สกู๊ป : โจเซ่ "ใจทมิฬ"

เรียบร้อยซะทีนะครับ (อย่างเป็นทางการ) กับ “ดีล มหากาพย์” พอล ป๊อกบา จากสโมสรยูเวนตุส สู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงบ่ายอ่อนๆ วันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาบ้านเรา

ครับ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นดีลที่กินเวลายาวนาน แต่โดยส่วนตัว ผมไม่เคยมีความคิดแม้แต่ “วินาทีเดียว” ว่า ป๊อกบา จะไม่ได้ย้ายมาโอลด์ แทรฟฟอร์ด

เฉพาะอย่างยิ่งนับจาก เรอัล มาดริด ถอนตัวไปตอนค่าตัวทะลุหลัก 60 ล้านปอนด์จนทีมปิศาจแดงไร้คู่แข่งขัน

ตามด้วย ยูเว่ เองก็ “ไม่รอ” ไปแอบถอย กอนซาโล่ ฮิกัวอิน มาร่วมทีมเสียแล้ว ยิ่งทำให้โอกาสทีมม้าลายจะเก็บตัวป๊อกบาเอาไว้ยิ่งเป็นไปไม่ได้

ฉะนั้น มันจึงเป็นแค่การ “รอจังหวะ” พร้อมๆ กับรอให้ดาวเตะฝรั่งเศสหมดช่วงฮอลิเดย์เท่านั้นก่อนทุกอย่างจะ “ลงเอย” กันด้วยดีแม้จะช้ากว่า ที่ควรจะเป็นราวๆ สัก 1-2 สัปดาห์ก็ตามที

ผมจำได้ว่า เมื่อปลายเดือน ก.ค.กระแสแรงมาก ตามด้วยต้นเดือน ส.ค.ที่ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี้ กำชับว่า ป๊อกบาต้องมาร่วมการเก็บตัวด้วย

นั่นคือ จุดที่เริ่มจะ “เลยเถิด” เพราะการเตรียมทัพแบบนั้นจะมีความเสี่ยงหลายอย่างไม่ว่าจะ บาดเจ็บ, ไม่นิ่งในแคมป์ทั้งที่ยูเวนตุส สเตเดี้ยม และโอลด์ แทรฟฟอร์ด

ทั้งที่ ไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องรอให้ดีลนี้ “คืบใกล้” เดดไลน์สิ้นเดือน ส.ค.เพราะ “เกี่ยงงอน” ตัวเลขกันไม่กี่ล้านจากยอดรวมทะลุ 100 ล้านยูโร

ครับ ป๊อกบา “ตกลง” ย้ายมาร่วมทีมปิศาจแดงด้วยค่าตัวเป็น “สถิติโลก” 105 ล้านยูโร (89.2 ล้านปอนด์) ทำลายตัวเลขของ แกเร็ธ เบล ที่ย้ายจากสเปอร์สไป เรอัล มาดริด 96 ล้านยูโร (81.6 ล้านปอนด์) อยู่พอประมาณ

ในรายละเอียดยังมีอีกหลายจุด เช่น ป๊อกบาจะได้รับเงินโบนัส 5 ล้านยูโร (4.25 ล้านปอนด์) หากตกลงภายใน 5 ปี ของสัญญาปัจจุบันว่าจะต่อสัญญาออกไปอีก

หรือค่านายหน้า (Commission) ของเอเยนต์ มิโน่ ไรโอล่า ที่คาดว่าจะสูงถึง 10 ล้านยูโร (8.5 ล้านปอนด์) ณ เวลาที่ต้องย้ำกันอีกครั้งว่า ไรโอล่า คือ ตัวแทน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และเฮนริค มคิห์ทาร์ยาน ด้วยเช่นกัน

ประเด็นการเป็น “นายหน้า” ให้กับทั้ง อิบรา และมคิห์ตาร์ยาน คือ อีก “ปัจจัย” สำคัญทำให้ดีลนี้แทบไม่มีทาง “ผิดพลาด” ไปได้

โดยใครจะรู้ครับว่า ซลาตัน และมคิห์ทาร์ยาน จะเป็น “ดีลพ่วง” ให้ต้องเอาป๊อกบามาด้วยหรือไม่?

ฟังดูอาจเหมือนว่า ไม่มีอะไร แต่ลึกๆ แล้ว มันสามารถสร้าง หรือผูกปมเป็น “เงื่อนไข” ได้ และก็เป็นเงื่อนไขที่ win-win ด้วยกันทุกฝ่ายเสียด้วยนะครับ

จึงกล่าวได้ว่า โจเซ่ มูรินโญ่ ได้ “ครบแล้ว” นักเตะ 4 คนตามสเป็คตั้งแต่ เอริค บาญี่, มคิห์ทาร์ยาน, อิบรา และป๊อกบา ที่ราคารวมกันไม่ถึง 150 ล้านปอนด์

สเต๊ปต่อจากนี้ นอกจากการ “จัดตัว” 11 คนแรกที่เมื่อวานผมเขียนไปแล้วทั้งระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ก็เห็นจะเป็นการ “คัดออก” คนที่ไม่สำคัญออกไปจากทีม

เพราะสไตล์มูรินโญ่ ต้องการนักเตะที่ทดแทนกันได้ประมาณ 20 + 3 ผู้รักษาประตู เพื่อการบริหารจัดการง่ายๆ

ฉะนั้น นักเตะ “ซีเนียร์” ไม่ว่าจะ บาสเตียน ชไวสไตเกอร์, ฮวน มาตา, เดลีย์ บลินด์, มาร์คอส โรโฮ, มัตเตโอ ดาร์เมียน, แอชลีย์ ยัง, เมมฟิส เดอปาย, อัดนัน ยานูไซ ฯลฯ

หรือแม้แต่ มอร์แกน ชไนเดอร์แลง, ไมเคิล คาร์ริค มีสิทธิ์จะจากไปได้หมดหากได้ข้อเสนอเหมาะสม

เด็กๆ ก็จะมี คาเมรอน บอร์ธวิค-แจ็คสัน, เจมส์ วิลสัน, แพดดี้ แม็คแนร์, แอนเดรียส เปไรร่า และวิล คีน ที่ก็มีสิทธิ์ถูกปล่อย “ยืมตัว” ออกไปก่อน

สาเหตุก็เพราะ “ตัวหลัก” เฉพาะอย่างยิ่งที่เป็น “กระดูกสันหลัง” นั้นได้แล้วตั้งแต่ ดาวิด ดา เกอา, บาญี่, คริส สมอลลิ่ง, ลุค ชอว์, มคิห์ทาร์ยาน, ป๊อกบา, อองโตนี่ มักซิญัล, มาร์คัส แรชฟอร์ด,

เจสซี ลินด์การ์ด, เวย์น รูนีย์, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หรือนายทวาร, กองหลัง, กองกลาง, กลางรุก, กองหน้า มีผู้เล่นที่ต้องการแล้ว

โดย โจเซ่ มูรินโญ่ จะมีเวลาอีกประมาณครึ่งเดือนในการ “กำจัด” นักเตะที่ไม่ต้องการออกไป

จะ “ง่าย” หรือ “ยากกว่า” ซื้อเข้า!?

ผมเชื่อว่า น่าจะง่ายกว่า เฉพาะอย่างยิ่งหลังได้เห็น “ปฏิบัติการ” ต่อ บาสเตียน ชไวสไตเกอร์ หรือเปลี่ยนตัว ฮวน มาตา ล่าสุดที่โจเซ่ “ใจทมิฬ” ใช้ได้ดีเดียวครับ