ความยุติธรรมที่กลับมา
โลกของเราเต็มไปด้วยการต่อสู้มากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับคนอื่นหรือการต่อสู้กับตัวเองก็ตาม
แต่ไม่มีการต่อสู้ใดที่จะยากลำบากมากไปกว่าการต่อสู้เพื่อ "ความยุติธรรม"
หากเคยสังเกตบ้างเราจะพบว่าเรื่องราวของการต่อสู้เพื่อสิ่งที่เรียกว่าความ"ยุติธรรม" นั้นเป็นการต่อสู้ที่เหน็ดเหนื่อยใช้ทั้งกำลังกาย กำลังใจ ในบางครั้งรวมถึงกำลังทรัพย์ด้วยกับด่านทดสอบมากมายไม่รู้จบที่ชวนให้ท้อแท้
และสิ้นหวัง บางครั้งทำให้ตัวเองเดือดร้อน ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจก็ตาม
และใน "ระหว่างทาง" ของการต่อสู้มักจะมีคำถามปรากฏขึ้นว่า "จะสู้ไปทำไม?"
ในบันทึกของผู้ชนะกับเรื่องราวของการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่มากมายที่ปรากฏขึ้นบนโลกใบนี้ – มีเรื่องราวอีกมากมายของ "ผู้แพ้" ที่ไม่ได้รับการบันทึกกับคนที่ไม่สามารถอดทนกับการต่อสู้ที่หนักหนาสาหัสกับคนที่ถอดใจ
ระหว่างทางของการต่อสู้กับคนที่รู้ตัวว่าสองมือและหนึ่งหัวใจของเขานั้นเล็กเกินกว่าจะต่อกรกับคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่เกินไปได้
ความจริงเรื่องของโศกนาฏกรรมที่สนามฮิลล์สโบโร่ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 1989 เองก็ควรจะเข้าข่ายเช่นนั้นครับ กับระยะเวลาที่ล่วงผ่านมาถึง 27 ปี ระยะเวลาที่นานพอจะเปลี่ยนจากเด็กตัวเล็กๆ ให้เป็นผู้ใหญ่ และเปลี่ยน
ผู้ใหญ่ให้กลายเป็นผู้สูงวัย และอาจเปลี่ยนผู้สูงวัยให้กลายเป็นผู้จากไป – มันนานเกินกว่าจะคิดถึงการเรียกร้องใดๆ โดยเฉพาะเมื่อคู่ต่อกรของพวกเขาคือผู้ที่อยู่ในอำนาจอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่สิ่งที่เหล่าครอบครัวของผู้สูญเสียจากเหตุโศกนาฏกรรมทั้ง 96 ชีวิต – ซึ่งเป็นแฟนบอลทีมลิเวอร์พูลทั้งหมดที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในสนามฮิลล์สโบโร่ในเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ กับทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ – ทำคือ การพยายามอย่างไม่ลดละในการเรียกร้องในสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ
ลมหายใจและดวงวิญญาณอาจจะไม่สามารถทวงคืนกลับมาได้ แต่ความยุติธรรมจะต้องกลับมา
จากช่วงเวลาที่มืดมนอนธการนานหลายปีกับคำกล่าวหาที่เจ็บปวดเกินใจจะรับไหวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากเหล่า เดอะ ค็อป เองที่เป็น "ต้นเหตุ" ทำให้มีถึง 96 คน ที่ถูกคมเคียวมัจจุราชปลิดลมหายใจ
กับการต่อสู้ที่ดูไม่มีความหวังสักเท่าไหร่
วันนี้คณะลูกขุน - ซึ่งประกอบไปด้วยหญิง 6 และชาย 3 - ได้มีคำตอบให้กับ 14 คำถามสำคัญ เกี่ยวกับเหตุโศกนาฏกรรมในวันที่เป็น "ตราบาป" ของชาวลิเวอร์พูลทั้งเมือง หลังจากที่ทำการสืบสวนมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
2014 และเป็นการไต่สวนที่นานที่สุดในประวัติศาสตร์กระบวนการยุติธรรมของอังกฤษ ว่าพวกเขานั้นคือผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นต้นเหตุในวันวิปโยค
"มลทิน" ที่ถูกป้ายสีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ - คนที่ควรจะเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมและดูแลความปลอดภัยไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น - ตลอดระยะเวลา 27 ปีที่ผ่านมา ได้ถูกชำระล้างให้แล้วด้วยตราชั่งแห่งความ
ยุติธรรมที่หวนกลับมา
เช่นกันกับน้ำตาของเหล่าครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไปดูเกมในสนามฟุตบอลและไม่ได้กลับคืนสู่บ้านและอ้อมกอดของคนที่พวกเขารักที่ไหลหลั่งลงมา
มันเป็นน้ำตาแห่งความปีติกับชัยชนะของการต่อสู้ที่พวกเขาทำตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้แล้ว และหน้าที่อันหนักอึ้งของ Hillsborough Justice Campaign (HJC) และ Hillsborough Family Support Group ((HFSG) นี้ได้ลุล่วงแล้ว
หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมที่จะหาคนผิดในเรื่องนี้ เช่นกันกับหน้าที่ของผู้บันทึกประวัติศาสตร์ที่จะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาใหม่ว่า แฟนบอลลิเวอร์พูลเหล่านั้นไม่ได้เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรม
บทเพลง You’ll Never Walk Alone ที่ขับขานหน้าห้องพิจารณาคดีใน เบิร์ชวู้ดปาร์ค คือ บทเพลงส่งวิญญาณบทสุดท้าย
บทเพลงที่จะชำระดวงวิญญาณให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
และเป็นบทเพลงแห่งการล่ำลาการต่อสู้ที่หนักหน่วงและยาวนานนี้
ชัยชนะและความยินดีเป็นเพียงชั่วครู่ยามความเจ็บปวดจากการสูญเสียนั้นไม่เคยจางหาย แต่อย่างน้อยเสี้ยนหนามในหัวใจได้ถูกดึงออกเพื่อที่จะได้ก้าวต่อไปจากจุดนี้เสียที
Never ever forgotten #96
นิทานลูกหนัง by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)