อยากไปดูโอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่น "ต้องใช้เงินเท่าไหร่" ???
หลังจากที่ญี่ปุ่นเปิดตัวในฐานะเจ้าภาพโอลิมปิกครั้งต่อไปอย่างเป็นทางการในพิธีปิด ริโอ เกมส์ 2016 เมื่อเช้าวันที่ 22 ส.ค. ตามเวลาประเทศไทย จนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์
เพราะใครๆ ก็พูดถึงนายกฯ "ชินโซ อะเบะ" ในชุด "มาริโอ" เกมส์ชื่อดังก้องโลก
ทันทีที่หลังจากจบพิธีปิด ริโอเกมส์ สังเกตที่เห็นสเตตัสตามหน้าเฟซบุ๊ก ก็คือคนไทยจำนวนมาก บอกว่า "อยากไปดูโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นอีก 4 ปีข้างหน้า" จังโว้ยยยยยยยย!!!
วันนี้ทีม "Sanook! Sport" ขอเอาใจ คอกีฬาที่คิดอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆ ของเกมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ถึงแดนอาทิตย์อุทัย
เราเชื่อเรื่องนี้ คงเป็นความใฝ่ฝันของคนที่รักชอบในเกมการแข่งขันกีฬา
และการแข่งขันที่จะมีขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทวีปเอเชียของเราเป็นเจ้าภาพ ก็ดูเหมือนจะทำให้ความฝันในการไปเชียร์กีฬาถึงสนามดูจะไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
เอาล่ะ....ไหนๆ ก็มุ่งมั่นจะไปโอลิมปิก(ในฐานะกองเชียร์) แล้ว
เราลองมาดูซิว่าต้องเริ่มต้นจากสิ่งใด?
เรื่องแรกที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนเลยก็คือ ไปดูโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นต้องใช้เงินมากแค่ไหน
วันนี้เลยขอรวมรวบข้อมูล เกี่ยวกับโอลิมปิกครั้งนี้เท่าที่รู้มาให้ ประกอบกับข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปญี่ปุ่น คนที่อยากไปจะได้เตรียมตัวกันเนิ่นๆ
- ค่าเดินทาง
เชื่อว่าช่วงนั้นค่าตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-โตเกียว จะต้องพุ่งสูงขึ้นตามความต้องการอย่างแน่นอน
แต่ระดับคนไทยผู้มีใจรักของดีราคาถูก คงไม่มีปัญหาในการการคอยเช็คตั๋วโปรโมชั่น แบบเป็นระยะ 555
ส่วนนี้น่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายตรงไปได้มากโข เนื่องจากเราไม่สามารถเช็คราคาล่วงหน้า 4 ปีได้ ทางทีมงานเลยประเมินราคากลางๆ ไว้ก่อนที่ประมาณ 12,000 บาท (หรือต่ำกว่านี้มาก หากเป็นตั๋วโปรโมชั่น แต่คาดว่าคงมีน้อยมาก) โดยเทียบจากราคาตั๋วช่วงเดือนสิงหาคมของปี 2017
- ค่าที่พัก
จะไปทั้งที ต้องไปให้สุด ไปตั้งแต่วันแรกยันวันสุดท้าย! เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายส่วนนี้เราจะคิดเหมือนกับว่าไปดูกันตั้งแต่พิธีเปิดจนถึงพิธีปิด ใช้เวลาทั้งหมด 17 วัน เลือกที่ราคาถูกสุดๆ ตกคืนละประมาณ 800 บาท ค่าที่พักก็จะอยู่ที่ 13,600 บาท
- ค่าบัตรเข้าชมพิธีเปิด
หนังสือพิมพ์นิกเคอิของญี่ปุ่นรายงานว่า บัตรค่าเข้าชมพิธีเปิดอยู่ที่ 8,600-52,000 บาท ขึ้นอยู่กับที่นั่งว่าจะเลือกอยู่ในจุดใดของสนาม
แต่เอาเป็นว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้คร่าวที่ 10,000 บาท ส่วนพิธีปิดก็อีก 10,000 บาท ไม่ต้องนั่งใกล้มาก เอาแค่ให้ได้ซึมซับบรรยากาศก็ฟินในระดับหนึ่งแล้ว เพราะเราจะเก็บเงินส่วนใหญ่ไว้สำหรับไฮไลท์ในข้อต่อไป
- ค่าบัตรเข้าชมกีฬา
ค่าใช้จ่ายตรงนี้ถือว่าสำคัญมากที่สุด! เพราะมันคือเป้าหมายของการไปเยือนโตเกียวเกมส์ 2020
ซึ่งค่าบัตรเข้าชมชนิดกีฬาต่างๆ เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 2,400 บาท โดยตัวเลขตรงนี้จะเปลี่ยนไปตามความนิยมของกีฬา แต่เฉลี่ยแล้วถ้าเราดูกีฬา 1 วันต่อ 1 รายการ เราควรจะต้องเตรียมเงินไว้อย่างน้อย 40,800 บาท
- ค่ากิน ,ค่าเดินทางในโตเกียว, ค่าใช้จ่ายจิปาถะ
เงินก้อนนี้เราขอคิดเหมือนกับว่าฝากท้องไว้กับร้านสะดวกซื้อทุกมื้อและทุกวัน
เพราะจุดประสงค์ของทริปนี้ไม่ใช่กิน เที่ยว ช้อป แต่เป็นเชียร์ เชียร์ เชียร์ เท่านั้น!
เพราะฉะนั้น เรื่องอื่นจึงเน้นประหยัด แต่เต็มที่กับเรื่องดูกีฬา ซึ่งเราเผื่อไว้วันละประมาณ 1,200 บาท รวม 17 วัน อยู่ที่ 20,400 บาท
จากค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ที่เราลองประเมินดู พอจะมองภาพออกว่าการจะไปดูโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่พิธีเปิด ยันพิธีปิด พร้อมชมกีฬาทุกวันอย่างน้อย 1 รายการ
จะต้องใช้เงินทั้งหมดประมาณ 106,800 บาท ย้ำตรงนี้เลยว่า ตัวเลขนี้ ต่อ 1 คน หากไปหลายคนอาจมีตัวหารและค่าใช้จ่ายน่าจะลดลงอีก
แต่อย่างเพิ่งตกใจไป เพราะเห็นตัวเลขแล้ว แฟนกีฬาอย่างเพิ่งเพิ่งท้อ
ยังมีเวลาอีก 3 ปีกับอีก 336 วัน ที่ให้เราได้เริ่มวางแผนเก็บเงินเพื่อให้ทันพิธีเปิดโอลิมปิกที่โตเกียว
ลองคิดง่ายๆ แล้วหารเป็นปีก็ตกแล้ว เฉลี่ยปีละ 26,700 บาท หรือเดือนละ 2,225 บาทเท่านั้น
แต่เชื่อเถอะราคาระดับนี้ คนไทยทำได้แน่นอน คิดซะว่าไปเชียร์กีฬา แล้วยังได้เที่ยวญี่ปุ่น ไปในตัว
ถ้าตั้งเป้าหมายได้แน่นอนแล้วว่าจะไปดูให้ได้ ขั้นต่อไปมาเก็บเงินด้วยความมุ่งมั่นระดับนักกีฬาโอลิมปิกกันเถอะ
ว่าแต่.....พอคิดไปคิดมา "มนุษย์ออฟฟิศ" ดันเกิดคำถามผุดขึ้นมาในใจทันทีว่า "แล้วจะลางานกับเจ้านายยังไง 2 สัปดาห์เต็มๆ" โธ่!!
เรื่องโดย "หนูแพน อินไซต์"