สบายๆ อย่าไปคิดอะไรมาก

4 ทีมสุดท้ายในยูโรครั้งนี้ หากไม่นับแฟนประจำของแต่ละทีม เอาเฉพาะที่เป็นคอบอลเชื่อว่ามีไม่น้อยที่เทใจให้กับทีมชาติเวลส์ ที่กำลังเผชิญกันวันคืนอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชาติของตัวเอง

คริส โคลแมน พาทีมสร้างความประทับใจได้มากมายจริงๆ ชนะทั้งสโลวะเกีย,รัสเซีย,ไอร์แลนด์เหนือและที่สำคัญคือการเอาชนะเบลเยียมแบบสวยงาม

เกมแพ้อังกฤษไม่ต้องวอรี่ ไม่มีใครว่าอะไร นาทีนี้มีแต่ด่าอังกฤษและชื่นชมเวลส์ ทิศทางเป็นแบบนั้นชัดเจน โรนัลโด้และโปรตุเกส คือด่านสำคัญของ แกเร็ธ เบล และเวลส์

แน่นอนว่าทั้ง 2 คนโดนจับคู่ โดนเปรียบเทียบกันอุตลุดอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างน้อยเบื้องต้นต้องมีเรื่องราวของวันแมนทีม ซึ่งในความเป็นจริงต้องให้สปิริตขององค์ประกอบอื่นๆด้วย

วันนี้พูดถึง เบล และเวลส์ ก็แล้วกัน กับสถานการณ์ที่ผ่านมา และกำลังจะเผชิญในรอบรองชนะเลิศ

ระบบการทำงาน

อย่าเพิ่งไปมองเรื่องวันแมนทีม ประการแรกต้องยกเครดิตให้กับ คริส โคลแมน ไม่ใช่แค่รอบสุดท้าย แต่พยายามสร้างความมั่นคงให้กับทีมมาตั้งแต่รอบคัดเลือก

เวลส์แข็งแกร่งไม่น้อยในเรื่องของเกม ไม่เสียประตูแบบพร่ำเพรื่อ โคลแมน เน้นเรื่องนี้เป็นอย่างแรก เพราะเวลส์เองก็ไม่ได้คิดที่จะไปเล่นแบบครองบอลสู้กับทีมอื่นๆ

ในเมื่อไม่ถึงกับครองบอลเป็นชิ้นเป็นอัน นั่นหมายความว่าต้องเน้นโต้กลับ ซึ่งการครองบอลจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เกมรับต้องมั่นคง เพราะคู่แข่งครองบอลแล้วลุยเข้าใส่นั่นเอง

ส่วนการโต้กลับนั้น อย่างที่รู้กัน แกเร็ธ เบล คือเป้าหมายหลักของทีมในการกระทำเรื่องนี้ แถมยังมีวิงแบ็กเติมช่วยงานริมเส้นอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย

ได้ผลเหลือเชื่อในหลายๆประเด็นที่เคยกังวลกัน วิงแบ็กเติมได้อย่างใจ ฮัล ร็อบสัน-คานู สามารถพักบอลได้ เบลกับแรมซี่ย์ จูนกันติดเหมือนเดิม โดยมี โจ อัลเลน กับ โจ เลดลี่ย์ ระวังหลังให้

อย่ามองแค่วันแมนทีม

แค่คนเดียวคงคาดหวังที่จะพาทั้งทีมเดินหน้าน่าจะเป็นเรื่องยาก พูดกันตามความเป็นจริง แกเร็ธ เบล ก็ใช้ว่าฟอร์มจะเริดหรูอลังการมากมาย

แต่ที่ช่วยเสริมให้ผลงานออกมาดีเกินคาดก็คือ องค์ประกอบอื่นๆของทีมสามารถยกระดับการเล่นขึ้นมาได้นั่นเอง ยกตัวอย่างเดิมๆเช่น นีล เทย์เลอร์ เติมเกมริมเส้นได้ดี ด้านหน้ายังมี ร็อบสัน-คานู ช่วยพักบอลรอจัวงหวะเพื่อนเติมเข้าไปช่วย

