ฝืนเจ็บ! "น้องมิ้นท์" สุดเจ๋ง! ประเดิมทองแรกเทควันโดโคเรียฯ
"น้องมิ้นท์" นภาพร จรณวัตร สาวน้อยวัย 16 ปี ฝืนเจ็บส้นเท้าคว้าทองแรกเทควันโด "โคเรีย โอเพ่น 2015" ด้วยการชนะ เวโรนิก้า กาเรซ ตัวเก่งจากฟิลิปปินส์ ขาด 12-1 คะแนน ส่งผลให้เจ้าตัวครองแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ระบุฝันไกลอยากคว้า "เหรียญทอง" ศึกเยาวชนชิงแชมป์โลกปี 2016 ที่เปรู
การแข่งขันเทควันโดรายการ "โคเรีย โอเพ่น 2015" ระดับจีทู เพื่อเก็บคะแนนสะสมจัดอันดับโลกไปโอลิมปิกปี 2016 ที่บราซิล โดย "แชมป์" ในแต่ละรุ่นจะได้รับ 20 คะแนน เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่เมืองชุนชอน ประเทศเกาหลีใต้
ก่อนหน้านี้จอมเตะไทยคว้าไปได้แล้ว 1 เหรียญเงินจาก "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ อดีตเหรียญทองแดงลอนดอนเกมส์ และ 1 เหรียญทองแดงด้วยฝีเท้าของ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ดีกรีแชมป์โลกคนล่าสุด ที่รัสเซีย
สำหรับการแข่งขันในวันนี้นักเทควันโดไทยมีคิวลงสนาม 2 คน คือ รุ่น 57 กก.หญิง "น้องจูน" รังสิญา นิสัยสม อดีตแชมป์โลกปี 2011 ที่เกาหลีใต้ และรุ่น 46 กก.เยาวชนหญิง "น้องมิ้นท์" นภาพร จรณวัตร อดีตเหรียญเงินเยาวชนโลกปี 2014 ที่ไต้หวัน ในฐานะอดีตเจ้าของเหรียญทองรายการนี้มาแล้ว 2 สมัย
ผลปรากฏว่า นักเทควันโดไทยคว้าเพิ่มมาได้อีก 1 เหรียญทองจาก "น้องมิ้นท์" นภาพร จรณวัตร โดยรอบแรกไล่ต้อนเอาชนะ รูกะ คิชิดะ จากญี่ปุ่น ไปแบบสกอร์เอ๊าท์คลาสในยกที่สาม 12-0 คะแนน
รอบสอง แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บส้นเท้าซ้ายมานานเกือบ 1 ปี แต่ น้องมิ้นท์ กัดฟันเตะสอนเชิง พาร์ค อึน ชิน ดาวรุ่งจากเกาหลีใต้ไปแบบสกอร์เอ๊าท์คลาสอีกเช่นกันในยกที่สอง 12-0 คะแนน ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เวโรนิก้า กาเรซ ตัวเก่งของฟิลิปปินส์
เปิดฉากยกแรก ทั้งคู่ออกอาวุธไม่จะแจ้งเท่าไรนัก กระทั่งช่วงกลางเกม นภาพร ได้โอกาสเตะราวด์คิกสองทีซ้อน แต้มขึ้นนำ 2-0 คะแนน มาถึงยกสอง เวโรนิก้า เน้นการเตะเข้าที่ศรีษะและลำตัวเพื่อหวังทวงแต้มคืน แต่ นภาพร ยังดักทางได้หมด แถมโต้กลับด้วยจังหวะแบ็กคิกเข้าที่ท้องและศรีษะเข้าเป้าหลายครั้ง คะแนนขยับนำคู่แข่งจากฟิลิปปินส์ไปไกลถึง 8-0 คะแนน
