สกู๊ป : "ของดีก็มีจุดอ่อน"
ในความคิดของใครหลายคน เยอรมันดวลกับฝรั่งเศสน่าจะเป็นนัดชิงชนะเลิศมากกว่า ทว่านั่นคือจินตนาการ ในเมื่อหลบกันไม่พ้นก็ต้องว่ากันไปตามความเป็นจริง
ฝรั่งเศสผ่านรอบแปดทีมสุดท้ายมาแบบไม่ยากเย็นอะไร ในขณะที่เยอรมันสายตัวแทบขาดกว่าจะเอาชนะการดวลจุดโทษอิตาลีได้ ในเมื่อเดินทางมาเจอกันวันนี้ก็จะเหลือแค่ทีมเดียว จะเป็นทีมไหนเชียร์กันตามสบายครับ
เยอรมัน - ฝรั่งเศส
เยอรมัน
เยอรมันยังคงเป็นทีมที่สมราคาคุยเสมอ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆเมื่อไหร่เดินหน้าได้ตามมาตรฐานเป็นประจำ เรื่องของรอบรองชนะเลิศมักจะไม่ห่างหายไปไหน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หลักฐานฟ้องอยู่เต็มตา อุ่นเครื่องเป็นอย่างไรอย่าไปสนใจมากนัก ของจริงคือมาตรฐานที่มั่นคงของเยอรมัน
การเอาชนะเจ้าภาพไม่ใช่เรื่องเกินเลยอะไร ในอดีตทั้งฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโร จัดการเจ้าภาพมานักต่อนัก ขนาดฟุตบอลโลก 2014 ยังถล่มบราซิลจนบ้านแตกสาแหรกขาด
และในอดีตที่ผ่านมากับเกมน็อกเอาท์แบบนี้ เยอรมันจัดการฝรั่งเศสมาแล้วถึง 3 ครั้ง เพราะฉะนั้นสัญญาณยังคงชัดเจนที่จะเข้าไปชิงชนะเลิศในทัวร์นาเมนต์นี้
อย่างไรก็ตาม สถิติและมาตรฐานต่างๆย่อมถึงวันที่เปลี่ยนแปลงไปก็ได้ ไม่มีอะไรที่สามารถการันตีได้เต็มร้อย โอกาสนิดเดียวสามารถพลิกชะตาชีวิตทั้งหมดเป็นอีกแบบหนึ่ง
แต่การเป็นแชมป์โลก 2014 ยังคงทำให้เยอรมันมีกลิ่นอายของการอยู่ยงคงกระพัน เรียกว่าเป็นทีมที่มีออร่า การดวลจุดโทษแบบดราม่ากับอิตาลีเป็นสิ่งที่ทดสอบสภาพจิตใจของนักเตะเยอรมันได้เป็นอย่างดี
ความอดทนและนิ่งในสถานการณ์บีบคั้น เยอรมันเป็นทีมที่รับมือได้ดีกว่าใคร หากฝรั่งเศสพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์หรือช่วงเวลาที่สั่นประสาท อาจจะเอาตัวไม่รอดก็ได้
ฝรั่งเศส
รอบรองชนะเลิศเป็นความคาดหวังขั้นต่ำของเจ้าภาพฝรั่งเศส อย่างน้อยต้องมาถึงจุดนี้ให้ได้ ในขณะที่เป้าหมายสูงสุดย่อมต้องการคว้าแชมป์ยูโร 2016 ในบ้านตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมาถึงเป้าหมายขั้นต่ำ ถือว่าสามารถลดความกดดันลงไปได้บ้าง รอบที่ผ่านมาถือว่ามีโชคที่ได้ไอซ์แลนด์เป็นคู่ต่อกร จนสามารถทำให้เค้นฟอร์มเกมรุกออกมาโชว์ได้เต็มที่
แม้มีภาษีดีกว่าคู่แข่งอย่างไอซ์แลนด์ไม่น้อย ทว่ายังไงชัยชนะพร้อมกับฟอร์มที่จัดจ้าน นั่นสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่าในสถานการณ์แบบนี้ เยอรมันมีประสบการณ์มากกว่าชัดเจน และรอบแปดทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกก็เล่นงานฝรั่งเศสมาแล้ว
ทว่าสถานที่และเวลามันเปลี่ยนไป ฝรั่งเศสอาจจะได้บทเรียนตอนนั้น นำมาปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็ได้ หาคำตอบเตรียมไว้ รู้ว่าจะจัดการแชมป์โลกอย่างไร
