สกู๊ป : "แกร่ง"...แต่ไม่ประทับใจ!
แข็งแกร่ง แต่ยังไม่เฉียบขาดครับ อิตาลีนัดอุ่นเครื่องเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่พวกเขาเฉือนสกอตแลนด์ 1-0
ก็ไม่รู้ว่าฟอร์มที่ออกมาจะช่วยให้คอนเต้แก้โจทย์ที่ค้างคาอยู่ได้หรือไม่ เพราะแม้จะดูทรงดีในการเจอกับทีมวิสกี้ แต่จังหวะสุดท้าย และความเข้มข้นในการเล่นอาจจะยังไม่ถึงอกถึงใจกุนซือ ที่อยากเห็นฟอร์มเด็ดๆ ของลูกทีมเพื่อที่จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
ก่อนเกมกับสกอตแลนด์ คอนเต้บอกกับลูกทีมประมาณว่า "ช่วยให้ผมหลับสนิททีเถอะ" แต่ผลออกมาแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจบเกมแล้วจะได้หลับสนิทอย่างที่ต้องการมั้ย เนื่องจากว่าอิตาลีวันอาทิตย์ข้อดีก็มี ข้อเสียก็ยังอยู่
มองโลกแง่ดีก็คือนักเตะอิตาลีเล่นด้วยความมุ่งมั่น และนานแล้วที่ไม่ชนะอุ่นเครื่อง มาชนะในเกมนี้ก่อนจะลุยศึกยูโรรอบสุดท้าย น่าจะมีผลต่อกำลังใจ แต่ถ้ายังการเล่นไม่ลื่นปื๊ด แบบนี้ในรอบสุดท้ายอาจจะลำบาก
ปัญหาของกุนซืออิตาลี หนักสุดก็ต้องเป็นส่วนของเกมรุกนี่แหละครับ เนื่องจากตัวที่ทำท่าว่าจะได้ไปแน่ๆ อย่างเอแดร์ ที่ฟอร์มดีเหลือเกินในรอบคัดเลือก อยู่ๆ ก็ฟอร์มตกลงไปเยอะในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลกับอินเตอร์
เกมกับสกอตแลนด์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คอนเต้ให้ลงเล่นเพื่อสร้างความมั่นใจ แต่ผลที่ออกมาดูแล้วคลุมเคลือไม่รู้ว่าจะอยู่หรือจะไป คงต้องมารอดูกันอีกทีในวันอังคารที่คอนเต้จะประกาศรายชื่อ 23 ตัวที่จะไปลุยรอบสุดท้าย
นอกจากเอแดร์แล้ว อีกตัวที่คอนเต้จับตามองเป็นพิเศษก็คือความฟิตของ ดานิเอเล่ เดรอสซี่ ที่เพิ่งจะหายเจ็บกลับมา จะผ่านหรือไม่ผ่านคัดตัวสำหรับคอนเต้แล้ว อยู่ที่ความฟิตล้วนๆ
ผลที่ออกมาก็น่าพอใจระดับหนึ่ง ดูเหมือนว่าการเจ็บที่เอ็นร้อยหวายของเดรอสซี่จะบรรเทาไปมาก แต่สรุปสุดท้ายกุนซืออิตาลีก็ยังไม่เคาะว่าจะเอาเขาไปด้วยหรือไม่ ด้วยเหตุที่ว่าสกอตแลนด์ คู่อุ่นแข้งของพวกเขาไม่ได้ไปยูโรรอบสุดท้าย ความเข้มข้นจริงจังในการเล่นก็ไม่ได้อะไรมาก
อย่างไรก็ตามสกอตแลนด์ ถือเป็นคู่อุ่นแข้งที่มีประโยชน์แง่ของการทดลองการเคลื่อนที่ของผู้เล่น และแท็กติกที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนเนื่องจากมีหลายตัวที่หายไป
โดยเฉพาะแดนกลางที่หนักจริง เพราะการบาดเจ็บของแวร์รัตติ และมาร์คิซิโอ ขณะที่ตัวที่กำลังลุ้นอย่างติอาโก้ ม็อตต้า, เดรอสซี่ และมอนโตลิโว่ ก็มีปัญหาความฟิตทั้งนั้น ล่าสุดมอนโตลิโว่ เจ็บน่องระหว่างการซ้อมทำท่าว่าจะชวดอีกราย
