สกู๊ป “ประชดประชัน” เมื่อจิ้งจอกเป็นแชมป์ลีก
วันนี้เชื่อว่าคอฟุตบอล “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ในเมืองไทย ส่วนใหญ่ไม่ว่างเพราะมีนัดเวลา 2 ทุ่มหน้าจอโทรทัศน์ที่ต้องมาร่วมเชียร์ขุนพลจิ้งจอกสยาม “เลสเตอร์ ซิตี้” ในเกมที่ต้องบุกไปเยือนปีศาจแดง “แมนฯยูไนเต็ด”
ซึ่งไม่ใช่แค่แฟนจิ้งจอกหรือแฟนผีแต่แฟนทุกทีมที่ต้องการอยู่ในประวัติศาสตร์ของอีกหนึ่งเทพนิยายลูกหนังที่กำลังจะถึงบทอวสาน
เพราะถ้าเกิดลูกทีมของ “เคลาดิโอ รานิเอรี่” สามารถบุกไปเอาชนะนักเตะของจอมปรัชญาอย่าง “หลุยส์ ฟาน ฮัลล์” ก็หมายถึงแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกของนับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 132 ปีที่แล้วในปี 1884 โดยที่ไม่ต้องไปลุ้นให้ทีมอันดับ 2 อย่างน้องไก่ “สเปอร์” ที่คะแนนตามอยู่ 7 แต้มไม่ชนะ เชลซี ที่จะแข่งต่อหลังจากนั้น 1 วัน
แน่นอนว่าแฟนจิ้งจอกสยามและคนไทย(เกือบทุกคน) ยกเว้นแฟนแมนฯยูส่วนน้อย อยากเห็นทีมของคนไทยที่มี “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา” เป็นเจ้าของชนะในนัดนี้แล้วปิดจ็อปคว้าแชมป์ลีกไปเลย เพราะไม่อยาก “รอ” ต่อไปแล้วถึง
แม้ว่าโอกาสของทีมที่จะเป็นแชมป์ตอนนี้จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่น่าจะเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่เกมล่าสุดคู่แข่งอย่าง “สเปอร์” ทำได้แค่เสมอกับ “เวสต์บรอมวิช” 1-1 เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว
ประเด็นที่น่าสนใจในกรณีของ “เลสเตอร์ ซิตี้” มีมากมายจนสามารถเขียนเป็นหนังสือได้หลายเล่ม ตั้งแต่เรื่องของตัวเจ้าของทีม ตัวกุนซือ และบรรดานักเตะภายในทีม ที่มีดราม่ามากมายก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้
เริ่มจากตัวเจ้าของทีมซึ่งถ้าทีมเป็นแชมป์ “คุณวิชัย” ก็จะเป็นเจ้าของทีมชาวเอเชียโซนตะวันออกคนแรกที่ได้แชมป์ลีก ทั้งๆทีก่อนหน้านี้มีเสี่ยจากภูมิภาคนี้มากมายไม่ว่าจะ “คาร์สัน หยาง” (เบอร์มิงแฮม) จากฮ่องกง “
วินเซนต์ ตัน (คาร์ดิฟฟ์) จากมาเลเซีย หรือ “โทนี่ เฟอร์นานเดซ” (ควีนปาร์ก เรนเจอร์) จากมาเลเซีย เป็นเจ้าของทีมที่เล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษ แต่ตอนนี้ทีมของทุกคนอยู่ใน “ลีก แชมเปี้ยนชิพ”
เชื่อว่า บรรดาแฟนบอลของทีมเหล่านี้ต้องมีมุมอิจฉา แฟนบอลเลสเตอร์บ้างแหละว่าทำไมเจ้าของจากแดนไกลของทีมที่ตัวเองรักไม่เป็นแบบนี้ โดยเจ้าของ “คิง พาว์เวอร์” เข้ามาชมเกมของทีมแทบจะทุกนัด วันเกิดมีเลี้ยงโดนัทและเบียร์อีกต่างหาก
ต่างจากคนอื่นอย่าง “คาร์สัน หยาง” ที่มีมลทินในเรื่องของธุรกิจสีเทาจนเคยถูกสั่งห้ามยุ่งกับสโมสรมาแล้ว หรือ “ตัน” ที่ถึงขั้นเปลี่ยนสีประจำสโมสรจากแดงเป็นน้ำเงินที่ใช้มากว่าร้อยปีด้วยเหตุผลที่ว่า “ถูกโฉลก”
ส่วนตัวของกุนซืออย่าง “ทิงเกอร์แมน” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการฟุตบอลมามากมายเคยคุมทีมชั้นนำมาทุกลีกดัง แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการพาทีมเหล่านั้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เลยสักครั้ง แถมก่อนมาคุมทีมจิ้งจอกก็ล้มเหลวมาเป็นท่ากับ “ทีมชาติกรีซ” จนถูกมองว่าเป็น “ผู้แพ้” ประจำวงการ
ดังนั้นการพา “เลสเตอร์ ซิตี้” เป็นแชมป์ได้ย่อมถือว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตการเป็นโค้ชในวัยเลยหลัก 6 มาหมาดๆ ที่ประชดประชันกว่านั้นคือ “เลสเตอร์” ไม่ใช่ “ทีมใหญ่”
ส่วนบรรดานักเตะแต่ละคนภายในทีมมีเบื้องหลังมากมาย ไม่ใช่แค่เพียง “เจมี่ วาร์ดี้” หรือ “ริยาร์ด มาร์เรซ” ที่สู้ชีวิตมาตั้งแต่ติดลบ
แต่คนอื่นๆโดยเฉพาะอดีตนักเตะเก่าของ “แมนฯยูไนเต็ด” หรือที่ถูกเร้ดเดวิลล์ “ปฏิเสธ” ในการเซ็นสัญญา กำลังจะได้ฉลองชัยในสนามของทีมที่ครั้งนึงเคย “ปฏิเสธ” พวกเค้ามาแล้ว
ทั้ง “แดนนี่ ซิมป์สัน” “แดนนี่ ดริงค์วอลเตอร์” “เจฟฟ์ ชลูปป์” และ “แคสเปอร์ ชไมเคิล” ซึ่งการมาคว้าแชมป์ที่ “โอลด์ แทร็กฟอร์ด” มันไม่ต่างจาก “รานิเอรี่” ที่ไม่เคยพาทีมใหญ่คว้าแชมป์ลีกได้แต่ดันพาขุนพลจิ้งจอกเป็นแชมป์
สุดท้ายเชื่อว่านัดนี้ถึงแม้ทีมจะยังไม่มี “วาร์ดี้” ที่ติดโทษแบนแต่เชื่อว่าไม่มีผลกับทีม เพราะ “ทุกคนสู้ลืมตาย”
โดยเฉพาะ 4 นักเตะที่เคยถูก “แมนฯยู” ปฏิเสธ และ กุนซือที่เคยถูกคนทั้งวงการหัวเราะเยอะ
เชื่อว่า เกมนี้จะคือ “ที่สุด” ของทีมในฤดูกาลนี้ กับทีมที่ใช้ผลงานในสนาม “ประชดประชัน” ความสำเร็จครับ
โดย แบงค์ พิพัช
----------------------------
PPTV HD 36 เปิดจอยักษ์ 'เชียร์ร่วมกัน มันส์เต็มจอ' กับแมตช์คู่สำคัญชี้ชะตาแชมป์พรีเมียร์ลีก
"แมนฯยูฯ ปะทะ เลสเตอร์" ณ เดอะสตรีท รัชดา วันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค.59 นี้ เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป