ช้างศึกหล่อๆ! 1 ใน 9 ทีม ไร้พ่าย! ศึกคัดบอลโลก 2018 โซนเอเชีย // โดย "UNHIGH"
วันนี้จะพาไปรู้จักกับ 9 ทีมที่ยังไม่รู้จักคำว่าพ่ายแพ้ ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย
ที่มีทีมทั้งหมด 40 ทีม แบ่งเป็น 8 กลุ่ม แต่ต้องตัด อินโดนีเซีย ออกไป 1 ทีมทำให้เหลือแค่ 39 ทีม มาดูกันว่ามีทีมใดกันบ้าง
- ซาอุดิอาระเบีย จ่าฝูงของกลุ่ม A แข่ง 5 นัด ชนะ 4 นัด เสมอ 1 นัด มี 13 คะแนน
แข้งจาก "เศรษฐีน้ำมัน" เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากทีมหนึ่งในทวีปเอเชีย โดยชนะเลิศ เอเชียนคัพ 3 ครั้ง และเข้าร่วมเล่นในฟุตบอลโลกถึง 4 ครั้ง
ซาอุดิอาระเบีย ยังเหลือการแข่งขันอยู่ 3 นัด โดยจะไปเยือน ติมอร์-เลสเต วันที่ 17 พ.ย. เฝ้ารังพบกับ มาเลเซีย 24 มี.ค. ปีหน้า
และนัดสุดท้าย 29 มี.ค. บุกไปเยือน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตัดสินแชมป์กลุ่ม ว่าใครจะตีตั๋วเข้าเป็นอันดับหนึ่งกลุ่ม A
- จอร์แดน จ่าฝูง กลุ่ม B แข่ง 5 นัด ชนะ 4 นัด เสมอ 1 นัด มี 13 คะแนน
ทีมชาติ จอร์แดน ทำผลงานได้ดีเกินคาดสามารถเปิดรังอัด ออสเตรเลีย เต็งหนึ่ง ให้หล่นไปอยู่อันดับสองของกลุ่มได้
จอร์แดน ยังเหลือการแข่งขันอยู่ 3 นัด โดยจะไปเยือน คีร์กีซสถาน วันที่ 17 พ.ย. เปิดบ้านพบ บังกลาเทศ 24 มี.ค. ปีหน้า
และนัดสุดท้าย 29 มี.ค. ต้องเจอศึกหนักในการไปเยือน "ซอกเกอร์รูส์" เจ้าถิ่นเน้นมากเพราะต้องคว้าชัยเท่านั้นถึงจะการันตีแชมป์กลุ่ม B
- กาตาร์ จ่าฝูง กลุ่ม C แข่ง 5 นัด ชนะมารวด มี 15 คะแนนเต็ม
กาตาร์ ได้เข้าร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2022 แน่นอนแล้วเนื่องในฐานะเจ้าภาพ และยังมีภาษีดีที่สุดในการผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายต่อไป
ยังเหลือการแข่งขันอยู่ 3 นัด โดยจะไปเยือน ภูฏาน วันที่ 17 พ.ย. เฝ้ารังพบ ฮ่องกง 24 มี.ค. ปีหน้า
และเกมสุดท้ายไปเยือนถิ่น จีน วันที่ 29 มี.ค. ดูแล้วแชมป์กลุ่ม C น่าจะเป็น กาตาร์ ส่วนอับดับสอง ต้องต้องแย่งชิงกันเองระหว่างพี่กับน้อง จีน กับ ฮ่องกง
- อิหร่าน จ่าฝูง กลุ่ม D กับ โอมาน ที่ประตูได้เสียเป็นรอง แข่ง 5 นัด ชนะ 3 นัด เสมอ 2 นัด มี 11 คะแนนเท่ากัน
อิหร่าน ประสบการณ์ในรายการนี้เหนือกว่า โอมาน อยู่หลายช่วงตัว และเป็น 2 ทีมจากตะวันออกกลางต้องเปิดศึกแย่งแชมป์กลุ่มกันเอง
อิหร่าน มีโปรแกรมเหลือการแข่งขันอีกสามนัด โดยจะออกไปเยือน กวม วันที่ 17 พ.ย. เปิดบ้านฉะ อินเดีย 24 มี.ค. ปีหน้า
ขณะที่ โอมาน มีโปรแกรมเหลือการแข่งขันอีกสามนัดเท่ากัน เกมแรกเยือน เติร์กเมนิสถาน 17 พ.ย. และวันที่ 24 มี.ค. ปีหน้าจะรับการมาเยือนของ กวม