กองกลางที่หายไปเยอะนัดล่าสุดคอนเต้เลยทดลองให้ฟลอเรนซี่ และจัคเครินี่ นักเตะอเนกประสงค์ที่อาชีพจริงๆ คือริมเส้น แต่นัดนี้ขยับมาเล่นตรงกลางร่วมกับเดรอสซี่ ตัวริมเส้นสองฝั่งเป็น คานเดรว่า และเดชิโย่ ตำแหน่งกองหน้าคู่เป็นเอแดร์ และเปลเล่
แง่ของการเล่นตรงกลางแล้วตัวที่เล่นได้หวือหวาสุดก็ต้องเป็นฟลอเรนซี่ ที่มีจังหวะลากเลื้อย และสับไกยิงระยะไกล แต่ถ้าเป็นโอกาสสวยๆ ก็เป็นจัคเครินี่ ที่ได้โอกาสสวยๆ สามหนในครึ่งแรก แต่ก็พลาดหมด
แง่การบุกแล้วอิตาลีถือว่ามาได้หลากหลาย เดี๋ยวริมเส้น เดี๋ยวตรงกลาง เดี๋ยวมีโยนจากหลัง เปลเล่ และเอแดร์วิ่งสลับซ้ายขวา แต่ความเฉียบคมหาไม่เจอ หมดครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0
เปิดฉากมาครึ่งหลัง อิตาลีมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่เดรอสซี่ จ่ายไปให้เอแดร์ ที่จับบอลได้แต่ทำลั่นในจังหวะที่โดนกระแทก ลูกมาเข้าทางของเปเล่ที่ยิงจากนอกกรอบโทษด้วยขวาโค้งเสียบมมุมเข้าไปอย่างสวยงาม
กระทั่งช่วง 30 นาทีสุดท้าย คอนเต้เปลี่ยนทั้งทีม และเป็นโอกาสของอินซินเญ่, แบร์นาร์เดสคี่, ปาโรโล่, จอร์จินโญ่ และซาซ่า ที่ลงมาแทนเอแดร์, ดาร์เมี่ยน, คานเดรว่า, เดรอสซี่ และเปลเล่ ก่อนที่โบนาเวนตูร่าจะเปลี่ยนลงมาแทนจัคเครินี่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย
จบเกมแล้วอิตาลีชนะสกอตแลนด์ไป 1-0 แง่เกมรับแล้วบุฟฟ่อนแทบไม่ต้องออกแรงเซฟเนื่องจาก 3 กองหลังอย่างบาร์ซายี่, โบนุชชี่ และคิเอลลินี่ ช่วยกันป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนที่ยูเวนตุส
แง่เกมรับแล้วคอนเต้คงจะสบายใจหายห่วง แต่ตรงกลาง กับกองหน้านี่แหละครับโจทย์ยาก แต่ก็คาดการณ์กันว่าในส่วนของมิดฟิลด์แล้ว ตัวที่จะได้ไปแน่ๆ ก็มี คานเดรว่า, ฟลอเรนซี่, ปาโรโล่, จัคเครินี่ และเดรอสซี่ อีกสองที่มาค่อนข้างแน่ก็คือแบร์นาร์เดสคี่ และเอล ชาราวี่ รวมแล้วเป็น 7 เหลืออีก 2 ในตำแหน่งนี้ที่น่าจะเป็นโควตาส่วนนี้ที่คอนเต้กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเป็นใคร แต่ก็มองว่าม็อตต้า ถ้าฟิตสมบูรณ์จะได้ไปแน่ ที่จะทำให้จอร์จินโญ่อกหัก ขณะที่อีกตำแหน่งคอนเต้ต้องเลือกว่าจะเอาตัวเบรกเกมอย่างสตูราโร่ หรือตัวเทคนิคดีอย่างโบนาเวนตูร่า
ในส่วนของเกมรุกที่ดูเหมือนว่าได้ไปแน่ๆ ก็คือเปลเล่, ซาซ่า และอิมโมบิเล่ และที่กำลังแรงมาก็คืออินซินเญ่ ที่เหลืออีกตัวก็ต้องแย่งอันอุตลุต จะเป็นใครก็ต้องมารอดูกันวันอังคารครับ
จบจากอุ่นเครื่องนัดนี้อิตาลียังมีโปรแกรมอุ่นเครื่องอีกนัดครับนั่นคือวันที่ 6 มิถุนายนที่จะเจอฟินแลนด์ที่เวโรน่า เป็นการทดสอบอีกนัดก่อนจะไปลุยรอบสุดท้าย
เอาเป็นว่าตามไปดูกันต่อครับ ยิ่งใกล้ยูโรแล้ว แฟนอัซซูรี่ปีนี้คงต้องเอาใจช่วยหนักเหมือนเดิม เพื่อที่ว่าปีนี้จะได้เข้าลุ้นแชมป์อีกเหมือน 4 ปีก่อนที่คราวนั้นทะลุถึงนัดชิง