สกู๊ป : ไม่ต้องการคน "ไม่มีใจ"

เห็น “ข่าวลือ” หรือข่าวจริงการโยกย้ายเกี่ยวข้องกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แล้วรู้สึกเสียวๆ วูบวาบปน “ใจหาย” ไปพร้อมๆ กันนะครับ

ไล่ตั้งแต่ก่อน “ยูโร 2016” ที่ เจมี่ วาร์ดี้ ดูเหมือนจะย้ายทีมแน่ๆ ไปลอนดอน ร่วมชายคาอาร์เซนอล

งานนั้น รักไปแล้วเกิน “ครึ่งใจ” ก่อนที่สุดท้ายจะโดนเพื่อนๆ ตัวหลักในทีมนำโดย “กัปตัน” เวส มอร์แกน เกลี้ยกล่อมให้อยู่ต่อ และก็ประสบความสำเร็จ

ในช่วงระหว่างรอบแรกบอลยูโรของทีมชาติอังกฤษนั่นแหละครับ

ณ จุดดังกล่าว ถือว่า “สถานการณ์” ของทีมแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกน่าจะดีสำหรับแคมเปญฤดูกาล 2016/17 เพราะการไม่เสียกำลังสำคัญทั้งที่ดูเหมือนเสียไปแล้ว “ครึ่งตัว”

ก็ไม่ต่างอะไรกับการได้นักเตะใหม่ดีๆ นี่เอง แต่แล้วก็มีข่าวจากแคมป์ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้องการสอย เอนโกโล่ กองเต้ ด้วยราคาเรต 30 ล้านปอนด์หลังไม่ได้ตัว รัดยา เนียงโกลัน จากโรม่า

นั่นก็เท่ากับว่า “จิ๊กซอว์” สำคัญในการลุ้นแชมป์ของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ “สูญเสีย” ไปแล้ว 1 ตัว

ตามด้วยการประกาศว่า หากได้สัก 45 ล้านปอนด์ ริยาด มาห์เรซ สามารถย้ายทีมได้หลัง “ข่าวลือ” เริ่มแรงเกี่ยวกับอดีตดาวเตะพรสวรรค์สูงจาก เลอ อาร์ฟ

แม้ล่าสุดหลังเกมอุ่นเครื่องชนะอ๊อกซ์ฟอร์ด 2-1 รานิเอรี่ จะ “พูดคุย” จนได้ข้อสรุปว่า นักเตะจอมเทคนิค อัลจีเรีย ยืนยันจะอยู่กับทีมต่อไป และจบแล้วครับสำหรับตลาดนักเตะทีม

โดยหากเป็นเช่นนั้นจริง ส่วนตัวผมมองว่า เลสเตอร์ ซิตี้ บริหารจัดการได้ “ยอดเยี่ยม” ทีเดียวในการรักษานักเตะหลักของตัวเองไว้ได้แทบทั้งหมด

เสีย ก็องเต้ เพียงคนเดียวไม่ “ขี้เหร่” นัก แต่ได้ผู้เล่นมาเสริมล่าสุดแค่ 3-4 ตัว นำโดย อาเหม็ด มูซ่า ดาวยิง 16 ล้านปอนด์, หลุยส์ เฮอร์นันเดซ จากสปอร์ติ้ง กิฆอน, นองปาลิส เมนดี้ จากนีซ ฝรั่งเศส,

รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์นายทวารดีกรีทีมชาติเยอรมัน จากฮันโนเวอร์

ดูเหมือนจะน้อยเกินไปในการสร้างความ “คึกคัก” ให้ห้องแต่งตัว และกระตุ้นความกระหายของทีมที่ถ้วยบอลยุโรป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมอยู่ด้วย

ที่น่าสนใจ และเป็น “ประเด็นหลัก” ของผมในวันนี้คือ “เดลี เทเลกราฟ” ได้ยืนยันว่า สตีฟ วอลช์ หัวหน้าแมวมองคนสำคัญของทีม และผู้ช่วยรานิเอรี่ ได้ถูกเอฟเวอร์ตัน ดึงตัวไปร่วมทีมแล้ว

จุดนี้น่าสนใจนะครับ เพราะเมื่อปีเศษ ร็อบ แม็คเคนซี ซึ่งเป็น 1 ในทีมแมวมองถูกสเปอร์สสอยตัวไป ตามด้วยเมื่อต้นปี อาร์เซนอล ก็กระชาก เบน ริคเกิ้ลส์เวิร์ธ ไปร่วมทีม

ทั้ง 2 ครั้งโดยเฉพาะ ริคเกิ้ลส์เวิร์ธ สร้างความ “สะเทือน” และเกิดกระแสเหมือนกันแต่ไม่ได้หนักมาก เพราะเชื่อกันว่า สตีฟ วอลช์ ต่างหากคือ “ตัวจริง” ผู้อยู่เบื้องหลังดีลสำคัญ ๆ ของทีม

วาร์ดี้, มาห์เรซ, ก็องเต้, มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, แดนนี ดริงค์วอเตอร์, แดนนี่ ซิมป์สัน, มาร์ค อัลไบร์ทตัน, เลโอนาร์โด อูลลัว ฯลฯ

ที่น่าเสียดาย คือ รายงานแจ้งว่า เอฟเวอร์ตัน จ่ายเงิน “แพ็คเกจ” ราคา 2 ล้านปอนด์ ชดเชยให้กับเลสเตอร์ ซึ่งถือว่า ถูกมากๆ

ประเด็นในเรื่องนี้มี 2 ประการครับ:

1.ผู้บริหารนำโดยคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฯ มั่นใจใน “บุคคลากร” ที่มีเหลืออยู่ทั้งนักเตะใหม่แม้จะไม่มาก หรือทีมงานชุดเดิมว่า “ดีพอ”

เช่น โจ รัดกิ้น ผู้อำนวยการสโมสรฯ ก็จะมาทำหน้าที่แทน วอลช์ หรือนองปาลิส เมนดี้ ที่จะมาแทน ก็องเต้

2.เลสเตอร์ไม่ต้องการคน “ไม่มีใจ” และจะเห็นได้ว่า แต่ละคนที่ตกเป็นข่าวตั้งแต่ วาร์ดี้, กองเต้, มาห์เรซ, วอลช์ หรือแม้แต่ดริงค์วอเตอร์ (เหลือสัญญาอีก 2 ปี) ล้วนแล้วแต่ได้รับการพูดคุย “ส่วนตัว”

วาร์ดี้ อยู่ต่อ และล่าสุดมาห์เรซ เช่นกัน ขณะที่กองเต้ อยากย้ายทีม เป็นต้น

ครับ นี่คือประเด็น เพราะเมื่อไม่มีใจ หรือไม่อยากอยู่ การ “รั้งตัว” ไว้ หรือพยายามฝืนก็ไม่มีประโยชน์ ต่างจากมอร์แกน ที่ยินดีต่อสัญญาออกไปอีก

หรือนักเตะใหม่ไม่ว่าจะ มูซ่า, เมนดี้ และซีเลอร์ ต่างเอ่ย “ตื่นเต้น” และกระหายอยากจะลงสนามให้เลสเตอร์แบบรู้สึกได้

ครับ “แก่นสำคัญ” ในความสำเร็จของเลสเตอร์ ซิตี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า คือ ทีมสปิริต ความมุ่งมั่น และความกระหายของทุก “ฟันเฟือง”

เมื่อใดแล้วก็ตามที่ “น็อต” หรือกลไกชิ้นใด ชิ้นหนึ่ง ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ

การเปลี่ยนถ่าย ปรับเปลี่ยน คงหนีไม่พ้น และผมหวังว่า เคลาดิโอ รานิเอรี่ จะ “พิสูจน์” ความจริงข้อนี้ให้เราๆ ท่านๆ ได้ประจักษ์อีกครั้งในซีซั่นใหม่นี้ครับ