ส่วนนัดสุดท้ายน่าจะเป็นนัดชี้ชะตาระหว่างสองทีมว่าใครจะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป ในวันที่ 29 มี.ค. ปีหน้า อิหร่าน จะเฝ้ารังพบ โอมาน
- ญี่ปุ่น จ่าฝูง กลุ่ม E แข่ง 5 นัด ชนะ 4 นัด เสมอ 1 นัด มี 13 คะแนน
ทีม "ซามูไร" เพิ่งบุกไปถล่ม สิงคโปร์ ถึงถิ่น 3-0 แซงซีเรียขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่ม ฟอร์มร้อนแรงจริงๆ แถมยังไม่เสียประตูให้คู่แข่งเลยสักลูก
โดยโปรแกรมที่เหลือของทีม ญี่ปุ่น จะไปหนักนัดสุดท้าย 24 มี.ค. ปีหน้า รับการมาเยือนของ ซีเรีย ทีมรองจ่าฝูง แต่เชื่อว่า "ซามูไร" เป็นทีมที่เล่นในรังได้ดุดัน น่าจะซิวแชมป์กลุ่มนี้ไปครองได้
โดย วันที่ 17 พ.ย. จะบุกไปเยือนถิ่น กัมพูชา และเกมต่อไป จะเปิดบ้านพบกับ อัฟกานิสถาน ในวันที่ 24 มี.ค. ปีหน้านี้
- ไทยแลนด์ จ่าฝูง กลุ่ม F แข่ง 5 นัด ชนะ 4 นัด เสมอ 1 นัด มี 13 คะแนน และ อิรัก รองจ่าฝูง ที่แข่ง 3 นัด ชนะ 1 นัด เสมอ 2 นัด มี 5 คะแนน
แข้ง "ช้างศึก" ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากยันเสมอ อิรัก ในราชมังคลากีฬาสถาน 2-2 ทำให้ทีมชาติไทยกระโดดขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงกลุ่มนี้
กลุ่มนี้มีเพียงแค่ 4 ทีมเท่านั้น เนื่องจาก อินโดนีเซีย ถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากเกิดปัญหาการแทรกแซงการเมืองสู่วงการฟุตบอล
โดยโปรแกรมที่เหลือของ ช้างศึกไทย เหลือเพียงนัดเดียวที่จะไปเยือน อิรัก เพื่อตัดสินแชมป์กลุ่มในวันที่ 24 มี.ค. ปีหน้านี้
ส่วน อิรัก รองจ่าฝูงมีสิทธิ์แซงทีมขาติไทยได้ ถ้าเก็บชัยสามนัดที่เหลือได้หมด โดยนัดต่อไปบุกเยือน ไต้หวัน วันที่ 17 พ.ย. และ เล่นในรังพบ เวียดนาม วันที่ 29 มี.ค. ปีหน้า
ถ้าหากทีมชาติไทยเกิดพลาดท่าบุกไปแพ้ แต่ดูแล้ว "ขุนพลช้างศึก" น่าจะเข้ารอบด้วยอันดับสองที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน ด้วยคะแนน 13 แต้ม
- เกาหลีใต้ จ่าฝูง กลุ่ม G แข่ง 5 นัด ชนะรวด มี 15 คะแนนเต็ม
ทีม "พลังโสม" ทำผลงานได้สุดยอด โดยซัดไปแล้วในรายการนี้ 18 ประตู แล้วยังไม่เคยเสียประตูให้คู่แข่งเลยเหมือนกับ ญี่ปุ่น
เกาหลีใต้ โปรแกรมที่เหลือดูแล้วงานไม่หนักมาก โดยเกมต่อไป จะออกไปเยือน ลาว วันที่ 17 พ.ย. ต่อด้วย เล่นในรังรอพบ เลบานอน วันที่ 24 มี.ค. ปีหน้า
ส่วนเกมสุดท้ายจะรับการมาเยือนของ คูเวต ทีมรองจ่าฝูง ดูแล้วกลุ่มนี้ เกาหลีใต้ น่าจะซิวแชมป์กลุ่มไปได้อย่างไม่ยากนัก
-UNHIGH-
อัลบั้มภาพ 77 ภาพ