THROWBACK: ย้อนรอย 5 แมตช์ความทรงจำช้างศึก AFF CUP

THROWBACK: ย้อนรอย 5 แมตช์ความทรงจำช้างศึก AFF CUP

THROWBACK: ย้อนรอย 5 แมตช์ความทรงจำช้างศึก AFF CUP
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

5. ทีมชาติไทย 1-0 มาเลเซีย | นัดชิงชนะเลิศปี 1996
ในการจัดการแข่งขันในครั้งแรก เมื่อ 20 ปีก่อน รายการนี้อาจจะยังไม่เป็นที่นิยมสูงสุดในอาเซียนนัก เพราะในการแข่งขันฟุตบอลชายในกีฬาซีเกมส์ ยังเปิดโอกาสให้ทุกทีมส่งทีมชาติชุดใหญ่เข้าแข่งขันได้ ทัวร์นาเมนท์ ชิงแชมป์อาเซียน หรือชื่อเดิมคือ ไทเกอร์คัพ จึงไม่ได้เป็นรายการที่ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน แต่ทีมชาติไทยก็ยังคว้าแชมป์มาครองได้ โดยในนัดชิงชนะเลิศทีมชาติไทยเอาชนะ มาเลเซีย ไปได้ 1-0 จากการทำประตูชัยของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กองหน้าขวัญใจ


4. ทีมชาติไทย 4-1 อินโดนีเซีย | นัดชิงชนะเลิศปี 2000
ภายหลังจากที่ทีมชาติไทย ไม่สามรถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ในการแข่งขันครั้งที่ 2 ทำให้ทีมช้างศึกกลับมาด้วยความมุ่งมั่นที่มากกว่าเดิมเป็นสองเท่า และพวกเขาเก็บชัยชนะรวดในรอบแรก ก่อนที่จะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ อินโดนีเซีย เพื่อนร่วมสายในรอบแรก และในชนะมาได้ 4-1 และในรอบชิงชนะเลิศก็กลายเป็นหนังม้วนเดิมอีก เมื่อทีมชาติไทยได้ วรวุฒิ ศรีมะฆะ สวมบทฮีโร่กดแฮตทริก บวกกับอีกประตูจาก ทนงศักดิ์ ประจักกะตา ช่วยให้ไทยถล่มอิเหนาคว้าแชมป์สมัยที่สองไปครองอย่างยิ่งใหญ่ต่อหน้าแฟนบอลชาวไทยที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน


3. ทีมชาติไทย 2-2 อินโดนีเซีย (ทีมชาติไทยชนะจุดโทษ 4-2) | นัดชิงชนะเลิศปี 2002
ทีมชาติไทยยังคงเดินหน้าสานความยิ่งใหญ่ในอาเซียนต่อไป เมื่อเดินหน้าคว้าแชมป์สมัยที่ 3 มาครอง และเป็นนัดชิงที่สุดประทับใจในความใจเด็ดของนักเตะทีมชาติไทย ที่ต้องลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลอินโดนีเซียเจ้าภาพกว่า 1 แสนชีวิต โดยไทยได้ประตูออกนำไปก่อนจาก ชูเกียรติ หนูสลุง และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น แต่ ชูเกียรติ มาโดนใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม ซึ่งอินโดนีเซียมาตามตีเสมอได้จาก ยาริส ริยาดี้ และ เกนดุท โดนี่ แต่ทีมช้างศึกยังสวมหัวใจแกร่งต้านไว้ได้จนหมดเวลาก่อน เอาชนะจุดโทษไปได้ด้วยสกอร์ 4-2 ถือเป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งแรกของรายการนี้ที่ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ


