สกู๊ป : โอกาสสุดท้ายของ "CR7"
ไม่มีคำแก้ตัว ไม่มีคำวิงวอน ไม่มีแม้แต่ความเมตตา เกมคืนวันนี้ระหว่าง "โปรตุเกส - ฮังการี" ก็อย่างที่จั่วหัวเรื่องบนหน้ากระดาษฉบับนี้เอาไว้ นี่คือโอกาสครั้งสุดท้ายของ "CR7"!
ในความผิดพลาดซ้ำแล้ว - ซ้ำเล่าในสองเกมแรก แมตช์ชี้ชะตาของประเทศในคืนวันนี้คือโอกาสสุดท้ายของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ แล้วจริงๆครับ ที่จะพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่า
ตนเองคือคนจริง มิใช่แสงสว่างที่โผล่ขึ้นมาวูบวาบเพียงชั่วครู่หนึ่งให้ประเทศได้มีความหวังแล้วดับวูบไป ดังที่หลายคนปรามาส
บนความสำเร็จที่ผ่านรางวัลมานับไม่ถ้วน ด้วยฝีเท้าระดับนี้ย่อมไม่มีใครที่บังอาจสงสัยในความเก่งกาจของ โรนัลโด้ หากแต่ยังมีวลีหนึ่งที่ยามได้ยินทุกครั้งก็ตะขิดตะควงใจ พร้อมมีคำถามผุดขึ้นมาในหัวทุกครั้งที่ได้ยินใครบางคนเอื้อนเอ่ย
"โรนัลโด้ คือชายที่แบกคนทั้งชาติ"
ได้ฟังทุกครั้งก็ได้แต่สงสัยในใจดังๆว่า จริงหรือ!?
ความจริงแล้ว โรนัลโด้ กำลังแบกชาติ หรือว่าเป็นชาติต่างหากที่กำลังแบก "โรนัลโด้"!?
ก็คงจะใช่ ที่ชายคนนี้คือเจ้าหนุ่มผู้ซึ่งพาโปรตุเกสฝ่าด่านมรสุมนับครั้งไม่ถ้วนในรอบคัดเลือก มันก็ถูกต้องอีกเช่นกันที่สตาร์ดังจากเรอัล มาดริด คือผู้ที่ครองความเป็นเบอร์หนึ่งแดนฝอยทองมากว่า 8 ปี
ทว่าบนความยอดเยี่ยมของฝีเท้า พร้อมกับถูกยกยอว่าเป็นที่พึ่ง ทำให้บ่อยครั้งนำมาซึ่งอีโก้อันเกินควร ไม่ปฏิเสธที่ โรนัลโด้ เป็นหัวใจสำคัญของทีม หากวันใดโดนเชือดเฉือนหรือหายตัวอย่างไร้ร่องรอย โปรตุเกสก็แทบตายสนิท
แต่ในบางครั้ง ในความมุทะลุ หรือ จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นอันมากเกินควรของแข้งวัย 31 ปีรายนี้ ก็ทำให้ทีมต้องส่งผลร้าย ความเกรี้ยวกราด และ ความอยากเอาชนะของโรนัลโด้ที่มากเกินควรบ่อยครั้งทำให้สปิริตทีมเสีย
บ่อยครั้งที่ยอดดาวเตะแห่งวงการลูกหนังมักแสดงอาการฉุนเฉียว หรือ หงุดหงิดเพื่อนร่วมทีมยามไม่ได้ดั่งใจ ภาพติดตาในบอลโลกครั้งก่อนที่ เอแดร์-นานี่ ทำพลาดแล้ว “CR7” ออกอาการส่ายหัวก่อนจะเดินไปเตะขวดน้ำทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีด
ยังคงติดตาผมเป็นอย่างดี ผมชอบสกู๊ปพิเศษจาก “เดอะ ซัน” ที่เปรียบเทียบความสำเร็จของ “เวลส์” และ ความล้มเหลวของ “โปรตุเกส” ไว้อย่างน่าสนใจ แท็บลอยด์จอมแฉรายนี้ได้บอกครับว่า ทั้งทีม “มังกรแดง”
