โค้ชหรั่งชมลูกทีมใจหิน ลุ้นจับติ้วรอบต่อไป

“โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือทีมชาติไทยชุดปรีโอลิมปิก ชมลูกทีมหัวใจหิน หลังเอาชนะจุดโทษปาเลสไตน์ 7-6 ทั้งที่ตั้งเล่น 10 คน แถมต้องทนสภาพอากาศหนาวเหน็บ ด้าน เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผจก.ทีม เตรียมวางแผนรอบต่อไปหลังทราบผลการจับติ้วรอบ 2 ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ ขณะที่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกบอลไทย มอบอัดฉีด 1 ล้าน พร้อมสนับสนุนให้ถึงที่สุด

หลังจากที่ทีมชาติไทยชุดปรีโอลิมปิก สามารถผ่านเข้ารอบ 2 การแข่งขันฟุตบอลปรีโอลิมปิก รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบแรก ด้วยการบุกไปเอาชนะ ทีมชาติปาเลสไตน์ ในช่วงการดวลจุดโทษ 7-6 หลังในเวลาปกติ ทีมชาติไทย ต้องพ่ายไป 0-1 รวมผล 2 นัดเสมอกัน 1-1 จึงต้องยิงจุดโทษ และ "ตอง" กวิน ธรรมสัจจานันท์ กลายเป็นฮีโร่ให้กับทีมไทยอีกครั้ง เมื่อค่ำวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยภายหลังที่เอาชนะคู่แข่งท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บออกมาได้ ทางด้าน "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยชุดปรีโอลิมปิก ถึงกับยกนิ้วให้กับนักเตะพร้อมกับเผยว่า “ต้องยอมรับในหัวจิตหัวใจของนักเตะชุดนี้ที่สุดยอดอย่างมาก ที่เล่นท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น แถมยังเหลือตัวผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน ยันเสมอจนมาชนะจุดโทษได้ถือว่าไม่ธรรมดา”

ส่วนทางด้าน "บิ๊กกาเซ็ม" เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีม กล่าวว่า “ดีใจที่เด็กทำได้เราเป็นรองทีมเขาทุกด้านตั้งแต่ตัวผู้เล่นที่น้อยกว่า อากาศก็หนาวเย็นทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว ทั้งนี้ในการเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันในรอบต่อไป เราก็ได้มีการวางแผนเอาไว้หมดแล้ว”

ขณะที่ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่เอาใจลุ้นช่วยทีมอยู่ที่เมืองไทยก็เผยว่า “ต้องชื่นชมกับนักเตะที่มีความอดทนในการต่อสู้ เพราะการเล่นที่บ้านปาเลสไตน์ต้องเจออุปสรรคมากมายทั้งบรรยากาศแฟนบอล และสภาพอากาศที่หนาว อีกทั้งต้องเล่น 10 คนด้วย แต่ว่าก็ผ่านมาได้ด้วยดี ส่วนจากนี้ไปเมื่อทีมกลับมาก็จะได้หารือกับทางทีมงานเพื่อการเตรียมวางแผน การฝึกซ้อมต่อไป โดยสมาคมฟุตบอลฯ ยินดีให้การสนับสนุนเต็มที่เพื่อให้ทีมผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มให้ได้”

ทั้งนี้การผ่านเข้าสู่รอบ 2 ของทีมชาติไทย พวกเขาจะได้รับโบนัสอัดฉีดรวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาท โดยมาจาก "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ 1 ล้านบาท และ เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผจก.ทีมอีก 5 แสนบาท

ส่วนการจับสลากประกบคู่ในรอบสอง ที่ใช้การแข่งขันแบบน็อกเอาต์ จะมีขึ้นในวันที่ 30 มี.ค.54 ที่ประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้จะมีด้วยกัน 24 ทีม โดยมาจากรอบแรก 11 ทีมได้แก่ ไทย, จอร์แดน, คูเวต, มาเลเซีย, อินเดีย, โอมาน, เติร์กเมนิสถาน, อิหร่าน, ฮ่องกง ส่วนอีก 2 คู่ยังแข่งไม่จบได้แก่ ยูเออี พบ ศรีลังกา จะแข่งวันที่ 11 มี.ค. และ เยเมน พบ สิงคโปร์ แข่งวันที่ 21 มี.ค.

ส่วนทีมที่ยืนรออยู่อีก 13 ทีม ที่ล้วนเป็นทีมชั้นนำของเอเชียได้แก่ ออสเตรเลีย,บาห์เรน, จีน, เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, อิรัก, ญี่ปุ่น, เลบานอน, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย,ซีเรีย, อุซเบกิสถาน และเวียดนาม ทั้งนี้ได้กำหนดการฟาดแข้งในรอบสอง นัดแรกวันที่ 19 มิ.ย. และนัดที่สองวันที่ 23 มิ.ย.

โดยเส้นทางในการเข้ารอบโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน ในส่วนของโซนเอเชียจะได้โควตา 3 ทีมครึ่ง ซึ่งทีมที่ผ่านมาในรอบสองจำนวน 12 ทีมจะทำการแบ่งกลุ่มๆ ละ 4 ทีม ทำการแข่งขันพบกันหมดภายในกลุ่มแบบ 2 นัดเหย้า เยือน แชมป์ของกลุ่มจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายทันที และอันดับที่สองที่ดีที่สุดอีกทีมจะไปเพลย์ออฟกับทีมจากโซนแอฟริกาใต้ต่อไป