ฤา "โรงละครแห่งความฝัน" สิ้นมนต์ขลัง?

ฤา "โรงละครแห่งความฝัน" สิ้นมนต์ขลัง?

ฤา "โรงละครแห่งความฝัน" สิ้นมนต์ขลัง?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาจไม่ถึงขั้นฟูมฟายและตีอกชกหัว แต่ ณ เข็มนาฬิกาเดินไปแฟนบอลทีม “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้รู้สึกดีแต่อย่างใด แม้ว่าทีมจะเก็บชัยชนะรวด 3 นัด ทั้งในพรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ไม่น่ามีปัญหาต่อการเข้ารอบแบ่งกลุ่ม

สาเหตุมาจากการพลาดตัวนักเตะเป้าหมายที่ชายตามองมานาน 2 คนในระยะเวลาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง

เปโดร โรดริเกวซ ย้ายเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของเชลซี แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

และ นิโกลัส โอตาเมนดี้ คือปราการหลังจอมแกร่งคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เรียบร้อยแล้ว

ไม่นับ เซร์คิโอ รามอส ที่เคยเป็นข่าวคึกโครมแต่สุดท้ายตกลงต่อสัญญาฉบับใหม่กับ เรอัล มาดริด อย่างหน้าชื่นตาบาน

การพลาดตัวทั้ง รามอส, เปโดร และโอตาเมนดี้ เป็นความเสียหายที่แม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อทีมโดยตรง แต่จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทีมในทางอ้อมแน่นอนครับ

อย่างน้อยมันย่อมมีคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด? นักฟุตบอลระดับซูเปอร์สตาร์ไม่สนใจจะย้ายมาเล่นกับทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษแล้วหรือ?

หรือว่า "โรงละครแห่งความฝัน" จะสิ้นมนต์ขลังแล้ว?

คำตอบนั้นสามารถคิดได้ทั้งใช่และไม่ใช่ครับ โดยมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป

ในรายของ รามอส ในเบื้องหลังของกระแสข่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นเพียง “เกม” ในการเจรจาต่อรองระหว่างนักเตะที่มีอิทธิพลอย่างสูงในทีมเรอัล มาดริด กับประธานสโมสร ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ในเรื่องของรายได้ โดยรามอส ใช้แมนฯ ยูไนเต็ด เป็น “เครื่องมือ” ในการต่อรอง

ถึงใจจะไม่ได้คิดที่จะย้ายมาโอลด์ แทรฟฟอร์ด เลยแม้แต่น้อย แต่หากการต่อรองไม่สำเร็จก็พร้อมที่จะย้ายทีมเช่นกัน ซึ่งบทสรุปสุดท้ายก็อย่างที่ทราบครับว่ามีการแถลงข่าวต่อสัญญาอย่างใหญ่โต

ทิ้งให้แฟนผีแดงมองตาละห้อยด้วยความงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น

มาถึงรายของ เปโดร และโอตาเมนดี้ กันบ้างครับ...

ทั้ง 2 รายนี้เป็นที่ทราบกันมาโดยตลอดว่าเป็นเป้าหมายที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามติดต่อเจรจาขอซื้อมาโดยตลอด และมีหลายช่วงระยะเวลาที่ “ทิศทาง” ของข่าวนั้นค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขาจะได้ตัวสองนักเตะระดับไม่ใช่เวิลด์คลาสก็ใกล้เคียงมาร่วมทีม

แต่เหตุใดจึงปล่อยให้นักเตะที่สามารถจะช่วยแก้ปัญหาในทีมได้หลุดมือไปเช่นนี้

โดยที่แย่กว่านั้นคือการปล่อยให้หลุดไปเข้ามือคู่แข่งโดยตรงอย่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ต่อเรื่องนี้ ประเด็นที่ตัดออกไปได้ก่อนคือเรื่อง “สถานะ” ของสโมสร

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นสโมสรฟุตบอลระดับ “อีลิท” (Elite) หรือสโมสรฟุตบอลระดับสูงสุดของโลก เคียงข้าง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, ยูเวนตุส, ปารีส แซงต์-แชร์แมง และ เชลซี ซึ่งเพียบพร้อมด้วยความสำเร็จ ประวัติศาสตร์ และฐานะทางการเงิน

เปโดร และโอตาเมนดี้ ไม่เคยตกเป็นข่าว “ลังเล” เพราะสถานะของทีมที่ตกต่ำในช่วง 2 ปีหลังการอำลาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

ประเด็นอื่นมากกว่าที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองรายไม่ได้ย้ายมาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยที่รายของ เปโดร และโอตาเมนดี้ นั้นแตกต่างกันออกไป

ในรายของ เปโดร ลูกรักของบาร์เซโลน่า เขาตกอยู่ในสถานะ “จำยอม” ที่จะต้องย้ายออกจากทีมเนื่องจากรู้ว่าสถานะของตัวเองกับ บาร์ซ่า นั้นเป็นเพียงแค่ “อะไหล่” ของ 3 ประสานเทพ “MSN” เมสซี่-ซัวเรซ-เนย์มาร์ เท่านั้น

ด้วยเหตุดังกล่าวแม้ใจจะไม่ต้องการที่จะย้ายออกจากคัมป์ นู แต่ในวัย 28 ปี กับเส้นทางที่เหลืออยู่ในการเล่นฟุตบอล เปโดร ซึ่งมีศักยภาพในฐานะตัวรุกอเนกประสงค์ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก ไม่สามารถทำใจที่จะอยู่ในบทบาทนี้ได้อีกต่อไป

ฟางเส้นสุดท้ายอยู่ที่เกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่แม้ทีมจะไม่มี เนย์มาร์ แต่เขาก็ไม่มีชื่อในทีมอยู่ดี

สุดท้ายการย้ายทีมจึงต้องเกิดขึ้น โดยในทีแรกนั้นเป็น เชลซี ที่ให้ความสนใจก่อนในช่วงเดือนมิถุนายน แต่หลังจากนั้นเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พยายามติดต่อมาโดยตลอด

อย่างไรก็ดีการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาข้อยุติได้ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ

หนึ่งในเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือเรื่องความรู้สึกไว้วางใจ ที่เปโดร ไม่สามารถมีให้ต่อ หลุยส์ ฟาน ฮาล กุนซือชาวดัตช์ได้ หลังจากที่ได้เห็นชะตากรรมของ บิคตอร์ บัลเดส เพื่อนสนิท และรุ่นน้องในทีมชาติอย่าง ดาวิด เด เกอา

เช่นกันกับ ฟาน ฮาล เองก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาต้องการนักเตะรายนี้เข้ามาอีก เพราะทีมเพิ่งได้เมมฟิส เดปาย มาเป็นสตาร์ในแนวรุกคนใหม่

ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เสียงโทรศัพท์จาก เชส ฟาเบรกาส และโจเซ่ มูรินโญ่ ช่วยให้สถานการณ์ของเปโดรคลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเครื่องแฟกซ์ของบาร์เซโลน่า ได้รับเอกสารข้อเสนอ 19 ล้านปอนด์ และการจ่ายตามเงื่อนไขอีก 2.2 ล้านปอนด์ มากพอที่จะ “ปลดล็อก” สัญญาของเปโดรได้

ลำพังการพลาดตัว เปโดร ทำให้แฟนบอลยูไนเต็ดเจ็บปวดไม่น้อยครับ และถูกขยี้ซ้ำด้วยดีลของ โอตาเมนดี้ นักเตะที่ถูกคาดหวังมากกว่ารามอส ว่าจะเข้ามาเป็นเสาหลักในเกมรับ และมีข่าวตั้งแต่ช่วงต้อนของการปิดฤดูกาลว่านักเตะได้ตกลงใจจะย้ายมาร่วมทีมยูไนเต็ด แล้ว

แต่สุดท้ายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ปาดหน้าคว้าตัวไปจนได้ หลังมีกระแสข่าวรุนแรงในระยะหลัง

การไม่ได้ตัวกองหลังชาวอาร์เจนติน่ารายนี้ทั้งที่มีข่าวมานาน ทำให้คำถามในใจของแฟนบอลยิ่งเพิ่มขึ้นอีกว่าทีมเจรจาของ เอ็ด วูดเวิร์ด ที่เปิดตัวได้สวยในช่วงพรีซีซั่นด้วยดีลอย่าง เดปาย, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มัตเตโอ ดาร์เมียน และมอร์แกน ชไนเดอร์ลิน มัวทำอะไรอยู่?

ประเด็นของโอตาเมนดี้ ที่เป็นไปได้คือเรื่องของ “เงิน” ที่บ่ายเบี่ยงจะจ่ายตามจำนวนที่บาเลนเซียต้องการ และเป็นซิตี้ ที่อาศัยความได้เปรียบเรื่อง “หนี้” ที่บาเลนเซียยังค้างค่าตัวของ อัลบาโร่ เนเกรโด้ 22 ล้านปอนด์ ช่วยให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น

เมื่อลงรายละเอียดแล้วจะพบว่าการพลาดนักเตะทั้ง 3 รายนี้มีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถูกใช้เป็นเครื่องมือการเจรจาของรามอส, เรื่องความไม่ไว้วางใจกันและกันระหว่างเปโดรและฟาน ฮาล และเรื่องของข้อตกลงทางการเงินในรายของโอตาเมนดี้

ทั้งหมดไม่สามารถสรุปได้ว่า “โรงละครแห่งความฝัน” นั้นสิ้นมนต์ขลังได้แต่อย่างใดครับ

แต่หากพวกเขาเกิดพลาดนักเตะรายอื่นอีก - ซึ่งมีความเป็นไปได้ - ไม่ว่าจะเป็น โธมัส มุลเลอร์ หรือแฮร์รี่ เคน หรือแม้แต่ ซาดิโอ มาเน่

เรื่องนี้ก็น่าคิดเหมือนกัน...

ลูกแม่กิ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook