ฝอยทองวิกฤติ
ในห้องเพรสข่าวมีชายผู้หนึ่งที่แสดงถึงความอัดอั้นในการท้อแท้ต่อโชคชะตา บนผลเสมอที่สุดจืดเบื้องหลังก็คือเขาผู้นี้นี่แหละที่พลาดท่าทำชาติจมดิ่งกับหายนะ
หนุ่มหล่อผู้นี้ถอนหายใจชั่วครู่หนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการทำใจรับสภาพ
เกมระหว่าง โปรตุเกส - ออสเตรีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาคืออีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่ควรกลายเป็นที่จดจำของดินแดนแห่งฝอยทอง สถิติติดทีมชาติมากที่สุดของ หลุยส์ ฟิโก้ ที่คงกระพันธุ์กว่า 7 ปี
ถูกแทนที่ด้วย 128 นัดของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ มันควรเป็นวันที่ดีแท้ๆของซูเปอร์สตาร์แห่งเรอัล มาดริด
แต่แล้วการพลาดท่าง่ายๆรวมถึงจุดโทษที่ซัดไปชนเสาหน้าตาเฉยก็คงทำให้เจ้าตัว “ยิ้มไม่ออก” “มันเป็นวันทีผมเศร้าใจมากที่สุด นี่ไม่ใช่แนวทางที่ผมต้องการทำลายสถิติ เราไม่ชนะมาสองเกมติดแล้ว ยิ่งมาพลาดง่ายๆแบบนี้มันคงทำให้ผมยิ้มไม่ออก”
CR7 ให้สัมภาษณ์หลังเกมพร้อมกับน้ำเสียงที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
ในวันที่ออสเตรียไม่มีอะไรนอกจากตั้งรับ ในวันที่โปรตุเกสโอกาสยิงราวกับปืนกลร่วม 24 หน ก็เหมือนกับแมตช์ที่พบไอซ์แลนด์ ตัวเลขสถิติไม่ได้มีความหมายอะไรเลย นอกเสียจากตีแผ่ความจริงให้เห็นว่า
เกมรุกของทีมฝอยทองสุดฝืด และ ไร้คุณภาพมากขนาดไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ชายผู้เปรียงดั่งแสงสว่างบนปลายอุโมงค์สำหรับทีม
ทว่ากับฟอร์มในช่วง 2 เกมแรกนี้ ดูเหมือนว่า เปลวไฟบนเทียนไขนี้เริ่มริบหรี่ และ ดับหวัง
เกิดอะไรขึ้นกับ “CR7” ณ เวลานี้!?
โอกาสสับไก 20 ครั้งในห้วงเวลาสองแมตช์แต่กลับแปรเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลยไม่ใช่เรื่องปกติ หากแปรเปลี่ยนจาก โรนัลโด้เป็น เอแดร์ แล้วบ้อท่าเช่นนี้ผมเชื่อว่า ใครหลายคนคงตราหน้าว่าสากกะเบือไปแล้ว
ส่วนตัวผมเชื่อครับว่า โรนัลโด้ กำลังเจอความกดดันจากการควานหาประตูไม่เจอเล่นงานอย่างหนัก จังหวะการวิ่ง หรือ สไตล์การเล่นจากสายตาที่ได้ประสบนี่ไม่ใช่โรนัลโด้ที่เราเคยรู้จัก
ใบหน้าที่แสดงถึงความผิดหวังในทุกครั้งที่พลาดเป้ารวมถึงโดนดักล้ำหน้าบ่งบอกให้เห็นถึงภาระอันหนักอึ้งที่เจ้าตัวแบกเอาไว้บนบ่า ทุกอย่างมันเอ่อล้นจนทำอะไรก็ดูติดขัด
กระทั่งวินาทีที่โขกตะบันเข้าตาข่ายได้แล้วกระยังอุตส่าห์เป็นลูกออฟไซด์อีก อย่างไรก็ดีบนความย่ำแย่หากจะพุ่งเป้าไปที่ยอดมนุษย์รายนี้คนเดียวก็คงจะไม่ถูก
องค์ประกอบโดยรวมก็มีส่วนเช่นกันครับกับการผลิตฟอร์ม และหากไม่นับโรนัลโด้ แผงแนวรุกที่เหลือของขุนพล “เซเลเซา”
ล้วนไร้ประสิทธิภาพ และน่าเวทนาเหลือเกิน ไล่ตั้งแต่บรรดาตัวจริงยันสำรอง นอกจาก “CR7” ไม่มีใครซักคนที่สามารถเป็นตัวตัดสินเกมได้แม้แต่คนเดียว ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ที่เคยถูกคาดว่า
น่าจะถึงทีเจิดจรัสกับเขาซะทีหลังจากถูกมองข้ามมานานเอาเข้าจริงก็เป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวล้มเหลวพร้อมพิสูจน์ให้เราได้เห็นว่า เด็กเทพยูทูบก็ยังเป็นเด็กเทพยูทูปอยู่วันยังค่ำ
นานี่กับฟอร์มการเล่นสองนัดติดที่สุดไม่เอาอ่าว ไม่นับเอแดร์ที่คงไม่ต้องพูดถึงแม้จะลงมาราวกับตัวความหวังในครึ่งหลังแต่ผมเชื่อว่าแฟนบอลคงร้องยี้ พร้อมกับไม่เชื่อในน้ำยา
สองนัดที่ผ่านมาทั้งที่อยู่ในสายสุดเบาหวิว แต่โปรตุเกสพลาดท่าไปเองพร้อมกับทำตนให้อยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสียงต่ออันตราย
ถึงตรงนี้กับเกมนัดต่อไปภารกิจของพวกเขามีเพียงหนทางเดียวนอกจากต้องคว้าชัยเท่านั้น
บางทีมันอาจเป็นอย่างที่เขาเคยกล่าวกันไว้ว่า "โปรตุเกสก็ยังเป็นโปรตุเกสอยู่วันยังค่ำ" จะโดดเด่น หรือ เพียบพร้อมอย่างไร เอาเข้าจริงพวกเขาก็เป็นได้แค่ “สิงห์สนามซ้อม”
หวือหวา หรือ วูบวาบ ก็แค่ครั้งคราว ทว่าสุดท้ายก็เป็นได้แค่ตัวประกอบอยู่ร่ำไป อีกเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นครับ มองตามแง่ทฤษฏีโอกาสของทีม “ฝอยทอง” ยังพอมี ทว่าจากสายตาที่ได้ประสบ
ดูแล้วคงไม่ต่างจาก "เข็นครกขึ้นภูเขา"
จากฟอร์มการเล่นในแมตช์ที่ผ่านๆมา หากยังคงไร้ประสิทธิภาพ เปิดบอลกันทิ้งขว้าง พร้อมกับเล่นได้เท่านี้ บางทีภารกิจคว้านหาประตูแห่งทางออกคงหมดหวัง
ดีไม่ดีจะพลาดท่าพลิกพ่ายฮังการีแบบง่ายๆเลย !
โปรย - โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ชายผู้เปรียงดั่งแสงสว่างบนปลายอุโมงค์สำหรับทีม ทว่ากับฟอร์มในช่วง 2 เกมแรกนี้ ดูเหมือนว่า เปลวไฟบนเทียนไขนี้เริ่มริบหรี่ และ ดับหวัง
by มาสเตอร์ ริท