2.ทีมชาติไทย 1-0 สิงคโปร์ | นัดชิงชนะเลิศนัดที่ 2 ปี 2012
หลังจากเปลี่นรระบบการแข่งขันมาเป็นแข่งแบบเหย้าเยือนในนัดชิงชนะเลิศแล้วนับกฏยิงประตูทีมเยือน ทีมชาติไทยเข้าชิงชนะเลิศได้ 2 ครั้งในปี 2007และ 2008 แต่ก็ต้องพ่ายทั้งหมด จนมาถึงในปี 2012 ทีมชาติไทยเข้าชิงชนะเลิศกับสิงคโปร์อีกครั้ง แมตช์นี้มันมากกว่าการรอคอยเพราะ หากไทยไม่ชนะนอกจากจะอกหักเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ยังจะถูกสิงคโปร์ แซงขึ้นไปเป็นทีมที่คว้าแชมป์รายการนี้มากที่สุด โดยในนัดแรก ไทยออกไปพ่ายลูกหนังเมอร์ไลออนมาก่อน 3-1 ทำให้ในนัดที่สองที่สนามศุภชลาศัย ทีมไทยต้องเอาชนะด้วยสกอร์ 2-0 หรือมากกว่าเพื่อทวงแชมป์กลับมา

ซึ่งทีมช้างศึกมาได้ประตูออกนำจากกีรติ เขียวสมบัติในช่วงท้ายครึ่งแรก และพยายามที่จะบุกอย่างหนักในช่วงเวลาที่เหลือเพื่อบวกประตูเพิ่มแต่ก็ทำไม่สำเร็จได้แค่รองแชมป์ แต่อย่างน้อยทีมชาติไทยได่แสดงให้แฟนบอลท้ังประเทศได้เห็นว่าพวกเขาซื้ออย่างเต็มที่เพื่อแฟนบอลขนาดไหนแม้ไม่ได้แชมป์แต่ก็ประทับใจ

1.มาเลเซีย 3-2 ทีมชาติไทย | นัดชิงชนะเลิศ 2014
หลังจากที่ทีมชาติไทยพลาดหวังจากการคว้าแชมป์ในการชิงชนะเลิศ 3 ครั้งหลังสุด ในที่สุดทีมช้างศึกที่เรียกได้ว่าเป็นผู้เล่นสายเลือดใหม่ ที่ต่อยอดมาจากฟุตบอลซีเกมส์ และ เอเชี่ยนส์เกมส์ โดยผู้เล่นส่วนใหญ่อายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นท์นี้ ทีมชาติไทยชุดนี้ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งอย่างที่เคยๆเพราะด้วยประสบการณ์ที่น้อย หลายคนเพิ่งจะเคยลงเล่นในรายการนี้เป็นครั้งแรก

แต่ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงนัดชิงชนะเลิศทีมชาติไทยชุดนี้สร้างความประทับใจในทุกนัด จนไปถึงนัดสุดท้าย เมื่อพวกเขาก้าวลงสู่สนามบูกิตจาลิลต่อหน้าแฟนบอลนับแสนชีวิต ด้วยสกอร์ทีไ่ด้เปรียบ มาเลเซีย เจ้าบ้านเพราะตุนชัยชนะมาได้ก่อนด้วยสกอร์ 2-0

แต่เหตุการณ์ทุกอย่างพลิกผันเพราะ เสือเหลืองมารัวยิงได้ 3 ประตูจนทำให้แฟนบอลเริ่มเห็นภาพเงาแห่งความผิดหวังลอยมาอีกครั้ง แต่แล้วทีมชาติไทยมาได้ ชาริล ชัปปุยส์ ที่พังประตูตีไข่แตกและเป็นอเวย์โกลสุดสำคัญให้ไทยพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างทันที ก่อนที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะมาบวกประตูที่สอง

แม้ว่าทีมชาติไทยจะพ่ายไป 3-2 แต่ก็เอาชนะได้ด้วยสกอร์รวม หยุดฝันร้ายในความพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศเอาไว้ที่3 ครั้ง และหยิบแชมป์สมัยที่ 4 มาเชยชม พร้อมกับทำให้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กลายหนึ่งเดียวในอาเซียนที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ในฐานะนักเตะและโค้ช

สนับสนุนเนื้อหา 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook