หนึ่งในทีมที่ถูกจับตามองอย่างมากในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่หลายคนไม่ว่าจะเป็นเดอะ ค็อป หรือไม่ก็ตามอยากรู้ว่า กุนซือคนเก่งอย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์

จะปรับโฉมหน้าของทีมอย่างไรบ้าง หลังจากที่รับมรดกจาก เบร็นแดน ร็อดเจอร์ส และพยายามดีที่สุดได้แค่การเข็นเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอล 2 รายการคือ ลีก คัพ และยูโรป้า ลีก ที่ผิดหวังทั้งหมด

แต่ดูเหมือนจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่น้อยและเงียบเชียบมากในแอนฟิลด์ เมื่อเทียบกับบรรดาทีมคู่แข่งที่ค่อยๆกวาดต้อนนักเตะระดับสตาร์เข้ามาร่วมทีมทีละรายสองราย

หรือแม้แต่ทีมที่เคยอยู่ต่ำกว่าอย่าง คริสตัล พาเลซ หรือเวสต์แฮม เองก็มีข่าวการย้ายทีมที่น่าตื่นเต้นมากกว่าด้วยซ้ำไป

อย่างไรก็ดีในความเงียบนั้นมีความน่าตื่นเต้นซ่อนอยู่ ในเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดที่ผ่านมากับ ทรานสเมียร์ และ ฟลีทวูด ทาวน์ หัวใจของเหล่าค็อปชนน่าจะค่อยๆเต้นระรัวดังขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ใช่เพียงเพราะเหล่านักเตะใหม่ที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นตัวหลักอย่าง ซาดิโอ มาเน่, โจเอล มาทิป, ลอริส คาริอุส และล่าสุด มาร์โก กรูยิช เท่านั้น

แต่ยังรวมถึงดาวรุ่งดวงใหม่ที่แทบไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนอย่าง โอวี เอจาเรีย, เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ เบน วูดเบิร์น ที่ทำผลงานโดดเด่นอย่างมากใน 2 เกมที่ผ่านมา

ในรายของสตาร์ใหม่ 2 คนที่ผลงานค่อนข้างเด่นคือ มาเน่ และ กรูยิช ที่ดูแววแล้วมีทรงว่าจะสามารถเอาชนะใจของแฟนๆได้ไม่ยาก

มาเน่ เจ้าของค่าตัว 30 ล้านปอนด์ที่มาพร้อมกับเครื่องหมายคำถามมากมาย แสดงให้เห็นว่าทำไม คล็อปป์ จึงยืนยันว่านักเตะรายนี้เป็นหนึ่งในเป้าหมายลำดับแรกๆที่ต้องการได้ตัวมาร่วมทีม และไม่รีรอที่จะรีบเจรจาคว้าตัวทันที

ดาวเตะชาวเซเนกัล มีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์กว่านักเตะคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดนั้นประการแรก และในความฟิตนั้นทำให้เขาสามารถเล่นได้เต็มศักยภาพ แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ถูกคาดหมายว่าเป็นจุดเด่น

เช่น สปีดความเร็วที่พร้อมจะฉีกแนวรับออกเป็นริ้วๆได้ทันที สเต็ปเท้าที่รวดเร็ว เทคนิคการครองบอลที่ดีเยี่ยม ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ (take-on)

นอกจากนี้ มาเน่ ยังแสดงในสิ่งที่เกินความคาดหมายให้เห็นด้วย เช่น เรื่องของการ “วิ่งหลังไลน์” หาพื้นที่ว่างให้ตัวเองได้เสมอ และการผ่านบอลตามช่องที่ถือว่าไม่ธรรมดา

ขาดก็เพียงแค่เรื่องของการสังหารประตูเท่านั้นที่ยังไม่เด่นชัด

แต่รายที่น่าตื่นตามากกว่าเพราะไม่เคยได้เห็นฟอร์มจริงๆคือ มาร์โก กรูยิช มิดฟิลด์จอมทัพทีมชาติเซอร์เบีย ที่ดูแล้วมีโอกาสที่จะเป็น “หัวใจ” ในแดนกลางของลิเวอร์พูล ในยุคของคล็อปป์ได้ไม่ยาก