มาถึงยกสุดท้าย "น้องมิ้นท์" ไม่เดินบุกมากเหมือนสองยกแรก เพราะคะแนนนำอยู่มาก ตรงกันข้ามกับ เวโรนิก้า เดินหน้าแลกอาวุธมากยิ่งขึ้น แต่ยิ่งบุกก็ยิ่งโดนเท้าหน้าขวาของ นภาพร ถีบทำแต้มไปเรื่อยๆ จบเกมนักเทควันโดไทยเป็นฝ่ายชนะไปขาดลอย 12-1 คะแนน คว้าเหรียญทองได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน
ส่วน "น้องจูน" รังสิญา รอบแรกพลิกสถานการณ์กลับมาชนะ ยอ ซี กี นักเทควันโดเจ้าถิ่นจากที่ตามหลังอยู่ 0-3 แต้ม แต่เจ้าตัวมาเร่งเครื่องในยกที่สามชนะไปได้ 11-5 คะแนน ก่อนที่ในรอบสองจะมาพลาดท่าแพ้ให้กับ คิว โซ อิม คู่แข่งจากเกาหลีใต้ 3-8 คะแนน ไม่มีเหรียญติดมือกลับบ้าน
หลังเกม "น้องมินท์" นภาพร เปิดเผยว่า ก่อนเดินทางมาตั้งเป้าเอาไว้ว่า อย่างน้อยจะต้องผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศให้ได้ แถมยังแอบหวังได้เหรียญทอง เนื่องจากตัวเองเป็นแชมป์เก่าต้องการรักษาสถิติให้นานที่สุด โดยเหรียญทองหนนี้เป็นสมัยที่ 3 ของตัวเองแล้ว
ส่วนตัวรู้สึกดีใจและภูมิใจมากกับความสำเร็จที่ได้รับ เพราะที่ผ่านมาฟิตซ้อมหนักมาก แต่เมื่อมาถึงตรงจุดนี้ได้ก็ต้องขอขอบคุณผู้บริหารสมาคมทุกท่าน โดยเฉพาะ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ รวมไปถึงโค้ช เช ยอง ซอก, โค้ชคิม แจ วู และสองสตาฟฟ์โค้ชชาวไทยทั้ง ชัชวาล ขาวละออ และ วิชิต สิทธิ์กัณฑ์ ที่คอยสั่งสอนแนะนำแต่สิ่งดีๆให้กับตัวเองจนคว้าความสำเร็จอีกครั้ง
ทั้งนี้ในปีหน้า ตัวเองจะกลับมาป้องกันแชมป์ให้ได้เป็นสมัยที่ 4 เพราะเวลานี้ตัวเองอายุเพียง 16 ปี นอกจากนี้เป้าหมายในอนาคตอยากเป็นตัวแทนทีมชาติเดินทางไปแข่งขันเทควันโดเยาวชนชิงแชมป์โลกปี 2016 ที่ประเทศเปรู พร้อมกับคว้าเหรียญทองกลับมาเหมือนนักเทควันโดรุ่นพี่คนอื่นๆ
ขณะที่ โค้ชคิม แจ วู ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยที่คอยดูแลนักเทควันโดชุดเยาวชน ได้กล่าวว่า เกมในวันนี้ "น้องมิ้นท์" นภาพร เล่นได้ตามแผนที่สอนมา โดยเฉพาะจังหวะการเข้าทำคะแนนได้ดีและจะแจ้งชัดเจน ถือว่าเป็นนักกีฬาความหวังของเราและผลงานก็เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังก็คือ เรื่องการบาดเจ็บส้นเท้าของนภาพร จะต้องรีบรักษาให้หายขาด เพราะปีหน้าจะมีการแข่งขันทั้งศึกเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย และ เยาวชนชิงแชมป์โลก 2 รายการนี้ก็หวังว่า นภาพร จะคว้าเหรียญทองกลับมาได้ทั้งหมด เนื่องจากเด็กคนนี้มีความขยันอดทนและอยู่ในระเบียบวินัยที่ดี ถือว่าจะเป็นกำลังหลักขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ๆต่อไปในอนาคต