นผู้ดูแลโครงการแล้ว ยังมีนักขับจากศึกไทยแลนด์ซูเปอร์ซีรีย์ นำโดย 2 นักขับซูเปอร์คาร์ GT3 "แบงค์" กันตศักดิ์ กุศิริ และ คาร์โล แวน แดม รวมถึง "เน็กซ์ซี่" นรรัศมิ์ อภิวาท นักขับโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อดีตศิษย์เก่าสิงห์ คาร์ท คัพ มาร่วมติวเข้มน้องๆด้วย และทั้งหมดได้ผันตัวเองมาเป็นโค้ชที่ร่วมกันถ่ายทอดประสบการณ์ และวิธีขับขี่ที่ปลอดภัย และ สนุกไปกับการแข่งขัน
ซึ่งทันทีที่ออกสตาร์ท ด้วยความที่รถโกคาร์ทที่ใช้แข่งขันในรายการนี้ เป็นรถใหม่แกะกล่องทุกคัน เพราะทางผู้จัดอยากให้นักแข่งทุกคนเท่าเทียมกันหมด ทั้งสภาพเครื่อง, ความเร็วที่เท่ากันทุกคัน นั่นเท่ากับว่าฝีมือ และการเลือกใช้จังหวะ จึงสำคัญกับการแข่งขันเป็นอย่างมาก และนี่คือเหตุผลว่าทำไมการแข่งขันถึงออกมาสุดคู่คี่สูสีแบบสุดๆ
โดยไฮไลต์ในรอบไฟนอล 2 แบ่งเป็นรุ่นรุกกี้ เอ นักขับอายุ 9-10 ปี และ รุกกี้ บี นักขับอายุ 7-8 ปี โดยปล่อยรถพร้อมกันทั้ง 2 รุ่น ซึ่งผลการแข่งขันในเรซสุดท้าย ดันเต้ เอ็นโซ่ ควิโนเนส นักขับลูกเสี้ยวไทย-อเมริกัน รุกกี้ บี ในรถแข่งหมายเลข 5 ขับนำม้วนเดียวจบ คว้าชัยเหนือ สิรพัชร์ เกตุสุวรรณ นักขับรถหมายเลข 1 จากรุ่นรุกกี้ เอ ไปได้อย่างสนุก
ส่วนคะแนนสะสมเมื่อจบฤดูกาลแบ่งตามรุ่นการแข่งขัน เริ่มจากรุ่นรุกกี้ เอ นักขับอายุ 9-10 ปี แชมป์เป็นของ สิรพัชร์ เกตุสุวรรณ เก็บไปทั้งสิ้น 73 คะแนน อันดับที่สองเป็น ภูวรา ยงใจยุทธ ที่เข้าป้ายอันดับที่ 3 ในเรซสุดท้าย มีทั้งสิ้น 67 คะแนน ส่วนอันดับสามเป็นของ ไมตรีวัฒน์ วนิชประภา เก็บไป 60 คะแนน ขณะที่รุ่นรุกกี้ บี นักขับอายุ 7-8 ปี อันดับหนึ่ง ดันเต้ เอ็นโซ่ ควิโนเนส คว้าแชมป์ด้วยการมี 74 คะแนน อันดับที่สองเป็น เศรษฐภัทร ธีราภัทรบัววงษ์ นักขับในรถแข่งหมายเลข 11 ที่เก็บไป 64 คะแนน และอันดับที่สาม เป็นของ ธามม์ธัชช์ ยุวสกุลไกร รถแข่งเบอร์ 7 เก็บไป 61 คะแนน
ภายหลังจบการแข่งขันมีการประกาศยืนยันให้นักแข่งดาวรุ่งทั้ง 14 คน จากรายการ สิงห์ คาร์ท คัพ 2024 ได้รับสิทธิ์ รวมถึงส่วนลดพิเศษสำหรับค่าสมัคร ในการเข้าแข่งขันรถคาร์ทรายการ Rok Cup Thailand 2025 ที่สนับสนุนโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และได้รับการรับรองมาตรฐานโดย ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่สิงห์ฯ ต้องการเฟ้นหานักนักขับหน้าใหม่ อายุน้อย ที่เตรียมจะผลักดันและให้พวกเขาก้าวไปเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ ที่จะร่วมกันต่อยอดความสำเร็จและพร้อมที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติต่อไปในอนาคต