สุดช้ำ!กิเลนพ่ายดวลโทษศรีวิจาย่าร่วงแชมเปี้ยนส์ลีก

สุดช้ำ!กิเลนพ่ายดวลโทษศรีวิจาย่าร่วงแชมเปี้ยนส์ลีก

สุดช้ำ!กิเลนพ่ายดวลโทษศรีวิจาย่าร่วงแชมเปี้ยนส์ลีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด สุดชอกช้ำพ่าย ศรีวิจาย่า ในช่วงดวลจุดโทษ 8-9 หลังเสมอในเวลา 2-2 ร่วงตกรอบ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

ศึกเอเอฟซี แชมปเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ รอบแรก ที่สนามเกโรล่า ศรีวิจาย่า สเตเดียม เป็นการพบกันระหว่างทีม ศรีวิจาย่า ทีมแชมป์เอฟเอคัพจากประเทศอินโดนีเซีย กับ “กิเลนผยอง” เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ไทยลีกจากประเทศไทย

เริ่มเกมทั้ง 2 ทีมต่างเดินเครื่องเข้าใส่กันทันที โดยในน.7 เมืองทองนได้ลุ้นก่อนจากการลากเลื้อยไปทางฝั่งขวาของ คริสเตียน ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดไปที่เสาสอง แต่ ธีรศิลป์ แดงดา กลับพุ่งแหย่ขาเข้าชาจจ์ไม่ถึงบอล

ถัดมาน.14 เมืองทองฯเกือบที่จะขึ้นนำเมื่อ ธีรศิลป์ ไหลบอลให้ ดัสกร ทองเหลา วิ่งเข้ามากระหน่ำด้วยขวาเต็มข้อในเขตโทษ แต่ เฟอรี่ ซูลู นายทวารเจ้าถิ่นยังบินไปปัดบอลข้ามคานได้อย่างหวุดหวิด

จากนั้นน.34 นักเตะทั้ง 2 ทีมหวิดจะมีเรื่องกันเมื่อ ดักโน่ เซียก้า ของเมืองทองฯ กับ เคลาดิโอ ของศรีวิจาย่า เกิดกระทับกระทั่งกันในสนาม ก่อนที่ เคลาดิโอ จะเดินเข้าไปพลักอก ดักโน่ จนล้มคว่ำ ทำให้นักเตะทั้ง 2 ทีมกรูเข้าหากัน ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเข้าไปแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกและแจกใบเหลืองให้แก่ เคลาดิโอ ในที่สุด

ท้ายครึ่งแรกน.44 เมืองทองได้ลุ้นทำประตูจากลุกเตะมุมทางด้านขวา ดัสกร ทองเหลา เปิดโด่งมาที่เสาสองให้ เซส เรห์มาน ตั้งป้อมโขกคนเดียวโล่ง แต่เจ้าตัวกดไม่ลงมทำให้ลุกลอยโด่งข้ามคานออกหลังไป ช่วงเวลาที่เหลือทั้ง 2 ทีมทำอะไรกันไม่ได้ทำให้จบครึ่งแรกยังคงเสมอกันอยู่ 0-0

ออกสตาร์ทครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และเพียงเริ่มการแข่งขันไปได้เพียง 3 นาที ศรีวิจาย่าเจ้าถิ่นก็มาได้ลุ้นทำประตูเมื่อ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ไปทำฟาล์ว เคนห์ กัมป์ บริเวณริมเขตโทษด้านขวา

และเป็นทาง เคนห์ กัมป์ ที่ลุกขึ้นมาเป็นผู้สังหารฟรีคิกเอง โดยหัวหอกผิวสี วิ่งเข้ามาอัดเต็มข้อด้วยเท้าซ้าย ลูกพุ่งทะลุกำแพงก่อนเสียบโคนเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงามให้ ศรีวิจาย่า ขึ้นนำไปก่อน 1-0

หลังเสียประตูเมืองทองฯรีบแก้เกมทันทีด้วยการส่ง อานนท์ สังสระน้อย ลงมาแทน พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ในน.53 และส่ง วีระวุฒิ กาเหย็ม ลงมาแทน โทนี่ คัลลิโอ ที่วันนี้เป็นบ่อน้ำมันให้ทีมศรีวิจาย่าเจาะในน.55

รูปเกมในครึ่งหลังยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่โหมกระหน่ำบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง และในน.74 ก็เกือบบวกสกอร์เป็น 2-0 เมื่อ เคนห์ กัมป์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษด้านขวา แต่จังหวะยิงถุก ภานุพงษ์ วงศ์ษา พุ่งสไลด์ตัวมาสกัดเอาไว้ได้ทัน

จากนั้นในน.80 กองเชียร์เจ้าถิ่นต้องเงียบกริบเมื่อทีมเมืองทองฯมาได้ลูกฟรีคิกนอกเขตโทษ ระยะ 30 หลา และเป็นทาง ดัสกร ทองเหลา ที่วิ่งเข้ามาปั่นด้วยเท้าขวา ลูกพุ่งโค้งก่อนเสียบสามเหลี่ยมมุมบนซ้ายมือเข้าไปอย่างสวยงามให้ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอได้เป็น 1-1

เกมมาถึงช่วงท้าย ทั้ง 2 ทีมเริ่มกลับมาสูสีกันอีกครั้ง และในน.90 เมืองทองฯเกือบได้ประตูชัยเมื่อ อานนท์ สังสระน้อย ผ่านบอลให้ จักรพันธ์ พรใส หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะซัดเต็มข้อด้วยขวา แต่บอลกลับเฉี่ยวเสาแรกออกหลังไปนิดเดียว

จากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2จักรพันธ์ พรใส พลาดโอกาสทองอีกครั้งเมื่อได้จังหวะสับไกยิงในเขตโทษด้านซ้าย บอลพุ่งทำท่าจะเสียบเสาสอง แต่ เฟอรี่ ซูลู นายทวารศรีวิจาย่ายังเหินไปปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด

แต่แล้วในช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย เมืองทองฯต้องเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ ภานุพงษ์ วงศ์ษา ที่โดนใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกม ไปเข้าเสียบสกัด เคนห์ กัมป์ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยว ทำให้ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ ภานุพงษ์ ออกจากสนามทันที

จากนั้นเวลาที่เหลือไม่มีใครทำอะไรกันได้ ทำให้จบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที

เริ่มเกมในช่วงต่อเวลาพิเศษไปได้แค่ 3 นาที เมืองทองฯมาได้ประตูพลิกขึ้นนำเมื่อ นฤพล อารมณ์สวะ กระชากบอลไปจนสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะเปิดเรียดมาหน้าประตู จักรพันธ์ พรใส วิ่งข้ามบอลหลอกที่เสาแรก ลูกหลุดมาถึงเสาสอง และเป็นทาง ธีรศิลป์ แดงดา ที่วิ่งเข้ามาชิพบอลข้ามตัวนายทวารเจ้าถิ่นเข้าประตูไปอย่างคลาสสิกให้ เมืองทองฯ ขึ้นนำ 2-1

ช่วงเวลาที่เหลือในการต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ ทำให้ เมืองทองฯ ยังคงนำอยู่ 2-1

เข้าสู่การต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง ศรีวิจาย่า พยายามเดินเครื่องบุกเข้าใส่ และในน.110 ก็เกือบตามตีเสมอสำเร็จเมื่อ เคนห์ กัมป์ ได้จังหวะยิงโล่งๆในเขตโทษด้านขวา แต่ก็ถูกกองหลังเมืองทองฯรุมเข้าบล็อคเอาไว้ได้ทัน จากนั้นน.112 กองเชียร์ศรีวิจาย่าก็ได้เฮกันลั่นเมื่อ บูดี้ เล่นลูกเตะมุมสั้นทางด้านซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ เทียร์รี่ กาทุสซี่ โฉบเข้าโหม่งจ่อๆไม่ถึง 5 หลาเข้าประตูไป ทำให้ ศรีวิจาย่า ตามตีเสมอ เมืองทองฯ ได้เป็น 2-2

เกมที่เหลือทั้ง 2 ทีมยังคงขับเคี่ยวกันอย่างสนุก แต่ทว่าไม่มีใครทำอะไรกันเพิ่มได้ ส่งผลให้เกมต้องไปตัดสินในช่วงการยิงลูกที่จุดโทษ

ในช่วงการยิงลูกโทษเมืองทองฯเป็นฝ่ายได้ยิงก่อน โดย 4 คนแรกของทั้ง 2 ทีมอย่าง ดัสกร ทองเหลา, จักรพันธ์ พรใส, อานนท์ สังสระน้อย, นฤพล อารมณ์สวะ ของเมืองทอง และ เคนห์ กัม, โปนาร์โย่ อัสตามาน, บูดี้, มาฮาเดียกร้า มารานานโด้ ต่างไม่มีใครพลาด จนมาถึง ดักโน่ เซียก้า คนที่ 5 ของเมืองทองฯ กลับยิงข้ามคาน แต่คนที่ 5 ของศรีวิจาย่า เคลาดิโอ ก็ยิงไปติดเซฟของ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ทำให้ต้องมาดวลในช่วงซัดเดิ้ลเดธ

ในช่วงซัดเดิ้ลเดธ คนแรกของเมืองทองอย่าง คริสเตียน ยิงไปติดเซฟนายทวารเจ้าถิ่น แต่ เทียร์รี่ ของศรีวิจาย่าก็ยิงไปโดน เจ้าตอง” เซฟเช่นกัน ส่วนคนที่ 2 ของเมืองทอง ธีรศิลป์ แดงดา ยิงเข้า ทว่าคนที่ 2 ของศรีวิจาย่า ก็ยิงเข้าเช่นกัน  ขณะที่คนที่ 3 ของเมืองทองฯ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ยิงไม่พลาด แต่ทางฝั่งเจ้าบ้าน มายาดี้ ปังกาเบียน ก็ซัดไม่เหลือเช่นเดียวกัน

แต่แล้วการดวลเป้ามาราธอนก็สิ้นสุดเมื่อ คนที่ 4 ของเมืองทองฯอย่าง วีระวุฒิ กาเหย็ม ยิงไปติดเซฟ เฟอรี่ ซูลู นายทวารเจ้าถิ่น และทาง อัคเหม็ด จูฟริยานโต้ คนที่ 4 ของศรีวิจาย่า ยิงเข้าประตูไป ส่งผลให้ ศรีวิจาย่า เป็นฝ่ายเอาชนะ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์รวม 9-8 หลังเสมอในเวลา 2-2 ทะลุเข้ารอบ 2 ศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

ศรีวิจาย่า : เฟอรี่ ซูลู (GK), เคลาดิโอ อัลเวส, เทียร์รี่ กาทุสซี่, มาฮาเดียกร้า มารานานโด้, โปนาร์โย่ อัสตามาน (C ), อารีฟ ซูโยโน่(บูดี้ น.75), อัคเหม็ด จูฟริยานโต้, รูดี้ วิโดโด้(เคนห์ กัมป์ น.36), ซูปราดี้, มายาดี้ ปังกาเบียน, เรนดี้(บ็อบบี้ ซาเตรีย น.79)

เมืองทองฯ :
กวิน ธรรมสัจจานันท์ (GK), ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ (C ), เซส เรห์มาน(นฤพล อารมณ์สวะ น.68), ภานุพงษ์ วงศ์ษา, โทนี่ คัลลิโอ (วีระวุฒิ กาเหย็ม น.55), ดัสกร ทองเหลา, ดักโน่ เซียก้า, จักรพันธ์ พรใส, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว (อานนท์ สังสระน้อย น.53), ธีรศิลป์ แดงดา, คริสเตียน เคาคู

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ สุดช้ำ!กิเลนพ่ายดวลโทษศรีวิจาย่าร่วงแชมเปี้ยนส์ลีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook