เลเวอร์ฯอัดชาลเก้2-0ตามจ่าฝูง7แต้ม
เลเวอร์คูเซ่นฟอร์มสุดแกร่งเปิดบ้านไล่อัดชาลเก้04แบบสบายๆ2-0เก็บสามแต้มไล่ตามดอร์ทมุนด์เหลือ 7 แต้ม
ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน
เลเวอร์คูเซ่น 2-0 ชาลเก้
"ห้างขายยา" เลเวอร์คูเซ่น เปิดสนามไบ อารีน่า รับการมาเยือนของ "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ 04
เจ้าถิ่นวางมิชาเอล บัลลัค, เรนาโต้ เอากุสโต้ และ เอเรน แดร์ดิย็อค นำทัพ
ฝั่งทีมเยือนยังไม่มีราลฟ์ รังนิค กุนซือคนใหม่คุมทัพส่งมาริโอ กาฟราโนวิช ยืนกองหน้าคู่ ราอูล กอนซาเลซ
ครึ่งแรกนาทีที่ 9 เลเวอร์คูเซ่นได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกทางขวาเปิดเข้าไปในเขตโทษ มิชาเอล บัลลัค โขกเสยไปเสาไกลแต่ มานูเอล นอยเออร์ ดีดตัวปัดออกไปได้
นาที 19 เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 จากการประสานงานกันสวย มิชาเอล บัลลัค จ่ายบอลจากกลางสนามให้ ซิโมน โรลเฟส ทะลุไปจ่ายต่อเข้าเขตโทษ เอเรน แดร์ดิย็อค หลุดเข้ายิงด้วยขวาเต็มแรงลูกพุ่งผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ เสียบมุมขวาบน
นาที 27 เลเวอร์คูเซ่นนำห่าง 2-0 แบบมีโชคช่วยเมื่อ เรนาโต้ เอากุสโต้ ตวัดบอลเปิดมาจากทางซ้าย ซิดนี่ย์ แซม กำลังหาช่องเข้าโหม่ง คริสโตฟ เม็ทเซลเดอร์ เลยพยายามจะมาโขกตัดหน้าแต่ผิดเหลี่ยมบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป
ช่วงเวลาที่เหลือเกมค่อนข้างเปิดแลกกันสนุกแต่ไม่มีประตูเพิ่มทำให้หมดครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำ 2-0
ครึ่งหลังนาที 52 ชาลเก้ได้ลุ้นเมื่อเอดู เปิดจากทางซ้ายผ่านไปหน้าปากประตู ราอูล เข้าชาร์จโดนไม่ดี เรเน่ อ๊าดเลอร์ รับไม่อยู่ บอลเด้งมาให้ คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส โขกหลุดกรอบ
นาที 65 เป็นโอกาสของเจ้าถิ่นจากลูกเตะมุม เรนาโต้ เอากุสโต้ เปิดยัดเข้าไปเต็มแรง บอลพุ่งแฉลบเสาออกไป
นาที 86 เจ้าถิ่นพลาดได้ประตูที่สาม เมื่อสวนกลับเร็วมาทางซ้าย เรนาโต้ เอากุสโต้ รอจังหวะปาดออกขวาให้ ซิดนี่ย์ แซม ได้หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแต่ดันยิงติด มานูเอล นอยเออร์ ที่ปรี่ออกมาปิดมุม
ช่วงที่เหลือทั้งสองทีมทำประตูกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน เลเวอร์คูเซ่น เปิดบ้านทุบ ชาลเก้ 2-0 ทำแต้มตามหลัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เหลือ 7 แต้ม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เลเวอร์คูเซ่น : เรเน่ อ๊าดเลอร์,ฮันโน บาลิทช์,ดาเนี่ยล ชว้าบ, สเตฟาน ไรนาร์ทซ์, มิชาล คาดเลช,อาร์ตูโร่ วิดาล, ซิโมน โรลเฟส,ซิดนี่ย์ แซม, มิชาเอล บัลลัค, เรนาโต้ เอากุสโต้,เอเรน แดร์ดิย็อค
ชาลเก้04 : มานูเอล นอยเออร์,อัตสึโตะ อูจิดะ, คริสโตฟ เม็ทเซลเดอร์,เบเนดิกท์ เฮอเวเดส,ลูคัส ชมิทซ์,โยแอล มาติป,แอนโธนี่ อันนาน,โฆเซ่ ฆูราโด้, เอดู ,ราอูล กอนซาเลซ, มาริโอ กาฟราโนวิช