ในขณะที่แดนกลาง ทั้ง อารอน แรมซี่ย์ และโจ อัลเลน พยายามเติมเต็มช่องว่าง วิ่งหาพื้นที่เพื่อเป็นเป้าหมายในการจ่ายบอล เพราะฉะนั้นเวลส์จังไม่จำเป็นต้องสาดบอลยาวไปที่ แกเร็ธ เบล ตลอดเวลา

เพราะฉะนั้น วันแมนทีมคงต้องพับเก็บเอาไว้ และสิ่งหนึ่งที่ เบล แตกต่างจาก โรนัลโด้ อย่างชัดเจนก็คือไม่มีภาษากายที่บ่นเพื่อนร่วมทีม หรือต่อว่าต่อขานแต่อย่างใด ทำให้ได้ประสิทธิภาพ ได้ใจเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น

ร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่ง

ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง หรือขุมกำลังส่วนใดส่วนหนึ่งของทีม แต่เป็นทั้งทีมที่สามารถรวมใจร่วมมือกันได้ สปิริตเต็มเปี่ยม เมื่อช่วยกันทั้งหมดผลงานดีความมั่นใจก็ตามมา

ในเมื่อเต็มใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มันก็ไม่มีความกดดันอะไร ผิดพลาดกันบ้างนั่นเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งเป็นทีมที่ไม่มีเครดิตอะไรมากมาย ไม่มีใครคาดหวังไว้สูงลิบ ความกดดันยิ่งน้อยลงไปจนแทบไม่มีให้เห็น

แค่พยายามกันตามที่สปิริตยังคงมีอยู่ สังเกตได้จากเกมที่โดนเบลเยียมยิงประตูได้ก่อน แทนที่จะเสียขวัญหรือกดดันจนทำอะไรไม่ได้

กลับกลายเป็นว่าแค่พยายามรักษาความมุ่งมั่นเอาไว้ ใจยังคงเกินร้อยเหมือนเดิม ได้ประตูตีเสมอหรือว่านำ 1 ประตูแทนที่จะปิดเกมปกป้องกันสุดเดช กลับสนุกสนานกับเกมของตัวเองเหมือนเดิม

น่าเสียดายสุดๆ

อารอน แรมซี่ย์ และ เบน เดวิส ติดโทษแบน แน่นอนว่าสำหรับ โคลแมน และลูกทีม ก็ต้องเดินหน้าต่อไปไม่ปล่อยให้เรื่องราวดังกล่าวเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้

จะเป็น แอดี้ คิงกับเจมส์ คอลลินส์ ลงมาแทนหรือจะเป็นใครก็ว่ากันไป ทว่าอดเสียดายแทนแรมซี่ย์กับเดวิส ไม่ได้ หากยังคงอยู่ด้วยสภาพเดิมๆมันจะได้อารมณ์มากกว่า

กลัวหรือเปล่า

เวลส์คงไม่จำเป็นต้องกลัวโปรตุเกสแต่อย่างใด อย่างที่บอกไว้ ความมั่นใจและสปิริตของทีมยังคงดีอยู่ ความกดดันไม่มีเลย แค่เกินหน้าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กันต่อไป ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรที่ทำกันมาคุ้มเกมคุ้นไปแล้ว

นอกจากโรนัลโด้แล้ว แกเร็ธ เบล ยังต้องเจอกับเปเป้อีกคน คงสนุกน่าดูที่ได้ดวลกันเองแบบนี้ โมเมนตั้มของเวลส์กำลังยอดเยี่ยม สภาพจิตใจสบายๆ แค่นี้ก็น่าตื่นเต้นแล้ว

คอลัมน์ ทดเจ็บ3นาที
by ดามัน