สกู๊ป : คะแนนที่หลุดหายไป... (by มาร์ค สุรเดช)
ผมคงไม่ใช้คำว่าเสียใจในการเขียนบทความนี้ แต่ขอใช้คำว่าเสียดายมากกว่ากับการไม่มีคะแนนออกมาจากเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ในคืนวันเสาร์
ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากที่ทำผลงานดี ชนะไปถึง 7 จาก 8 เกมก่อนเกมหลังสุด และคู่แข่งอย่าง นิวคาสเซิ่ล กำลังอยู่ในช่วงหลังพิงฝา เสียความมั่นใจ และ เสียขบวนจากผลงานในช่วงหลัง แต่ผลการแข่งขันที่ออกมาจะแบบช็อคโลกทั้งแฟนตัวจริงของทีม และแฟนบอลที่รักความเสี่ยง
แม้ภารกิจในเกมยุโรปจะรออยู่ในวันพฤหัสบดีข้างหน้า แต่ในเกมล่าสุดที่ผ่านมา นักเตะลิเวอร์พูล ดูจะกดดันคู่แข่งได้น้อยกว่าที่เราเคยเห็นจากหลายๆเกมที่ผ่านมาของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมเยือน เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คล็อปป์ ปรับทีมจากเกมกลางสัปดาห์ไป 6 รายด้วยกัน แน่นอนว่าการทำทีมที่ยังอยู่บนเส้นทางของการลุ้นความสำเร็จทั้ง 4 รายการนั้น อาจจำเป็นที่จะต้องมีการหมุนเวียนผู้เล่นลงสนาม แต่จุดหนึ่งที่ผมอยากเห็นแตกต่างออกไปจากการหมุนเวียนนั้นก็คือรูปแบบการเล่น
การยึดติดกับรูปแบบ หรือ แผนการเล่นแบบใดแบบหนึ่งนั้น คู่ต่อสู้บางทีสามารถดักทางหรือแก้เกมได้ การใช้ระบบการเล่น 4-2-3-1 ยืนพื้นติดๆกันหลายเกมควรจะมีการปรับนิดหน่อยเพื่อให้เกิดความหลากหลาย
จริงอยู่ที่การจะทำให้ลูกทีมเรียนรู้และเข้าถึงแท็คติกที่โค้ชต้องการให้เกิดขึ้นในสนามจริงๆนั้น ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร
คล็อปป์ ทำได้ดีมากแล้วครับกับการออกสตาร์ทของเขากับ ลิเวอร์พูล เพียงแต่ในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ที่ผ่านมา การเลือกใช้งานนักเตะบางรายพร้อมๆกันอย่าง ลูคัส และ โจ อัลเลน อาจจะทำให้ทีมเสียผู้เล่นในแนวรุกไปหนึ่งคนเมื่อเลือกที่จะใช้มิดฟิลด์คู่กลางลงมาพร้อมกัน
สถิติระบุจากเกมนี้ว่า ลูคัส กับ อัลเลน นั้นรับส่งบอลกันไปมา 180 หนในเกมนี้ แต่มีเพียง 3 หนเท่านั้น ที่เกิดขึ้นในแดนของนิวคาสเซิ่ล จะบอกว่าเกมนี้ คล็อปป์ อาจจะกลัวเกมสวนกลับ และ เลือกส่งกองกลางเพื่อจะครองเกมให้ได้มองแบบนั้นก็อาจเป็นได้
ลองดูในมุมของเกมรุกบ้าง เบนเตเก้ ได้สัมผัสบอลตลอดเวลา 62 นาทีในสนามเพียง 31 หน ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดใน outfield ทั้งหมดของทีมและมีโอกาส ได้ยิง 1 ครั้ง ขณะที่การยิงเข้ากรอบของทีมเกิดขึ้นครั้งแรกเอาตอนก่อนจะจบเกม นั่นอาจจะมองได้อีกว่าแท็คติก และ ผู้เล่นที่ คล็อปป์ เลือกใช้งานในเกมล่าสุดนั้นอาจจะไม่เวิร์คกับเกมนี้
ผมไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมาเขาทำได้ไม่ดีนะครับ ย้ำว่าสำหรับเกมนี้สิ่งที่ คล็อปป์ คิดนั้น มันไม่ได้เป็นไปแบบที่เขาต้องการนั่นเอง ความพ่ายแพ้ต่อ พาเลซ และ นิวคาสเซิ่ล เป็นเพียง 2 จาก 12 เกมเท่านั้นภายใต้การทำงานของ คล็อปป์
ลิเวอร์พูล ยังมีลุ้นอยู่การจะจบใน 4 อันดับแรก แม้จะทำคะแนนหลุดมือไปจากเกมนี้ แต่มันดันมาเกิดขึ้นในวีคที่ทีมใหญ่หลายทีมในกลุ่มที่มีเป้าหมายเดียวกันนั้นก็พลาดเช่นกัน
ในมุมของผม เกมปิดท้ายในยูโรป้า ลีก อาจจะเปิดโอกาสให้ตัวสำรองและเด็กได้ลงมาสัมผัสหรือเพิ่มประสบการณ์เป็นเรื่องดี แต่เกมต่อไปกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในบ้าน หวังจะเห็น ลิเวอร์พูล กลับมาเปิดเกมกดดันใส่คู่แข่งได้ดีเหมือนเดิมอีกครั้ง
ดังนั้นผลงานที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค สำหรับผมเสียดายแต่ไม่เสียใจครับ
by มาร์ค สุรเดช สันติเลิศประภพ