"น้องเทนนิส" คว้าทองเทควันโดเอเชีย , "น้องเล็ก" เจ็บ ได้แค่ทองแดง
“น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ โชว์เพลงเตะสมราคาคว่ำ ฮา มิน อาน ดีกรีแชมป์โลกชาวเกาหลีใต้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ประเดิมคว้าเหรียญทองแรกให้กับนักเทควันโดไทยในประเภทเคียวรูกิ (ต่อสู้) ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 19 เมษายน
การแข่งขันประเภทต่อสู้ จอมเตะไทยคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง รุ่น 49 กก.หญิง “น้องเทนนิส” พาณิภัค รอบแรกชนะ ตูเลเป้ เบิร์นโนวา จากคาซัคสถาน 15-0 คะแนน รอบสองชนะ หลิว ซิง ของฮ่องกง 29-3 คะแนน
รอบสาม พาณิภัค ยังโชว์เพลงเตะได้ร้อนแรงเบียดชนะ ธิ คิม ทวน ของเวียดนาม 7-4 คะแนน ก่อนที่ในรอบชิงชนะเลิศ “น้องเทนนิส” พาณิภัค ต้องโคจรมพบกับ ฮา มิน ฮาน จอมเตะตัวเก่งจากเกาหลีใต้ เจ้าของแชมป์โลกคนใหม่ ที่ก่อนหน้านี้เคยเอาชนะ หวู จิน หยู อดีตแชมป์โลกหลายสมัยของจีนมาแล้ว
ตลอดเกมทั้งสามยกทั้งคู่ออกอาวุธแลกกันได้อย่างดุเดือด โดยเฉพาะในยกที่สอง “เทนนิส” เตะศรีษะ ฮา มิน อาน ขึ้นนำไปก่อน 4-2 คะแนน แต่พอมาถึงยกสามช่วงท้ายเกม พาณิภัค โดนตัด 2 เคียงโกติดและมาโดนคู่แข่งเตะเข้าลำตัวอีกดอกไล่มาเสมอ 4-4 จนต้องมาตัดสินกันในช่วงซัดเดนเดธ
ผลปรากฏว่า ทั้งคู่ไม่สามารถทำคะแนนเพิ่มเติมอะไรกันได้ แต่ พาณิภัค เป็นฝ่ายขยันเตะออกอาวุธเข้าเป้ามากกว่ากรรมการจึงชูมือให้ พาณิภัค เป็นฝ่ายเฉือนชนะไปแบบหืดขึ้นคอ คว้าเหรียญทองชิงแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 2 ให้กับตัวเอง
2 เหรียญเงินได้มาจากรุ่น 54 กก.ชาย “เจ้าจูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี รอบแรกชนะ อับดุลลา อาลีอัล จากเยเมนมาขาดลอย 18-1 คะแนน รอบสองชนะ ซาคิรอฟ ซันซาฟ จากคีร์กีซสถาน 30-2 คะแนน รอบสาม รามณรงค์ ยังออกอาวุธได้ดีเตะชนะ อาบูซาฟ อัลมูทาซีมี ชาวจอร์แดนมาสูสี 18-15 คะแนน
แต่ในรอบชิงชนะเลิศ รามณงค์ โคจรมาเจอกับคู่ปรับเก่า อามิน ฮาดิพอล ไซลานี่ อดีตแชมป์กีฬาม.โลกจากอิหร่าน เริ่มเกมมาสองยกแรก รามณงค์ ออกอาวุธเป็นพระเอกเตะขึ้นนำมาก่อน 6-2 คะแนน แต่พอมาถึงยกสุดท้าย “เจ้าจูเนียร์” เครื่องเริ่มช็อตลงไปดื้อๆถูกคู่แข่งจากอิหร่านเตะเข้าที่ศีรษะและลำตัวพลิกแซงไปอย่างสนุก 9-8 คะแนน
เช่นเดียวกับรุ่น 53 กก.หญิง “น้องเล็ก” ชนาธิป รอบแรกเบียดชนะ ฮวง ฮุย ชุน จากไต้หวันมา 3-2 คะแนน รอบสองไล่ต้อน พุดทาริม ชะหง ของกัมพูชา 8-2 คะแนน ก่อนที่ในรอบชิงชนะเลิศ ชนาธิป ที่มีอาการบาดเจ็บหลังและหัวเข่าจะพ่ายแพ้ให้กับ คิม มิน จุน ของเกาหลีใต้ไป 0-6 คะแนน
ปิดท้ายกันที่ 2 เหรียญทองแดงจากรุ่น 46 กก.หญิง “น้องมินท์” นภาพร จรณวัตร อดีตเหรียญเงินเยาวชนโลก รอบแรกชนะ อาบีบูล่า ซานซายา ของคาซัคสถานมา 11-1 คะแนน รอบสองชนะซัดเดนเดธ เหวียน ธิ ทัง ของเวียดนามหลังเสมอกันในเวลา 1-1 ก่อนที่ในรอบรองชนะเลิศ นภาพร จะมาพลาดท่าปราชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษซัดเดนเดธให้กับ ลิน หวาง ทิน ตัวเก่งจากไต้หวันไปหวุดหวิด หลังหมดเวลาสามยกเสมอกัน 4-4 คะแนน
ส่วนรุ่น 68 กก.ชาย “เจ้านัท” ณัฐวีร์ กล่อมพงษ์ รอบแรกชนะ บาชิ ฮามาดี้ ของอัฟกานิสถาน 12-0 คะแนน รอบสองชนะ มูคามานอฟ อลามาส ชาวคาซัคสถาน 6-4 คะแนน รอบสาม ณัฐวีร์ ยังรักษาฟอร์มได้ดีชนะ อลาเหม็ด โอดิบีคอฟ จากเตอร์เติร์กเมนิสถาน 13-0 คะแนน
จากนั้นในรอบตัดเชือก ณัฐวีร์มาพลาดท่าในยกสุดท้ายอีกแค่ 20 วินาทีจะหมดเวลาแต้มเสมอกับ ยาโคบี อาบูฟาลี่ ของอิหร่านอยู่ 6-6 คะแนน แต่ดันเสียสมาธิถูกเตะเข้าไปที่ศรีษะถึงสองทีซ้อนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 6-13 คะแนน ชวดเข้าชิงเหรียญทองไปแบบน่าเสียดาย
หลังเกม “โค้ชจอมเฮี้ยบ” เช ยอง ซ็อก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดไทยชาวเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า วันนี้นักเทควันโดไทยน่าจะคว้ามาได้ถึง 2 เหรียญทองด้วยซ้ำไป เสียดาย “เจ้าจูเนียร์” รามณรงค์ ที่ทำแต้มมาตลอดสองยก แต่พอยกสุดท้ายมาเสียสมาธิและหมดแรงเลยพลาดท่าไปในที่สุด
ขณะที่ ชนาธิป ก็มีอาการบาดเจ็บหลังและหัวเข่ามาตั้งแต่นัดแรกแล้ว แต่ยังฝืนใจและสภาพร่างกายของตัวเองเล่นมาถึงรอบชิงฯได้ก็ถือว่า ยอดเยี่ยมแล้ว ส่วนนักกีฬาคนอื่นที่เหลือทั้งนภาพร และ ณัฐวีร์ ก็ถือว่า สร้างผลงานได้พอใจในระดับหนึ่ง เพราะคู่แข่งที่พบเจอแต่ละด่านล้วนแข็งแกร่งทั้งสิ้น
ขณะที่การคว้าเหรียญทองครั้งนี้ของ “น้องเทนนิส” พาณิภัค จะมีผลต่อคะแนนอันดับแร็งกิ้งโลกดีขึ้น แต่ก็ยังคงมีข้อผิดพลาดอีกเล็กน้อยต้องมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป เพราะเวลานี้เราอยากโฟกัสไปที่โอลิมปิกเกมส์มากกว่า แต่การเก็บคะแนนสะสมโลกแต่ละสนามก็มีความสำคัญอย่างยิ่งและต้องทำให้ดีที่สุดเช่นกัน
ส่วนการแข่งขันในวันที่ 20 เมษายนนี้ แน่นอนว่า เรายังมีลุ้นเหรียญรางวัลได้อีกจากนักกีฬาทั้ง 3 คน คือ “เจ้าฟ้อนท์” อัครินทร์ กิจวิจารณ์, ธนาภา แซ่เล้า และ อิศรินทร์ ทวีปถาวรวงศ์ อยากให้ทุกคนส่งกำลังใจเชียร์ด้วย