นักเตะอังกฤษค่าตัว "เกินราคา" ?!

หลังจากที่ “ลิเวอร์พูล” ปิดดีลของนักเตะจอมทรยศอย่าง “ราฮีม สเตอร์ลิ่ง” กับ “แมนฯ ซิตี้” ด้วยค่าตัว 49 ล้านปอนด์ ถือว่าเป็นความสำเร็จของสโมสร ที่สามารถสร้างกำไรมหาศาลกับการขายนักเตะระดับดาวรุ่งดีกรีทีมชาติอังกฤษคนนึง

ถึงตอนนี้ก็มีนักเตะเลือดอังกฤษแท้ๆที่กำลังเป็นข่าว และมีโอกาสที่ค่าตัวจะแพงมหาศาลเหมือนกันคือ “จอห์น สโตนส์” กองหลังดาวรุ่งวัย 21 ปีของ “เอฟเวอร์ตัน” ที่ติดทีมชาติไปเพียง 4 นัด ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากเศรษฐีใหญ่อย่างสิงห์บลู “เชลซี”

แถมทางแชมป์พรีเมียร์ลีกล่าสุดได้ยื่นข้อเสนอมูลค่า 20 ล้านปอนด์ไปสู่ขอนักเตะคนนี้เรียบร้อยแล้ว แต่ทาง “เอฟเวอร์ตัน” ได้ตอบปฏิเสธไป แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทางต้นสังกัดปัจจุบันของ “จอห์น สโตนส์” กำลัง “ดึงเชง” เพื่อเรียกราคาเพิ่ม ทั้งๆที่เมื่อ 2 ปีที่แล้วทีมได้นักเตะคนนี้มาจาก “บาร์นสลีย์” ด้วยราคาค่างวดแค่ 3 ล้านปอนด์เท่านั้น

ไม่แน่เร็วๆนี้ อาจจะได้เห็นค่าทำลายสถิติกองหลังชาวอังกฤษที่ค่าตัวแพงที่สุดก็เป็นได้ เพราะเจ้าของสถิติเดิมคือ “ริโอ เฟอร์ดินานด์” อดีตปราการหลังของ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ที่ถูกซื้อมาจาก “ลีดส์ ยูไนเต็ด” เมื่อปี 2002 ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์

ขณะที่สถิติการขายนักเตะตำแหน่งกองหลังในอังกฤษที่แพงที่สุดคือ “ดาวิด หลุยซ์” ที่ “เชลซี” ขายให้กับ “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง” ในฤดูกาลที่แล้ว

จริงๆในรายของ “จอห์น สโตนส์” ถ้าเอาฝีเท้าไปเปรียบเทียบนักเตะคนอื่นที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษ เชื่อว่า “โจเซ่ มูรินโญ่” และแมวมองสามารถหานักเตะในระดับที่ฝีเท้าใกล้เคียงกันในราคาที่ถูกกว่าเป็นเท่าตัวได้อย่างแน่นอน

แต่การที่น้ามูและเหมือนหลายๆทีมใหญ่ของอังกฤษตอนนี้ ยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อนักเตะเลือดผู้ดี เพราะต้องการทีมที่ดีที่สุดในยุคที่ทางสหพันธ์ฟุตบอลอังกฤษหรือ เอฟเอ นำ กฎโฮมโกรว์น (Home grown) เข้ามาใช้

โดยในกฎระบุไว้ว่า ในทีมชุดใหญ่ของแต่ละทีม 25 คน ต้องมีนักเตะโควต้าโฮมโกรว์น คือนักเตะที่ฝึกซ้อมอยู่กับสโมสรในอังกฤษตั้งแต่อายุ 18 ปีถึง 8 คนด้วยกัน

แถมทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ ยูฟ่า ก็นำกฎนี้มาใช้ซึ่งคล้ายกันคือทีมที่เล่นในฟุตบอล “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก” จะต้องมีนักเตะอย่างน้อย 8 คนในทีมที่มาจากระบบเยาวชนในประเทศของตัวเอง

สำหรับทีมใหญ่ในอังกฤษที่ต้องการประสบความสำเร็จอย่าง “เชลซี” “แมนฯซิตี้” “อาร์เซน่อล” และ “แมนฯยูไนเต็ด” จึงไม่มีทางเลือก ที่ช่วงหลังๆต้องหันมามองนักเตะในอังกฤษ

ที่รู้ทั้งรู้อยู่ว่าเมื่อยื่นขอเสนอไปยังไงก็โดนโก่งราคาหรือจะซื้อได้ในในแบบ “เกินราคา” และ “แพงเกินไป”

อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดไม่ซื้อและใช้วิธีดันเด็กเยาวชนที่เป็นคนท้องถิ่นขึ้นมาแทน ก็ย่อมมีความเสี่ยงกับความล้มเหลวในฤดูกาลนั้น เพราะถ้าเกิดนักเตะตัวหลักที่เป้นชาวต่างชาติเกิดเจ็บ แล้วให้นักเตะจากระบบเยาวชนของตัวเองที่ส่งชื่อไปลงสนามก็อาจจะสู้คู่แข่งไม่ได้

สู้ยอมจ่าย “เกินราคา” เพื่อหานักเตะในประเทศตัวเองแต่อย่างน้อยก็มี “ความเก่ง” ในระดับนึงจะดีกว่า จึงไม่แปลกที่เชลซีจะต้องพยายามนำเข้า “จอห์น สโตนส์” ให้ได้

ซึ่งต้องมาดูกลยุทธ์การต่อรองของ “บิลล์ เคนไรท์” ประธานสโมสรเอฟเวอร์ตัน ว่าจะสามารถเรียกราคาได้ขนาดไหน

ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่ทีมใหญ่จากพรีเมียร์ลีก ยอมจ่ายค่าตัวของ “นักเตะอังกฤษ” ในแบบ “เกินราคา” เพราะอย่างน้อยๆก็เป็นการจ่ายเพื่อการันตีความสำเร็จที่มากกว่าครับ

Bank