เจ้าหนูมหัศจรรย์วัย 20 ปี ผู้ปฏิเสธโอกาสจะย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูลทันทีเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเนื่องจากต้องการเติมเต็ม “ความฝัน” ของตัวเองก่อนในการคว้าแชมป์กับ เรดสตาร์ เบลเกรด

ทีมรักแรกของเขา ทำให้การรอคอยที่ยาวนานของทั้งตัวเขาและตัวคล็อปป์ กลายเป็นความอดทนที่คุ้มค่าทันที

สิ่งที่ได้เห็นจากเกมกับ ฟลีทวูด นั้น กรูยิช เป็นกองกลางรูปร่างสูงใหญ่ที่มีความครบเครื่อง และมีจุดเด่นสำคัญที่เป็นจุดอ่อนของลิเวอร์พูลมาตลอดนับตั้งแต่สิ้น สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด คือการยิงประตูจากแถวสองที่จะทำให้เกมของหงส์แดงอันตรายมากขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น สเต็ปเท้าและความเร็วของเจ้าหนูรายนี้นั้นไม่ธรรมดาตามประสานักเตะจากฟากยุโรปตะวันออก ดังจังหวะที่สับขาหลอกก่อนโยกหลบแล้วโดนทำฟาวล์ในช่วงต้นเกมที่ทำให้ทีมได้จุดโทษ ซึ่งน่าเสียดายที่ แดนนี่ อิงส์ ยิงพลาดอย่างน่าเศร้า

ขณะที่ดาวรุ่งนั้นน่าตื่นเต้นทุกรายเพราะ “เก่งเกินวัย” ทุกคนไม่ว่าจะเป็น เอจาเรีย ที่สูงใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่น, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ทรงบอลดีมาก และ วูดเบิร์น ที่เล่นแล้วไม่อยากเชื่อว่านี่คือเด็กอายุแค่ 16 ปี

นักเตะเหล่านี้คือกลุ่มนักเตะสายเลือดใหม่ที่น่าตื่นเต้นครับ และถือว่ามีอนาคตมากกว่านักเตะชุดเดิมที่ๆมีอยู่

ในสเต็ปต่อจากนี้ คล็อปป์ มีทั้งงานในการตัดส่วนเกินของทีมออก ซึ่งก็เริ่มแล้วไม่ว่าจะเป็นรายของ มาร์ติน สเคอร์เทล, จอร์ดอน ไอบ์, เซร์กี้ กานอส และจะมีอีกหลายรายที่ตามมา

และในส่วนของการหานักเตะใหม่ที่แม้จะดูแล้วงานยากกว่าที่คาดมาก แต่ดูเหมือน คล็อปป์ จะเลือกนักเตะได้ “เข้าเป้า” ทุกคน

และทั้งสองส่วนก็จะรวมกันเป็นทีมที่ คล็อปป์ ต้องการจริงๆสำหรับการสู้ศึกในฤดูกาลใหม่

ลิเวอร์พูล อาจจะไม่หวือหวาในตลาดนักเตะเหมือนทีมอื่นๆที่ควักกระเป๋ากันแทบหมดตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์หวังอะไรในฤดูกาลใหม่ที่จะถึงนี้

เพราะการหวังน้อยบางทีอาจจะได้ผลใหญ่ก็เป็นได้ - จริงไหมครับ

คอลัมน์ Feature
by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)

อัลบั้มภาพ สกู๊ป : "New Blood" เลือดใหม่ของ "หงส์แดง" ภาพที่ 19 / 25

สกู๊ป : "New Blood" เลือดใหม่ของ "หงส์แดง"

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

เหมาไปเลย! ลิเวอร์พูล จ้องตาเป็นมันรอสอย "3 แข้งห้างขายยา" ปีหน้า

เผยภาพจำลองสนามใหม่ แมนยู ความจุ 100,000 ที่นั่ง หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแดนผู้ดี

หนึ่งแต้มสุดล้ำค่า! แมนฯ ซิตี้ รอดตายตีเจ๊า อาร์เซน่อล 10 ตัว 2-2 ศึกพรีเมียร์ลีก

ตัดสินถูกแล้ว! พรีเมียร์ลีก แจง "มาร์ติเนซ" แค่ใบเหลืองแม้เปิดปุ่มขาคู่ใส่เพื่อนร่วมอาชีพ