"บิ๊กอ๊อด" ชี้ 3 แนวทางพัฒนาผู้ตัดสิน "ยกเครื่องความฟิต-ติดเทคโนโลยี-ต้องมีองค์ความรู้"

"การแก้ปัญหากรรมการผู้ตัดสิน ได้ข้อสรุปมา 3 แนวทาง คือ 1. ต้องพัฒนาสมรรถภาพร่างกายของผู้ตัดสิน ใครไม่ผ่านความฟิตตามเกณฑ์มาตรฐาน ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะทดสอบผ่านเกณฑ์ 2.ต้องจัดหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 3. ต้องพัฒนาคุณภาพผู้ตัดสิน ทางด้านองค์ความรู้ กฎ กติกาใหม่ๆ และการแก้ปัญหา การตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ต้องนำมาศึกษา และจะต้องมีการทดสอบเป็นระยะๆ ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การจัดตั้งสถาบันพัฒนาผู้ตัดสินไทยให้เป็นสถาบันวิชาชีพที่มีความเป็นอิสระ ได้รับการยอมรับจากสังคมและประชาชนทั่วไป"

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับกรรมการผู้ตัดสินอาวุโสระดับอาจารย์ ที่นานาชาติให้การยอมรับ ประกอบด้วย นายภิรมย์ อั๋นประเสริฐ, นายเอกชัย ถนัดเดินข่าว, นายพงศธร เพิ่มพานิช, นายปรัชญา เพิ่มพานิช, นายโสภณ มหาบุญ, นายพีระพล ภูอุดม, นายไกรสร พันธ์เพียร และ นายชลัท ภิรมย์

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวอีกว่า กรรมการอาวุโสที่มาพบในวันนี้ ยินดีที่จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษา และเป็นบอร์ดคณะกรรมการผู้ตัดสิน เพื่อทำหน้าที่พัฒนาผู้ตัดสินให้มีประสิทธิภาพ และมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งนับเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับฟุตบอลไทย ที่บุคลากรเหล่านี้ยินดีที่จะกลับมาช่วยกันทำงานอีกครั้ง หลังจากที่ไม่มีใครเหลียวแลและให้เกียรติท่าน ทั้งๆที่เป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่า

"ผมจะยกพื้นที่ที่ทำการสมาคมฯ สนามศุภชลาศัย ให้เป็นสถาบันพัฒนาผู้ตัดสิน ให้เป็นที่ทำการ และมีเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานเต็มเวลา ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการเชิญผู้ตัดสินระดับฟีฟ่า และผู้ตัดสินชั้น 1 ที่มีอยู่ 100 กว่าคน มารายงานตัว อบรม พัฒานาสมรรถภาพร่างกายกัน ในวันที่ 23-25 ก.พ.นี้ ใครที่ผ่านการทดสอบก็จะได้ปฏิบัติหน้าที่ ใครไม่ผ่านก็ต้องพัก" พล.ต.อ.สมยศ กล่าว

การมีสถาบันพัฒนาผู้ตัดสิน มีเป้าหมายที่จะทำให้ผู้ตัดสินเป็นผู้ตัดสินอาชีพ ไม่ใช่ผู้ตัดสินอาชีพเสริม หรือทำเป็นงานอดิเรก ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าเราทำได้ตามเป้าหมาย ผู้ตัดสินจะพัฒนากว่าทุกวันนี้ และการแข่งขัน การชมฟุตบอล จะไม่น่าเบื่อ และเป็นสาเหตุให้แฟนบอลทะเลาะกันเช่นทุกวันนี้

"ขอเวลาให้เราได้ทำงานสักระยะ แล้วมาวัดผล มาทดสอบกัน ผมเชื่อว่าด้วยความร่วมมือของผู้ตัดสินอาวุโสรุ่นครูบาอาจารย์ที่จะเข้ามาช่วยกันทำงานนี้ จะทำให้วงการผู้ตัดสินไทยดีขึ้น"