และพลพรรค “ฝอยทอง” มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คลับคล้ายคลับคลา และเหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย
ทั้งสองมีทั้ง “เบล-โรนัลโด้” เป็นจิตวิญญาณ และ ศูนย์กลางของทีมเหมือนกัน
ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฟอร์มในยูโรหนนี้ของทั้งสองออกมาได้อย่างแตกต่างราวกับฟ้า-เหวนั่นก็คือ “ทัศนคติ”
ในขณะที่ปีกพญาวานรทุ่มเทแรงกายทั้งหมดเพื่อทีม และชาติบ้านเกิด คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กลับหมกมุ่นกับการทำให้ตนเองกลายเป็นที่จับตามอง และ โด่งดัง
ในขณะที่ แกเร็ธ เบล ช่วยดึงศักยภาพของเพื่อนอย่าง อารอน แรมซี่ย์, โจ อัลเลน ให้เจิดจรัสพร้อมกับแผ่รังสีออร่าแห่งความเป็นทีมให้สดใส ข้ามไปที่อีกฟากฝั่ง ทุกครั้งที่เอ่ยถึง โปรตุเกส
ชื่อของ "โรนัลโด้" จะต้องมาเป็นอันดับแรก และชื่อเดียว ราวกับนี่คือความหวังสุดท้ายที่ประเทศนั้นหลงเหลืออยู่
ภาพที่พลพรรค “มังกรแดง” กอดคอสามัคคีพร้อมกับปลุกเร้ากระทั่งในวันที่พ่ายแพ้ต่ออังกฤษ กลายเป็นสิ่งดีๆที่ทำให้เราได้เห็นจนชินตา ต่างจาก โปรตุเกส ที่ยามบ้อท่า หรือ ผิดหวัง ทุกคนล้วนกระจัดกระจ่ายพร้อมกับส่ายหัวกับสิ่งที่ได้ประสบ
หากหวังจะประสบความสำเร็จ และสร้างปาฏิหาริย์เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มได้ในเกมคืนวันนี้ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ และ เพื่อนร่วมทีมจำต้องโชว์ความเป็นน้ำหนึ่งเดียวกันให้ออกมาให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ โดยเฉพาะกับรายแรกที่ต้องลดอิโก้ และ ปรับสไตล์การเล่น
วิ่งให้มากขึ้น, หงุดหงิดให้น้อยหน่อย, ให้อภัยเพื่อนร่วมทีมยามพลาดพลั้งพร้อมกับจ่ายบอลให้เพื่อนยามมีโอกาสเหมาะ
แล้วผลลัพธ์ทุกอย่างจะออกมาดี
ก็เพราะ ฟุตบอลไม่มีคำว่า “วันแมนโชว์” ไอประเภท “ตูแน่-ข้าเจ๋ง” หนทางในบั้นปลายไปไม่รอดทุกราย
เกมคืนวันนี้คือโอกาสสุดท้ายแล้วที่ โรนัลโด้ จะได้ลบล้างความผิดหวังจากนัดก่อน พร้อมกับสร้างสรรค์โลกใหม่ออกมาด้วยสองเท้าของตนเอง พระเจ้าลิขิตหนทางมาให้แล้วจากการจับฉลากอยู่สายสุดเบาหวิวในรอบแบ่งกลุ่ม
ทว่าหากสุดท้ายลูกทีมของ แฟร์นานโด ซานโต๊ส ยังคงปืนฝืดต่อเนื่องพร้อมกับพลาดท่าฉายฟอร์มไม่ได้ตามเป้าอีก
มันก็คงเหมาะสมแล้ว ที่สุดท้ายหนทางในบั้นปลาย
จะลงเอยด้วยการที่พวกเขานั้น “มีน้ำตา”!
by มาสเตอร์ ริท