นอกจากนี้ การเป็นเจ้าภาพ ยังคงมีขุมกำลังข้างสนามเป็นกำลังใจและพลังขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ มีสิทธิ์พาทีมโค่นแชมป์โลกได้เช่นกัน
รอบน็อกเอาท์ 2 นัดที่ผ่านมา ทีมชาติฝรั่งเศสสามารถยิงประตูคู่แข่งได้ถึง 7 ประตู ส่งสัญญาณชัดเจนถึงคุณภาพในเกมรุก แม้ว่าส่วนใหญ่จะมาจากเกมถล่มไอซ์แลนด์ แต่ก็อย่าสบประมาทกันเกินไป เพราะไอซ์แลนด์ทีมนั้นตะบันอังกฤษร่วงมาแล้ว
มีจุดอ่อนกันบ้างมั๊ย
โยอาคิม เลิฟ ใช้กองหลัง 3 คนสู้กับแท็คติกของอิตาลี โดยใช้งานโจนาส เฮคเตอร์กับโจชัว คิมมิช เป็นวิงแบ็ก โดยมี ซามี่ เคดิร่า ปักหลักหนักแน่นในแดนกลาง เมื่อ เคดิร่า บาดเจ็บ แท็กติกก็เปลี่ยนไปบ้าง
เกมวันนี้ไม่มี เคดิร่า อีกเช่นกัน ทำให้ตัวกลางที่เรียกว่าลุยแบบ บ๊อกซ์ ทู บ๊อกซ์ ต้องหากันใหม่ จะเป็น เอ็มเร่ ชาน หรือเปล่า ซึ่งต้องลงมาทำหน้าที่ดูแล อองตวน กรีซมันน์ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือคิมมิช ไปพร้อมๆกัน
ฝรั่งเศสอาจจะโจมตีในจุดนี้ก็ได้ แน่นอนครับไม่รู้ว่าเยอรมันจะปิดจุดอ่อนตรงนี้กันอย่างไร แต่ถ้าเปิดช่องให้เห็นก็จะโดนโจมตีแน่นอน
นอกจากนี้ กองหน้าของเยอรมันที่มีปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น ดันเสีย มาริโอ โกเมซ ไปอีกคน จะส่งผลกระทบแค่ไหนน่าสนใจไม่น้อย มุลเลอร์, โอซิล, ดรักซ์เลอร์ หรือบางทีอาจจะมีเกิทเซ่ อีกคน จะช่วยกันแก้ปัญหาได้ดีแค่ไหน
มองในมุมฉาบฉวยแบบนี้ ฝรั่งเศสดูเหมือนจะดีกว่า เพราะแต่ละเกมที่ผ่านไป ความมั่นใจมีมากขึ้นตามลำดับ เดส์ชองส์และลูกทีมคงต้องใช้ปัญหาของเยอรมันมาเป็นประโยชน์ของตัวเองให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม การเสีย 2 ประตูให้กับไอซ์แลนด์ เหมือนไม่มีปัญหาอะไร แต่นั่นคือจุดอ่อน นั่นคือสิ่งที่ต้องแก้ไขโดยพลันของทีมเจ้าภาพ
ความเปราะบางตรงนั้น เยอรมันพร้อมที่จะเล่นงานได้ทุกนาที งานนี้มีลุ้นกันเหนื่อยใจแน่นอน
โอลิวิเยร์ ชิรูด์
เริ่มต้นด้วยการโดนโห่ โดนเหยียดหยามความสามารถ ทว่า ชิรูด์ สู้ด้วยการยกระดับการเล่นของตัวเอง ใช้โอกาสได้ดีขึ้น และที่สำคัญมากๆคือการทำหน้าที่พักบอลและดึงตัวประกบออกมาจากตำแหน่ง
หาก ชิรูด์ ยังคงทำหน้าที่นี้ได้ดี ย่อมเป็นการเปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้กับ กรีซมันน์ มากยิ่งขึ้น ฟอร์มในตอนนี้พูดได้ว่ากองหน้าจากทีมอาร์เซนอลกำลังมั่นใจอย่างมาก
เจอโรม บัวเต็ง
คาดว่าน่าจะดวลกันโดยตรงระหว่างบัวเต็งกับชิรูด์ จะได้รู้ใครหมู่ใครจ่า ถ้าบัวเต็งสามารถรับมือกองหน้าทีมตราไก่ได้หมดจด นั่นจะเป็นการปิดหนทางทำมาหากินของ กรีซมันน์ ไปในตัว
อย่าทำให้ทีมเสียจุดโทษแบบน่าผิดหวังอีกก็แล้วกัน อาจจะส่งผลกระทบแบบกู่ไม่กลับก็ได้ เกมนี้ถือว่าเป็นมวยคู่เอกของรายการกับการดวลกันระหว่างบัวเต็งกับชิรูด์ ใครชนะส่งผลถึงทีมอีกด้วย
คอลัมน์ ทดเจ็บ3นาที
by ดามัน