สกู๊ป : ซัมเมอร์ที่เงียบกริ๊บของ "ปืนใหญ่!"
หลังจากฟุตบอลยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส ปิดฉากลงพร้อมกับความสำเร็จที่เหนือความคาดหมายของทีมชาติโปรตุเกส ตลาดซื้อขายนักเตะก็เริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก ที่ยังได้รับความสนใจ เป็นลีกยอดนิยม ของแฟนบอลบ้านเราเช่นเคย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับหลายทีมใหญ่ ก็ยิ่งทำให้พรีเมียร์ลีกปีนี้ น่าสนใจขึ้นไปมากกว่าเดิม
เริ่มจากการกลับมาอีกครั้งของ โฆเซ่ มูรินโญ่ ที่ต้องคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อจากหลุยส์ ฟาน กัล ซึ่ง “เดอะ แฮปปี้ วัน” เรียกน้ำย่อยของแฟนบอลด้วยการคว้าตัว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เอริค บาญี่, เฮนริค มคิตาร์ยาน และล่าสุด พวกเขากำลังลุ้นกระชากตัว พอล ป็อกบา คืนถิ่นอีกครั้ง ในราคาที่คาดว่าจะสูงสุดเป็นสถิติโลก แบบนี้ แฟนผี เป็นปลื้ม
ลิเวอร์พูล ที่ได้เจอร์เก้น คลอปป์ มาทดลองงาน ตั้งแต่เดือนมกราคม ยอดฝีมือจากเยอรมนี เริ่มปรับเปลี่ยน สร้างทีมที่เขาต้องการขึ้นมา บิ๊กเนมที่น่าจะมีบทบาทสำคัญในซีซั่นที่จะถึง ก็คงไม่พ้น โจเอล มาตีป, ซาดิโอ มาเน่ และล่าสุด จิออร์จิโอ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์จาก นิวคาสเซิ่ล ที่ล่าสุดมีข่าวตกลงเรื่องค่าตัวกันได้เรียบร้อยแล้ว เดอะ ค็อป ได้เฮกันยาวๆ
เชลซี กับกุนซือใหม่ชาวอิตาเลี่ยน อันโตนิโอ คอนเต้ ก็เริ่มปรับจูนทีม ด้วยการเติม มิชี่ บาตชัวยี ในเกมรุก และเอ็นโกโล กองเต้ กลางรับคนสำคัญจากทีม “แชมป์เก่า” เลสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีม ซึ่งทีมสิงโตน้ำเงินคราม คงไม่หยุดเสริมทีมเพียงแค่นี้อย่างแน่นอน สาวก สิงห์บลูส์ ตามข่าวรายวันได้อย่างสนุกแน่นอน
ข้ามมาที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงตรงนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โค้ชคนใหม่ ได้ อิลคาย กุนโดกัน จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และโนลิโต้ อดีตเด็กปั้นตั้งแต่สมัยอยู่ บาร์เซโลน่า ด้วยกัน มาเสริมทีม และเช่นเดียวกับเชลซี ทีมระดับป๋า อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องมีนักเตะเกรดเอเข้ามาเสริมทีม ก่อนตลาดนักเตะปิดตัวลงในอีก 5 สัปดาห์ข้างหน้า
แต่สำหรับ อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ สถานการณ์กลับแตกต่างจาก 4 ทีมคู่แข่งลุ้นแชมป์
พวกเขาทำอะไรกันอยู่?
หลังจากหลอกล่อแฟนบอลของทีม ด้วยการเซ็นสัญญากับ กรานิต ชาก้า มิดฟิลด์ห้องเครื่องจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค มาตั้งแต่ก่อนช่วงยูโร 2016 จะเริ่มขึ้น สร้างความฮึกเหิมในใจให้กับแฟนบอลของทีม (รวมถึงผมเอง… ปีนี้เราจะลุ้นแชมป์เว้ย) แต่หลังจากนั้น ทีมปืนใหญ่ได้เพียงนักเตะที่ว่ากันว่า ซื้อเพื่ออนาคต (อีกแล้ว) มาอีกถึง 2 ราย ไล่ตั้งแต่ ทากูมะ อาซาโน่ ดาวรุ่งซามูไร จาก ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า และร็อบ โฮลดิ้ง จากโบลตัน ส่วนนักเตะที่ซื้อมาใช้งานได้เลย ถึงตอนนี้ยังคงเงียบสนิท
เมื่อเทียบกับการจากไปของนักเตะตัวเก๋าสามคนอย่าง มิเกล อาร์เตต้า, โทมัส โรซิคกี้ และมาติเยอ ฟลามินี่ นักเตะที่ได้มาเท่านี้ ไม่สามารถทำให้แฟนบอลของทีมพอใจได้อย่างแน่นอน เวนเกอร์ เองรับว่าตนเอง และทีมงานยังคงทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหานักเตะใหม่ที่เหมาะสม มาเสริมทีมต่อไป
การเจรจาซื้อนักเตะ “บิ๊กเนม” ในโลกฟุตบอลสมัยใหม่ เงินคือเครื่องมือในการเจรจาที่แน่นอนที่สุด (เงินมาผ้าหลุด??) สำหรับสโมสรต้นสังกัด ส่วนมุมของนักเตะ อาชีพนักฟุตบอล อายุงานสั้นยาวไม่เท่ากัน สิ่งที่พวกเขาต้องการ มากกว่าค่าตอบแทนที่น่าพอใจ คือโอกาสในการคว้าแชมป์ ซึ่งอาร์เซน่อลเสียเปรียบ เมื่อเทียบกับทีมใหญ่อื่นๆ และไม่เพียงต้องตกเป็นตัวเลือกรองของนักเตะเป้าหมายเท่านั้น เหตุผลในการลุ้นแชมป์ยังเป็นเหตุ ทำให้พวกเขาต้องเสียนักเตะสำคัญให้กับคู่แข่งไปแล้วหลายต่อหลายคน
คิดแค่นี้ ก็แทบจะไปไม่เป็น สำหรับ อาร์เซน่อล ในการเสริมทีมรอบนี้ ถามว่ามีโอกาสหรือไม่ที่ทีมจะได้นักเตะใหม่มาเสริมทีม คำตอบคือมีแน่นอน ถ้านักเตะมีคุณสมบัติ ทั้งในเรื่องฝีเท้าใช้งานได้ทันที ทัศนคติ ที่สำคัญที่สุด ราคา ตรงใจกับการช้อปของ อาร์แซน เวนเกอร์
มีเรื่องที่น่าห่วงกว่า…
อย่างที่บอก สำหรับแฟนบอลอาร์เซน่อล สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าการไม่ได้นักเตะใหม่ คือการเสียนักเตะกำลังหลักของทีมออกไป ล่าสุด เฮคเตอร์ เบเยริน แบ็คขวาอนาคตไกล กำลังโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามจีบอย่างหนัก จนทำให้การเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่อีก 5 ปี ต้องเลื่อนออกไปก่อน
นอกจากนี้ เวนเกอร์ ยังต้องพยายาม โน้มน้าวต่อสัญญากับทั้ง เมซุต โอซิล และอเล็กซิส ซานเชซ ซึ่งนักเตะทั้งสองคน ต้องการให้ทีมเสริมทัพอย่างเหมาะสม เพื่อโอกาสในการลุ้นแชมป์รายการสำคัญ ยังไม่รวมถึงจะจัดการอย่างไรกับทั้ง เดวิด ออสปิน่า และวอยเช็ค เชสนี่ ใครจะเป็นประตูมือสองต่อ
จากปีเตอร์ เช็ก ซึ่งมีแนวโน้มว่า ทั้งสองคนอาจถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัว เพื่อรักษาสถานะของนักเตะในการติดทีมชาติ แล้วใครจะเป็นมือสองล่ะทีนี้
ยังไม่ทันเปิดซีซั่นก็ดูจะวุ่นวายไม่น้อย สำหรับทีมยักษ์ใหญ่ของลอนดอนเหนือ ทั้งการลงเล่นในช่วงต้นฤดูกาล และการเสริมทัพก่อน 31 สิงหาคม แฟนบอลของทีม คงทำใจล่วงหน้าไวกันบ้างแล้วไม่มากก็น้อย ก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องตั้งความหวังมาก ไม่ต้องเจ็บมาก หมดปีนี้ เวนเกอร์ หมดสัญญา (ฝันถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่.. ฮ่า)
นานๆเขียนถึงทีมรัก ว่ากันซะยาว มีอีกหลายเรื่องอยากพูดถึง ไว้ว่ากันอีกทีนะ กูนเนอร์ส ทั้งหลาย แล้วพบกันใหม่ครับ