"Free Pogba"
ภาพการหลั่งน้ำตาของ ดิมิทรี ปาเยต ที่มาพร้อมกับการลุกขึ้นยืนสดุดีของเหล่าแฟนบอลชาวฝรั่งเศสในสนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ช่างเป็นภาพที่แตกต่างจากสีหน้างุนงงของ ปอล ป็อกบา
เมื่อถูกแจ้งจากข้างสนามว่าเขาเป็นคนที่จะต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามเพื่อให้เพื่อนลงไปแก้เกมแทน
มันไม่ใช่ภาพที่ป็อกบาคาดหวัง เช่นกันกับมันเป็นภาพที่คอบอลทั่วโลกเองก็ไม่ได้คาดหวังเช่นนี้เหมือนกัน
ในความเข้าใจของคนหมู่มาก ป็อกบา คือนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในฝรั่งเศสเวลานี้ เขาคือนักฟุตบอลที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งในผู้ท้าทายบัลลังก์ “ราชาลูกหนัง” คนต่อไป
และมีโอกาสจะกลายเป็นนักฟุตบอลเจ้าของค่าตัวแพงที่สุดในโลกต่อจาก แกเร็ธ เบล หากมีการย้ายทีมเกิดขึ้นจริงตามที่คาดหมายในฤดูกาลนี้
แต่เวลานี้ลมหายใจของชาวฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเข้าหรือออกก็มีเพียง “ปาเยต” เท่านั้น
ป็อกบา ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดในเกมที่ฝรั่งเศส สยบโรมาเนีย ในทางตรงกันข้ามเขาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีพอสมควรในตำแหน่งกองกลางฝั่งขวาที่ยืนสูงกว่า เอ็นโกโล ก็องเต้ ซึ่งสวมวิญญาณ “มาเกเลเล่” ยืนประจัญบานอยู่หน้าแนวรับและทำผลงานได้อย่างโดดเด่น
เพียงแต่เป็น ปาเยต เองที่ค่อยๆรวบรวมเกมของตัวเอง และกลายเป็นศูนย์กลางของทีมแทนป็อกบา โดยไม่ตั้งใจ
อย่างไรก็ดีนั่นไม่ได้หมายความว่าอนาคตของกองกลางวัย 23 ปีรายนี้จะจบ และไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ดีพอที่จะเป็น “เบอร์หนึ่ง” อย่างที่ควรจะเป็น
ในทางตรงกันข้าม เรายังไม่ได้เห็นสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเขาแม้เสี้ยวหนึ่งเลยด้วยซ้ำไปครับ
เอ็มมานูเอล เปอตี อดีตกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกในปี 1998 ไม่เห็นด้วยกับระบบการเล่น 4-3-3 ของ ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส อดีตเพื่อนเก่าที่ได้ดีเป็น “เลอ เซเลคซิยอนเนอร์” ในยามนี้ เพราะแม้ระบบจะมีความลงตัวและเหมาะสมกับทีม
แต่มันกลับกลายเป็น “กรง” ที่ขังพรสวรรค์ของ ป็อกบา เอาไว้อย่างแน่นหนา
อดีตกองกลางอาร์เซนอล ชี้ให้เห็นถึงปัญหาว่าอยู่ที่ “คำสั่ง” ที่ “เดเด้” กำชับมาให้แก่ป็อกบา ให้ดูแลพื้นที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
“ที่ยูเวนตุส เขาเป็นคนที่คุมจังหวะเกมและสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เขาไม่ได้เล่นในแบบเดียวกันในเวลานี้ เวลาที่นักเตะซึ่งเคยเล่นอย่างอิสระ แต่ถูกคำสั่งให้ดูแลพื้นที่ตัวเอง มันส่งผลกระทบกับเขา และมันเป็นการทำลายความสร้างสรรค์”
เปอตี ยืนยันว่าพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลของ ป็อกบา คือสิ่งสำคัญของฝรั่งเศส และเขาสามารถนำชัยชนะมาสู่ทีมได้เช่นกันกับ ปาเยต เพียงแต่ เดส์ชองป์ส เองจะต้องใช้งานเขาให้ถูกที่ด้วย ซึ่งนั่นไม่ใช่ตำแหน่งกองกลางทางฝั่งขวาแน่นอน
ตัวอย่างที่ดีที่น่าสนใจคือกรณีของทีมชาติโครเอเชีย ซึ่งให้อิสระแก่ทั้ง ลูก้า โมดริช และอิวาน ราคิติช คู่ห้องเครื่องจาก เรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า ในการบงการเกมแดนกลางและทั้งสองทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในเกมที่เอาชนะ ตุรกี ได้ 1-0
“โครเอเชีย ราคิติช กับโมดริช อิสระในการเล่นไม่ว่าจะหน้าแผงหลัง ทางซ้าย หรือทางขวา จริงอยู่ที่มันมีการกำชับถึงวิธีการเล่นเวลาที่เสียบอล แต่ว่ามันก็สามารถที่จะปล่อยให้มีอิสระในการเล่นได้เช่นเดียวกัน”
สำหรับ เปอตี คุณค่าของ ป็อกบา ไม่ได้อยู่ที่เรื่องของการคุมพื้นที่ เข้าประกบเร็ว หรือตัดบอลได้ไว
คุณค่าของเด็กคนนี้อยู่ที่พรสวรรค์อันสูงส่งที่พร้อมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในเกมได้ทุกวินาที
การปรากฏตัวของ ปาเยต ในฐานะวีรบุรุษคนใหม่ของชาตินั้นเป็นเรื่องที่ดี
แต่สำหรับ “เลส์ เบลอส์” มันจะดียิ่งกว่าหากป็อกบา สามารถจะก้าวขึ้นมาสู่เป็นการ “ฮีโร่” ของทีมอย่างที่ควรจะเป็น
สำคัญก็อยู่ที่ตัวเขาเองด้วยว่าจิตใจจะพร้อมสำหรับการก้าวมาอยู่จุดนั้นแค่ไหน และจะข้ามผ่านภาวะที่ตกเป็น “เบอร์รอง” ต่อจาก ปาเยต ได้เร็วมากพอหรือไม่
ในวันที่พวกเขาคว้าแชมป์โลกมาครองได้เมื่อ 18 ปีก่อน ซีเนอดีน ซีดาน เองก็ยังไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดของฟอร์มการเล่น เพียงแต่เขาทำผลงานได้ดี และมาระเบิดพรสวรรค์ในนัดชิงชนะเลิศกับบราซิล
หวังว่าเราจะได้เห็นเรื่องราวคล้ายๆกันเกิดขี้นกับเจ้าหนูจอมมหัศจรรย์รายนี้กันครับ และจะดีมากหากมันจะเกิดขึ้นในเกมกับแอลเบเนีย คืนนี้เลย
by ลูกแม่กิ่ง
(lookmaeking@hotmail.com)